วันพฤหัสบดี ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2568
รายการเทรนด์อาหารและค็อกเทลประจำปีของคิมป์ตัน กลับมาอีกครั้งในปีนี้ พร้อมพาไปสำรวจทิศทางใหม่ของโลกอาหารและเครื่องดื่มที่จะมาแรงในปี 2569 ตั้งแต่สไตล์การรับประทานอาหารที่กำลังเปลี่ยนไป วัตถุดิบดาวเด่น ไปจนถึงเทคนิคระดับผู้เชี่ยว ชาญที่กำลังถูกพูดถึงทั่ววงการ ไม่ว่าจะเป็นค็อกเทลที่ผสานเทคโนโลยีเข้าไว้ด้วยกัน หรือทางเลือกนมจากผลไม้ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ ทั้งหมดนี้ถูกรังสรรค์โดยกลุ่มเชฟและมิกโซโลจิสต์ระดับแถวหน้าจากคิมป์ตันทั่วโลก ผู้ร่วมกันสร้างเทรนด์ใหม่ และนิยามประสบการณ์อาหารและเครื่องดื่มในอนาคต
รายงานเทรนด์ประจำปีฉบับนี้สะท้อนตัวตนด้านความคิดสร้างสรรค์ทางอาหารและเครื่องดื่มของคิมป์ตัน พร้อมมุมมองที่ถ่ายทอดผ่านร้านอา หารและบาร์มากกว่า 100 แห่ง ในโรงแรมทั้ง 83 แห่งทั่วโลก ในฐานะผู้นำด้านฮอสพิทาลิตี้เชิงสร้างสรรค์ โรงแรม ร้านอาหาร และบาร์ภายใต้แบรนด์คิมป์ตันโดดเด่นด้วยเทคนิคที่รังสรรค์อย่างประณีต และประสบการณ์การรับประทานอาหารที่เปี่ยมด้วยรสชาติและคาแรกเตอร์ ซึ่งมีบท บาทสำคัญในการกำหนดทิศทางวงการอาหารและเครื่องดื่มในระดับโลกอย่างต่อเนื่อง
แพททริค โบท ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมคิมป์ตัน มาลัย กรุงเทพฯ และผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ กลุ่มโรงแรมลักชัวรีและไลฟ์สไตล์ ประเทศ ไทย IHG Hotels & Resorts กล่าวว่า “เมื่อผู้เข้าพักมองหาความเชื่อมโยงที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นผ่านอาหารและเครื่องดื่ม เราจึงเห็นการเปลี่ยนแปลงไปสู่ประสบการณ์ที่กระตุ้นทุกประสาทสัมผัส โดยค็อกเทล โปรแกรมเครื่องดื่ม และเมนูอาหารกลายเป็นพื้นที่ในการเล่าเรื่อง ถ่ายทอดตัวตนของสถานที่ วัฒนธรรม และความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งเชฟและบาร์เทนเดอร์ของเรานำแรงบันดาลใจจากทั่วโลกมาผสานเข้ากับเอกลักษณ์ท้องถิ่น เพื่อรังสรรค์อาหารและเครื่องดื่มที่ทั้งสร้างความประหลาดใจ มอบความเพลิดเพลิน และชวนให้เกิดบทสนทนา เราได้นำแนวคิด zero-waste มาใช้ที่ที่คิมป์ตัน มาลัย กรุงเทพฯ ซึ่งสะท้อนถึงความใส่ใจ และต่อยอดออกมาเป็นเครื่องดื่มที่นิยามความหรูหราในมุมมองใหม่ เพราะสำหรับคิมป์ตันแล้ว
การสร้างสรรค์ไม่ใช่การไล่ตามเทรนด์ แต่คือการเป็นผู้นำด้วยความจริงใจ งานศิลป์ และความสนุกเล็ก ๆ ที่ทำให้ทุกประสบการณ์น่าจดจำ”
พอล โลดเดอร์ ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมคิมป์ตัน คีตาเล สมุย เผยว่า "รีสอร์ตกำลังเห็นอิทธิพลของอาหารเมดิเตอร์เรเนียนและตะวันออกกลางเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นเมนูสร้างสรรค์อย่างต้มยำเซวิเช่ หรือฮัมมัสขมิ้นชัน ขณะเดียวกัน เทรนด์อาหารวีแกนและแพลนต์เบสก็ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยนำวัตถุดิบท้องถิ่นของไทยที่คุ้นเคย เช่น หัวปลี มาตีความใหม่ให้กลายเป็นวัตถุดิบระดับพรีเมียม นอกจากนี้ ยังมีการต่อยอดเทคนิคการหมักดอง (fermentation) ในการปรุงอาหารมากขึ้น เพื่อเพิ่มมิติของรสชาติและความซับซ้อนให้กับประ สบการณ์การรับประทานอาหาร"
แขกของโรงแรม ร้านอาหาร และบาร์ในเครือคิมป์ตันทั่วโลก จะได้สัมผัสและลิ้มลองเมนูสร้างสรรค์ที่ถ่ายทอดเทรนด์เหล่านี้ให้มีชีวิตตลอดปี ตั้งแต่อาหารจานเด่นไปจนถึงค็อกเทลสุดครีเอทีฟ ที่พร้อมสร้างความประหลาดใจในทุกคำและทุกแก้ว มาดูกันว่าอะไรคือเมนูและเครื่องดื่มที่กำลัง “ปรุง” และ “เขย่า” วงการอยู่ในรายงาน Kimpton 2026 Culinary + Cocktail Trend Forecast
On the Plate: จากแนวคิดสู่ศิลปะบนจานอาหาร
การกลับมาของศิลปะการปรุงด้วยถ่าน : เมื่อเทรนด์การกินหันกลับมาให้ความสำคัญกับรสชาติจริงและการปรุงแบบใส่ใจ ทำให้ถ่านกำลังกลับมาโดดเด่นทั้งในฐานะวัตถุดิบและเทคนิคการปรุงอาหาร ไม่ว่าจะเป็นโปรตีนหรือผัก แขกจะได้สัมผัสประสบการณ์การใช้ บินโจตัน (Binchotan) ถ่านขาวจากญี่ปุ่นที่ขึ้นชื่อเรื่องควันและกลิ่นรบกวนน้อย ช่วยดึงรสชาติของวัตถุดิบออกมาอย่างชัดเจน เตรียมพบกับเมนูอย่างดอกกะหล่ำย่างซาเต้ เสิร์ฟคู่เลมอนครีม ที่จะทยอยปรากฏในหลายโรงแรมของคิมป์ตันในช่วงเดือนต่อจากนี้ โดยคิมป์ตัน คีตาเล สมุย ได้นำแนวคิดนี้มาถ่ายทอดผ่านเมนู Smoked Miso Butter Corn Ribs ข้าวโพดหวานย่างที่เคล้าด้วยมิโซะบัตเตอร์รมควัน ย่างจนสีทองสวยงาม ก่อนเสิร์ฟในรูปแบบชิ้นพอดีคำ มอบรสชาติอูมามิเข้มข้นอย่างมีลูกเล่น เป็นเมนูที่ทั้งสนุก เต็มไปด้วยคาแรกเตอร์
แพนเค้กกับแรงบันดาลใจจากทั่วโลก
เมื่ออาหารจากทั่วโลกเข้าถึงได้ง่ายขึ้น แพนเค้กจากหลากหลายวัฒนธรรม เช่น ฮ็อตต็อกจากเกาหลี หรือบั๋ญแส่วจากเวียดนาม กำลังถูกนำมาใช้เป็นฐานสำหรับการจับคู่รสชาติอย่างสร้างสรรค์ แพนเค้กเหล่านี้จะพาแขกออกเดินทางผ่านรสชาติ พร้อมยกระดับเมนูคุ้นเคยให้แปลกใหม่ยิ่งขึ้น หนึ่งในตัวอย่างคือเมนูสุดครีเอทีฟอย่างมาร์ตินี่แรงบันดาลใจจากปาเอย่า เสิร์ฟคู่บลินีและคาเวียร์ ที่มีให้ลิ้มลองที่คิมป์ตัน ซอร์เยอร์ เมืองซาคราเมนโต
อาหารจานวัฒนธรรมและครัวร่วมสมัย
ออกเดินทางผ่านรสชาติจากหลากหลายวัฒนธรรม เมื่อเทรนด์อาหารจากรากวัฒนธรรมและครัวลูกผสมยุคใหม่ ก้าวขึ้นมาโดดเด่นในปี 2569 อาหารแต่ละจานได้รับอิทธิพลจากหลายวัฒนธรรมพร้อมกัน ไม่ยึดติดอยู่กับกรอบของประเทศใดประเทศหนึ่ง แต่เปิดรับแรงบันดาลใจจากเพื่อนบ้าน เพื่อถ่ายทอดรสชาติแท้ในมุมมองใหม่ เทรนด์นี้สะท้อนให้เห็นได้ที่คิมป์ตัน ชินจูกุ โตเกียว ผ่านเมนู Japanese Chestnut Mont Blanc ราดซอสคาสซิส ที่นำขนมคลาสสิกสไตล์ฝรั่งเศสมาตีความใหม่ ผสานเข้ากับวัตถุดิบตามฤดูกาลและงานฝีมือแบบญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว
ซิตรัสกับมิติรสชาติที่สดใหม่
ส้มตระกูลซิตรัสกำลังมาแรงในมุมใหม่ โดยสายพันธุ์และลูกผสมที่มีเอกลักษณ์อย่างคาลามันซี ฮัลลาบง และซูโม่ จะเริ่มปรากฏบนเมนูอาหารและเครื่องดื่มมากขึ้น เป็นทางเลือกสดใหม่แทนซิตรัสแบบดั้งเดิม ผลไม้เหล่านี้โดดเด่นด้วยรสเปรี้ยวอมหวานและกลิ่นหอมเฉพาะตัว ช่วยเติมสีสันและมิติใหม่ให้กับจานอาหาร ความสดชื่นและรสชาติที่คาดไม่ถึงนี้เป็นแรงบันดาลใจให้เชฟและมิกโซโลจิสต์ทดลองจับคู่รสชาติและนำเสนอในรูปแบบใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นค็อกเทลผสมยูซุ หรือดรสซิ่งซีฟู้ดและสลัดจากคาลามันซีและมิโซะ ที่ทั้งสดใส แปลกใหม่ และชวนลิ้มลอง
ดิปที่ได้แรงบันดาลใจจากเมนูจานหลัก
เทรนด์การรับประทานอาหารกำลังขยับจากมื้อหลักจานใหญ่ ไปสู่อาหารจานเล็กที่ทานง่ายและแบ่งกันได้มากขึ้น ดิปที่ได้แรงบันดาลใจจากเมนูจานหลักจึงกลายเป็นของทานเล่นเวอร์ชันใหม่ที่ทั้งสนุกและยกระดับประสบการณ์การกิน เมนูคุ้นเคยอย่างลาบ ซึ่งเป็นอาหารยอดนิยมของไทย ถูกนำมาตีความใหม่ในรูปแบบดิป ให้รับประทานได้ในคำเล็ก ๆ โดยที่คิมป์ตัน มาลัย กรุงเทพฯ เมนูนี้นำเสนอในชื่อ ลาปทูน่า ที่มาพร้อมทูน่าสดหมักกับน้ำมะนาว สมุนไพร และน้ำมันงา เสิร์ฟคู่ข้าวเกรียบกรอบสำหรับตัก เปลี่ยนเมนูจานหลักให้กลายเป็นออเดิร์ฟที่เหมาะกับการแชร์ ขณะที่คิมป์ตัน คีตาเล สมุย นำเสนอ ดิปไก่ทิกก้ามาซาลารสเข้มข้น หอมเครื่องเทศ และเนื้อสัมผัสครีมมี่ เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ออกแบบมาเพื่อการแบ่งปันและการสังสรรค์บนโต๊ะเดียวกัน
ลัมแบร์โต วาลเดซ ลารา เอ็กเซ็กคิวทีฟเชฟ โรงแรมคิมป์ตัน มาลัย กรุงเทพฯ สรุปว่า “ปี 2569 จะเป็นปีแห่งความ ‘กรุบกรอบ’ เชฟให้ความสำคัญกับการซ้อนเลเยอร์ของเนื้อสัมผัส เพื่อสร้างมิติใหม่ให้กับอาหาร เปลี่ยนเทคนิคและวัตถุดิบให้กลายเป็นประสบการณ์บนปลายลิ้น นอกจากนี้ เรายังเห็นบทบาทของถ่านที่โดดเด่นมากขึ้น ด้วยความสามารถในการเติมรสชาติเข้มลึก พร้อมแรงบันดาลใจจากอาหารทั่วโลก เช่น ฮ็อตต็อกเกาหลี หรือบั๋ญแส่วของเวียดนาม อาหารสบายๆ อย่างแพนเค้กก็ถูกนำมาตีความใหม่ผ่านมุมมองระดับสากล ขณะที่พฤกษชาติจากธรรมชาติและซิตรัสสายพันธุ์พิเศษช่วยเติมความสดชื่นและสีสันให้กับทุกจานอาหาร”
สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับ Cocktail Trend Forecast ในรายงาน Kimpton Culinary + Cocktail Trends Forecast 2026 สามารถติดตามอ่านเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์: kimpton.com/culinaryandcocktailstrends
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี