ข้อความแรกในการเริ่มต้นพูดคุยกับคนที่เพิ่งรู้จักนั้นสำคัญกว่าที่คิด! ไม่ว่าจะเป็นข้อความแรกถึงคู่ Match ใหม่ๆ บน Tinder หรือการทักทายใครสักคนในชีวิตจริงครั้งแรก จะสามารถกำหนดได้ว่าคุณจะได้ไปต่อหรือพอแค่นี้ การเปิดบทสนทนาแบบมีลูกเล่นเล็กๆ เปรียบเสมือนจุดเช็คอิน ที่ช่วยประเมินเคมีที่เข้ากัน หากทักทายแบบเดิมๆ แบบไม่ตั้งใจอาจทำให้อีกฝ่ายหมดความสนใจ
และอาจโดนเมินได้

 อี๊ฟ – ศศิภัทร์ อิทธิโสภณพิศาล หรือ อี๊ฟ – ศศิ นักจิตวิทยาความสัมพันธ์ 

Tinder ชวน  อี๊ฟ – ศศิภัทร์ อิทธิโสภณพิศาล หรือ อี๊ฟ – ศศิ นักจิตวิทยาความสัมพันธ์ มาแชร์ทริคทักทายอย่างมีสไตล์สำหรับ Gen Z เพื่อ Break The Ice ในการเริ่มบทสนทนา

“บางครั้งการทักทายแรกที่สนุกๆ เพียงข้อความเดียวก็สามารถลดบรรยากาศความเก้อเขิน และเปลี่ยนบทสนทนาให้กลายเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำได้ทันที ข้อความแรกไม่เพียงแค่ช่วยละลายพฤติกรรมแต่ยังสะท้อนถึงความมั่นใจ บุคลิกภาพ และความสนใจในตัวตนของอีกฝ่าย ซึ่งจุดเล็กๆ ที่เป็นไฮไลท์นี้จะช่วยให้คุณเป็นจุดสนใจตั้งแต่ต้น เปรียบเสมือนก้าวแรกในการสร้างเคมีและเสน่ห์เล็ก ๆที่ช่วยเอาชนะใจอีกฝ่ายไปครึ่งทาง” อี๊ฟ – ศศิ กล่าวแนะนำ

หลายคนมักจะรู้สึกประหม่าเล็กๆ เมื่อต้องเป็นฝ่ายเริ่มทักใครสักคนไม่ว่าจะเป็นการส่งข้อความ หรือทักทายกันในชีวิตจริง
แต่ไม่แน่ใจว่าจะเริ่มต้นยังไงดี เปิดด้วยมุกตลกเบาๆ แนวหยอดหน่อยๆ หรือควรชวนคุยแบบชิลๆ สบายๆ ไปก่อน จากผลสำรวจ Modern Day Dating in Thailand ของ Tinder  ระบุว่า 40% ของผู้ตอบแบบสอบถามชอบตอบข้อความที่พูดถึงความสนใจ หรือกิจกรรมยามว่างที่มีร่วมกัน ในขณะที่ 30% ชอบการทักทายด้วยมุกตลกๆ นอกจากนี้ เกือบ 40% ให้ความสนใจโปรไฟล์ที่ผ่านการยืนยันแล้ว การเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงและยืนยันโปรไฟล์สุดปัง บน Tinder จะช่วยให้คุณเป็นจุดสนใจมากขึ้น

อี๊ฟ ศศิ แชร์ทริคกุญแจสู่การสร้างความประทับใจให้กับ Gen Z ที่ช่วยให้การทักครั้งแรก ซึ่งแทนที่จะใช้คำว่า ‘อืม…’ ให้กลายเป็น ‘ว้าว มู้ดนี้แหละใช่เลย’ เทคนิคที่ช่วยเปิดบทสนทนาเหล่านี้เปรียบเหมือนรหัสลับ ที่จะช่วยให้การเริ่มคุยกับใครสักคนเป็นเรื่องสนุก สร้างความประทับใจดี ๆ ตั้งแต่แรก และเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยพัฒนาไปสู่ความสัมพันธ์ที่มีความหมาย

1) พยายามหลีกเลี่ยงคำถามที่ไปต่อไม่ได้ : คำถามที่ให้ตอบสั้นๆ ว่า “ใช่ หรือ ไม่ใช่” เช่น “คุณชอบฟังเพลงไหม” มาลองใช้คำถามอื่นๆ ที่ชวนให้อีกฝ่ายเล่าเรื่องเช่น “เพลงที่คุณชอบฟังซ้ำๆ ล่าสุดคือเพลงอะไร” หรือ “ถ้าต้องเลือกกินขนมได้เพียง 1 อย่างตลอดไปจะเลือกอะไร” คำถามสไตล์นี้จะทำให้บทสนทนาดูสนุกและน่าสนใจมากขึ้น

