น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ผู้ทรงก่อตั้ง ‘พิพิพิธภัณฑ์ผ้าฯ’ แหล่งความรู้ที่ยั่งยืนผ่านเครื่องแต่งกายในราชสำนัก

น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ผู้ทรงก่อตั้ง ‘พิพิพิธภัณฑ์ผ้าฯ’ แหล่งความรู้ที่ยั่งยืนผ่านเครื่องแต่งกายในราชสำนัก

วันพฤหัสบดี ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 06.42 น.

ปีพุทธศักราช 2546 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง กราบบังคมทูลขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ใช้อาคารหอรัษฎากรพิพัฒน์ เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงมุ่งหวังให้เป็นแหล่งความรู้ที่ยั่งยืนเกี่ยวกับผ้าตลอดจนประวัติศาสตร์เครื่องแต่งกาย อันเป็นเอกลักษณ์ของชาติตั้งแต่สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นจนถึงปัจจุบัน สะท้อนผ่านเครื่องแต่งกายในราชสำนักยุคต่างๆ รวมทั้งฉลองพระองค์ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพื่อเป็นแหล่งศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับผ้าไทยและประวัติศาสตร์เครื่องแต่งกายของคนไทย


 

 

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง มีพระราชประสงค์ให้พิพิธภัณฑ์ผ้าฯ เป็นสถานที่รวบรวมจัดเก็บรักษาผ้าไทย และเอกสารที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนจัดแสดงงานหัตถศิลป์ จากผ้าอันทรงคุณค่าของราชสำนักและผ้าพื้นเมืองต่างๆ เพื่อสืบสานพระราชปณิธานในการอนุรักษ์ผ้าทอของไทย ให้คงอยู่เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมของชาติสืบไป

 

ในวันที่ 11 กรกฎาคม พุทธศักราช 2555 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินเยือนพิพิธภัณฑ์ผ้าฯ เป็นการส่วนพระองค์ เพื่อทอดพระเนตรห้องจัดแสดงต่างๆ ห้องปฏิบัติการอนุรักษ์ ตลอดจนร้านพิพิธภัณฑ์ หลังจากมีพระราชประสงค์ให้จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นสถานที่รวบรวมจัดเก็บรักษาผ้าไทย และเอกสารที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนจัดแสดงงานหัตถศิลป์ให้คงอยู่เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมของชาติสืบไป

 

 

 

เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง  พิพิธภัณฑ์ผ้าฯ เปิดให้ร่วมชื่นชมความงดงามของฉลองพระองค์ในสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง พร้อมเรียนรู้พระราชกรณียกิจด้านศิลปวัฒนธรรม การอนุรักษ์หัตถศิลป์ไทยและการพัฒนาอาชีพของราษฎร จากสองนิทรรศการในพิพิธภัณฑ์ผ้าฯ "ชุดไทย: จากราชสำนักสู่ราชนิยม" จัดแสดงฉลองพระองค์ชุดไทยพระราชนิยมทั้ง 8 แบบในสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง และนิทรรศการ "สิริราชพัสตราบรมราชินีนาถ" จัดแสดงฉลองพระองค์แบบสากลตัดเย็บจากผ้าไทย ตั้งแต่ พ.ศ. 2503 – 2543  โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

 

นิทรรศการ “ชุดไทย : จากราชสำนักสู่ราชนิยม” (Chud Thai: Dressing the Nation in Heritage) จัดขึ้นเพื่อเผยแพร่พระราชกรณียกิจของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ด้านการอนุรักษ์และส่งเสริมการแต่งกายแบบไทย และเพื่อเผยแพร่องค์ความรู้เกี่ยวกับชุดไทยพระราชนิยมให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้เรียนรู้ความเป็นมาได้ตระหนักถึงคุณค่าและเกิดแรงบันดาลใจในการร่วมสืบสานวัฒนธรรมไทยอย่างยั่งยืน

 

นิทรรศการ “ชุดไทย : จากราชสำนักสู่ราชนิยม”  (Chud Thai: Dressing the Nation in Heritage) จัดแสดงฉลองพระองค์ชุดไทยพระราชนิยม ทั้ง 8 แบบของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ประกอบด้วย ฉลองพระองค์ชุดไทยเรือนต้น ฉลองพระองค์ชุดไทยจิตรลดา ฉลองพระองค์ชุดไทย อมรินทร์ ฉลองพระองค์ชุดไทยบรมพิมาน ฉลองพระองค์ชุดไทยดุสิต ฉลองพระองค์ชุดไทยจักรี ฉลองพระองค์ ชุดไทยศิวาลัย และฉลองพระองค์ชุดไทยจักรพรรดิ ที่มีความงดงามและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

 

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเป็นต้นแบบในการทรงฉลองพระองค์ชุดไทยในรูปแบบต่างๆ และได้พระราชทานพระราชานุญาตให้สตรีไทยสามารถนำไปเป็นแบบอย่างในการตัดเย็บสวมใส่ จนเป็นที่รู้จักกันในชื่อ "ชุดไทยพระราชนิยม" ซึ่งกลายเป็นต้นแบบชุดประจำชาติของสตรีไทยมาจนถึงปัจจุบัน

 

ต่อมา สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระราชดำริว่า ประเทศไทยควรจะนำ “ชุดไทยประจำชาติ” ตามพระราชดำริของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสนอต่อองค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ซึ่งปัจจุบันได้ถูกบรรจุเข้าสู่กระบวนการพิจารณาในการประชุมคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการสงวนรักษามรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ในปี 2569

 

 

นอกจากนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงมุ่งมั่นสืบสานพระราชดำริของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง และสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เกี่ยวกับชุดไทยพระราชนิยม ด้วยการต่อยอดให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตสมัยใหม่ และเผยแพร่องค์ความรู้ผ่านนิทรรศการ กิจกรรม และโครงการต่างๆ ที่พระองค์ทรงริเริ่ม ทั้งยังทรงสนับสนุนให้ประชาชนและคนรุ่นใหม่เห็นคุณค่าของการแต่งกายไทยในทุกโอกาส เพื่อให้ชุดไทยเป็นทั้งมรดกทางวัฒนธรรมและแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานร่วมสมัย อันจะนำไปสู่การรักษาและเผยแพร่อัตลักษณ์ไทยให้คงอยู่คู่สังคมโลกอย่างภาคภูมิ

 

นิทรรศการ “สิริราชพัสตราบรมราชินีนาถ” จัดแสดงฉลองพระองค์ พระมาลาฉลองพระบาท พระพัชนี และพระกลดของ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ตั้งแต่ยุค 1960 จนถึงยุค 2000 ในฐานะที่ทรงเผยแพร่ความงามของผ้าไทยให้เป็นที่ประจักษ์ด้วยพระองค์เอง เมื่อครั้งเสด็จฯ ไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ และยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นำผลงานจากช่างฝีมือของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ไปจัดแสดงด้วยเสมอ นับเป็นการส่งเสริมผ้าทอและงานศิลปหัตถกรรมไทยให้เป็นที่รู้จักและเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก

 

ภายในนิทรรศการ “สิริราชพัสตราบรมราชินีนาถ” จัดแสดงฉลองพระองค์ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นักออกแบบชาวไทยและชาวต่างชาติ จากห้องเสื้อบัลแมง และห้องเสื้อวาเลนติโน อาทิ นายปิแอร์ บัลแมง,นายอีริก มอร์เทนเซน, นายธีระพันธ์ วรรณรัตน์,นางเรณู โอสถานุเคราะห์, นายยุทธพงศ์ มีพรหม เป็นต้น ออกแบบและตัดเย็บฉลองพระองค์จากผ้าไทยในการเสด็จพระราชดำเนินไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจทั้งในและต่างประเทศ พร้อมฉลองพระองค์ไฮไลท์ 12 ฉลองพระองค์ จากแต่ละยุคสมัย รวมถึงสุวรรณพัสตรา

 

 

ทั้งนี้ สามารถเข้าชมนิทรรศการ “ชุดไทย : จากราชสำนักสู่ราชนิยม”  (Chud Thai: Dressing the Nation in Heritage) จัดแสดงฉลองพระองค์ชุดไทยพระราชนิยม ทั้ง 8 แบบ และนิทรรศการ“สิริราชพัสตราบรมราชินีนาถ” เรียนรู้พระราชกรณียกิจของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ผ่านฉลองพระองค์ในช่วงเวลาต่างๆ ได้ทุกวัน ณ ห้องจัดแสดง 1 พิพิธภัณฑ์ผ้า ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ  ในพระบรมมหาราชวัง ตั้งแต่เวลา 09.00-16.30 น. โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

 

 

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top