วันอาทิตย์ ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
ข้อพิพาททางการทูตระหว่างจีนและญี่ปุ่นที่ลุกลามจากคำพูดของนายกรัฐมนตรี ซานาเอะ ทาคาอิจิ เรื่องการตอบโต้ทางทหารหากจีนบุกไต้หวัน กำลังส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่น เพราะจีนเอาจริงด้วยการตอบโต้ทางเศรษฐกิจและด้านอื่นๆ จนญี่ปุ่นตั้งตัวแทบไม่ทัน
ความตึงเครียดล่าสุดระหว่างจีนและญี่ปุ่นเกิดขึ้นหลังจากนายกรัฐมนตรี ซานาเอะ ทาคาอิจิ ผู้นำหญิงของญี่ปุ่น กล่าวต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 7 พ.ย. ที่ผ่านมาว่า หากจีนเปิดฉากโจมตีทางทหารต่อไต้หวัน อาจสร้างสถานการณ์เสี่ยงที่คุกคามต่อความอยู่รอดของญี่ปุ่น และอาจทำให้ญี่ปุ่นตัดสินใจใช้กำลังทหารได้
คำพูดนี้ส่งผลให้ทางการจีนไม่พอใจอย่างหนัก เริ่มจากกระทรวงต่างปรเทศจีนเรียกเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำกรุงปักกิ่งเข้าพบ เพื่อประท้วงคำกล่าวดังกล่าวและเรียกร้องให้ผู้นำญี่ปุ่นถอนคำพูด พร้อมทั้งเตือนให้ญี่ปุ่นหยุดเล่นกับไฟ และเสริมว่า หากญี่ปุ่นกล้าแทรกแซงสถานการณ์ช่องแคบไต้หวัน จะถือเป็นการรุกรานและต้องประสบกับความพ่ายแพ้อย่างย่อยยับ หนังสือพิมพ์พีแอลเอ เดลี (PLA Daily) กระบอกเสียงของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนเตือนว่า ญี่ปุ่นเสี่ยงทำให้ทั้งประเทศกลายเป็นสมรภูมิ หากเข้าแทรกแซงทางทหารในช่องแคบไต้หวัน
.jpg)
จีนเตือนพลเมืองเลี่ยงเดินทางไปญี่ปุ่น
ต่อมาเมื่อวันศุกร์ที่ 14 พ.ย. กระทรวงการต่างประเทศจีนออกแถลงการณ์เตือนพลเมืองให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปญี่ปุ่นในช่วงนี้ จากกรณีผู้นำญี่ปุ่นได้แสดงความเห็นยั่วยุเกี่ยวกับประเด็นไต้หวัน ส่งผลให้บรรยากาศการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนเสื่อมถอยลงอย่างมาก และสร้างความเสี่ยงต่อความปลอดภัยของชาวจีนในญี่ปุ่นอย่างยิ่ง จึงขอแนะนำอย่างยิ่งให้ประชาชนชาวจีนหลีกเลี่ยงการเดินทางไปญี่ปุ่นในช่วงอนาคตอันใกล้ ส่วนผู้ที่อยู่ในญี่ปุ่นอยู่แล้วขอให้ติดตามสถานการณ์ความปลอดภัยในพื้นที่อย่างใกล้ชิดและเพิ่มการดูแลตนเอง หากเกิดเหตุฉุกเฉินให้รีบแจ้งตำรวจและขอความช่วยเหลือจากสถานทูตและสถานกงสุลจีน
ส่วนสายการบินใหญ่ 6 แห่งของจีน ประกอบด้วยแอร์ไชนา, ไชนาเซาเทิร์นแอร์ไลน์, ไชนาอีสเทิร์นแอร์ไลน์, ไห่หนานแอร์ไลน์, เสฉวนแอร์ไลน์ และเซี่ยเหมินแอร์ ออกประกาศให้ผู้โดยสารสามารถขอเงินคืนหรือเปลี่ยนตั๋วโดยสารที่เดินทางไปญี่ปุ่นก่อนวันที่ 31 ธันวาคม 2568 ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ส่งผลให้สายการบินจีนมียอดยกเลิกตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่นแล้วเกือบ 5 แสนที่นั่ง ขณะที่จำนวนการยกเลิกตั๋วในช่วงหลายวันที่ผ่านมา มีมากกว่าการจองใหม่ถึง 27 เท่า