2) เล่นบทนักสืบ แอบส่องโปรไฟล์ลับๆ : ลองใช้โปรไฟล์ของอีกฝ่ายให้เป็นประโยชน์ ถ้าเขียนว่า “ต้นไม้” แนะนำให้ถามเรื่องต้นไม้สุดโปรด ถ้าเพลงประจำตัวบน Spotify ของอีกฝ่ายคือ Drake ให้ถามว่าท่อนไหนที่ร้องเสียงดังที่สุด ส่วนบนโปรไฟล์ของคุณลองเปิดเผยไลฟ์สไตล์ของตัวเองลงไป ไม่ว่าจะเป็นของหวานที่ชอบ แฟนด้อม ทริปในฝัน หรือแม้แต่ MBTI ผลสำรวจจาก Modern Day Dating in Thailand1 ของ Tinder พบว่า 34% ของ Gen Z ไทย ชอบทักอีกฝ่ายอิงจากสิ่งที่ระบุบนโปรไฟล์

3) เน้นสนุก และไม่ซีเรียส : การส่งข้อความ ไม่จำเป็นต้องเขียนเรียงความแบบยาวๆ เสมอไป ลองคุยแบบเพื่อนสบายๆ ง่ายๆ และสนุก ที่สำคัญอย่าลืมที่จะชื่นชมอีกฝ่าย วิธีนี้ช่วยลดความประหม่า และทำให้คุณดูเฟรนด์ลี่เข้าถึงง่ายยิ่งขึ้น

4) มุกตลก = สัญญาณดี : Meme หรือประโยคสนุก ๆ ที่กำลังอินเทรนด์ หรือมาแรงในช่วงเทศกาลนั้นๆ มักได้ผลเสมอ ลองเล่าหรือเล่นมุกตลกที่เข้ากับช่วงเวลานั้น เช่น “พอเห็นรูปเธอแล้วแพ้เสียงในหัว แต่กับคนอื่นไม่เคยเป็นแบบนี้เลย” ประโยคแนวตลกๆ เหล่านี้จะช่วยเพิ่มเสน่ห์ และสร้างโมเมนต์ที่น่าจดจำ

5) หลีกเลี่ยงประโยคที่ธรรมดาเกินไป : หากคุณเคยส่งข้อความทักใครสักคน เช่น “ทักครับ” หรือ “สวัสดีวันจันทร์” อาจฟังดูเรียบง่ายและเป็นมิตร แต่สำหรับการเริ่มต้นทักใครสักคน ข้อความแบบนี้อาจดูเชย ขาดความตื่นเต้น และอีกฝ่ายอาจไม่อินได้ ลองเปลี่ยนการทักให้มีเรื่องราวและใส่ใจในชีวิตประจำวัน เช่น “มีมัทฉะคาเฟ่เปิดใหม่น่าสนใจมาก อาทิตย์หน้าอยากแวะไปลองด้วยกันไหม” “เรากำลังหาเพื่อนไปคอนเสิร์ต K-POP มีคำแนะนำในการจองบัตรไหม” ประโยคเหล่านี้จะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกถึงความใกล้ชิด และอยากแชร์เรื่องราวมากยิ่งขึ้น

6) ใช้อิโมจิช่วยสีสันของการสนทนา! : การใช้อิโมจิน่ารัก ๆ หรือขี้เล่น จะช่วยทำให้บทสนทนาดูสนุก มีสไตล์ และมีสีสันยิ่งขึ้น โดยเฉพาะข้อความแรก ๆ ที่อาจดูจริงจังแต่พอใส่อิโมจิเล็กน้อย ก็สามารถทำให้บทสนทนาดูซอฟต์ลงได้ แต่ระมัดระวังอย่าใช้เยอะเกินไป เพราะอาจทำให้อีกฝ่ายคิดว่าเราไม่จริงใจ หรือเวอร์!

อี๊ฟ ศศิ แนะนำว่า การส่งข้อความแรกให้น่าสนใจตั้งแต่เริ่มต้น ไม่เป็นแค่เพียงการทักทายแบบธรรมดา
แต่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ “การเดทในยุคนี้คือเรื่องของพลังงาน และมู้ดดีๆ ลองเริ่มต้นด้วยความอยากรู้อยากเห็น เฟรนด์ลี่ และมุกตลกๆ เล็กน้อย คุณอาจจะมีชัยไปกว่าครึ่ง เรื่องราวความรักดีๆ ที่เริ่มต้นเพียงแค่มีมเดียวครั้งต่อไปอาจเป็นคุณ”