แน่นอนว่ามาตรการนี้ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อธุรกิจท่องเที่ยวในญี่ปุ่น ซึ่งกำลังจะเข้าสู่ช่วงปลายปีอันเป็นช่วงไฮซีซั่น ข้อมูลจากทางการญี่ปุ่นระบุว่า ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 มีชาวจีนเดินทางมาท่องเที่ยวญี่ปุ่นมากถึงเกือบ 7.5 ล้านคน สูงที่สุดในบรรดานักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด 31.65 ล้านคนที่ไปญี่ปุ่นในช่วงเวลาดังกล่าว ชาวจีนมักนิยมเดินทางไปญี่ปุ่นเนื่องจากเที่ยวบินสั้น แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และราคาที่ดึงดูดใจจากการอ่อนค่าของเงินเยน เฉพาะเดือนกรกฎาคม-กันยายนปีนี้ นักท่องเที่ยวชาวจีนใช้จ่ายในญี่ปุ่นรวม 590,000 ล้านเยน (ราว 123,390 ล้านบาท) สูงที่สุดเมื่อเทียบเป็นรายประเทศหรือรายภูมิภาค
ผู้บริหารบริษัททัวร์แห่งหนึ่งในกรุงโตเกียวเปิดเผยว่า มีกรุ๊ปทัวร์จากจีนขอยกเลิกการเดินทางเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ยอดขายของบริษัททัวร์ลดลงเหลือเพียงร้อยละ 10 ของยอดขายทั้งหมดจนถึงสิ้นปีนี้ จนถึงขณะนี้มีกรุ๊ปทัวร์ขอยกเลิกไปแล้วถึง 20 กลุ่ม คิดเป็นร้อยละ 80 ของยอดขายตลอดทั้งปี การถูกยกเลิกทัวร์ทำให้บริษัทเสียหายอย่างหนัก โดยเฉพาะการยกเลิกแบบกะทันหัน เพราะทางบริษัทได้ดำเนินการติดต่อโรงแรม ร้านอาหาร ไกด์นำเที่ยว และการจัดการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเอาไว้แล้ว ผู้บริหารบริษัททัวร์แห่งนี้ ซึ่งมีกลุ่มลูกค้าหลักเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนบอกว่า หากสถานการณ์เป็นเช่นนี้สัก 1-2 เดือนก็พอจะรับมือไหว แต่ถ้าหากลากยาวไปกว่านี้คงได้รับความเสียหายหนัก
.jpg)
สั่งระงับนำเข้าอาหารทะเลญี่ปุ่น
จีนยังสั่งห้ามการนำเข้าอาหารทะเลของญี่ปุ่นทั้งหมด อ้างเรื่องความกังวลเกี่ยวกับการตัดสินใจของญี่ปุ่นที่ปล่อยน้ำเสียที่ผ่านการบำบัดแล้วจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะที่ประสบความเสียหายลงสู่ทะเลในปี 2566 ทั้งที่เมื่อช่วงต้นปีนี้ จีนเพิ่งผ่อนคลายมาตรการจำกัดการนำเข้าอาหารทะเลญี่ปุ่นบางส่วน หลังจากเคยแบนอาหารทะเลบางส่วนจากญี่ปุ่นตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2566 เหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน เปิดเผยว่าภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน แม้ว่าอาหารทะเลจากญี่ปุ่นจะส่งออกมายังจีน แต่จีนไม่มีตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์เหล่านี้
การระงับคำสั่งซื้อนี้กระทบญี่ปุ่นอย่างหนัก เพราะจีนเป็นตลาดหลักของอาหารทะเลญี่ปุ่น รองรับการส่งออกอาหารทะเลทั้งหมดของญี่ปุ่นมากกว่า 1 ใน 5 หากจีนระงับคำสั่งซื้อทั้งหมด ชาวประมง อุตสาหกรรมแปรรูป และผู้ส่งออกอาหารทะเลในญี่ปุ่นจะเดือดร้อน โดยรวมส่งออกอาหารทะเลญี่ปุ่นปี 2566 มูลค่า 3.9 ล้านล้านเยน (ราว 858,000 ล้านบาท) ญี่ปุ่นอาจต้องหาตลาดใหม่ แต่การแข่งขันสูงและต้นทุนเพิ่มจะฉุดกำไรลง
.jpg)
ขัดแย้งลามถึงการฉายภาพยนตร์
ข้อพิพาทล่าสุดระหว่างญี่ปุ่นกับจีนยังส่งผลกระทบลามไปถึงอุตสาหกรรมภาพยนตร์ หลังจากบริษัทผู้นำเข้าและบริษัทผู้จัดจำหน่ายภาพยนตร์ในจีนแจ้งว่า ภาพยนตร์ญี่ปุ่น 2 เรื่องคือ “เครยอนชินจังเดอะมูฟวี่ ตอน ร้อนแรงแซ่บเวอร์! แดนเซอร์แห่งคาซึคาเบะ” (Crayon Shin-chan the Movie: Super Hot! Scorching Kasukabe Dancers) และ “เซลล์ขยันพันธุ์เดือด” (Cells at Work!") จะยังไม่ฉายในจีนตามกำหนด จากเดิมที่มีกำหนดฉายในอีกไม่กี่สัปดาห์ โดยให้เหตุผลว่าเป็นเพราะกระแสสังคมในหมู่ผู้ชมชาวจีนกำลังต่อต้านญี่ปุ่นอย่างหนัก เช่นเดียวกับภาพยนตร์อนิเมชันเรื่อง “ดาบพิฆาตอสูร ภาคปราสาทไร้ขอบเขต” (Demon Slayer: Infinity Castle) ที่มีกระแสตอบรับดีในช่วงแรก กลับมียอดจำหน่ายตั๋วลดลง เนื่องจากผู้ชมชาวจีนมีความไม่พอใจอย่างมากจากคำพูดของผู้นำญี่ปุ่น
ผลกระทบที่เกิดขึ้นทำให้ญี่ปุ่นพยายามจะรอมชอมกับจีนในอีกมุมหนึ่ง ขณะที่ในมุมของประชาชนทั่วไป ชาวจีนในกรุงปักกิ่งมองว่าความตึงเครียดที่เกิดขึ้นไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนมากขนาดนั้น เพราะมองว่าการเมืองก็คือการเมือง บางคนระบุว่าไม่ได้สนใจความขัดแย้งทางการทูตมากเป็นพิเศษ เพราะการเมืองเป็นเรื่องของกลุ่มที่มีอำนาจสูงกว่า จึงมองว่าไม่ได้ส่งผลกระทบต่อตัวบุคคลในระดับประชาชนมากเท่าใดนัก
แต่สำหรับผู้ประกอบการในบางธุรกิจและอุตสาหกรรม แน่นอนว่าปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องเล็กๆ โดยเฉพาะกับบริษัทญี่ปุ่นบางแห่งคงอยู่ไม่ได้หากไม่มีแรงซื้อจากชาวจีน จึงอยากจะให้ทางการแก้ไขปัญหาในครั้งนี้อย่างเร่งด่วนและไม่ให้กระทบสัมพันธ์
สถานการณ์นี้สะท้อนถึงความละเอียดอ่อนในความสัมพันธ์จีน-ญี่ปุ่น ที่อาจกระทบเศรษฐกิจทั้งสองฝ่าย หากไม่ได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็ว
โดย ดาโน โทนาลี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี