วันจันทร์ ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ในยุคที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) กลายเป็นกระแสหลัก หลายองค์กรกำลังเผชิญกับความท้าทายในการเปลี่ยน AI จากการเป็นเพียงเครื่องมือทดลอง ให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างพื้นฐานที่สร้างมูลค่าได้จริง Manao Software บริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์สัญชาติเดนมาร์กที่มีสำนักงานใหญ่ในประเทศไทย ผู้เชี่ยวชาญด้านซอฟต์แวร์ระดับแถวหน้า ได้วางยุทธศาสตร์สำคัญในการสร้าง AI ที่ "เข้าใจธุรกิจอย่างแท้ จริง" โดยชูเทคโนโลยี RAG (Retrieval-Augmented Generation) และ Workflow Automation เป็นกุญแจสำคัญ ตัวเปลี่ยนเกมธุรกิจให้องค์กรมีความแตกต่าง และสร้างการเติบโตแบบยั่งยืน ทรานส์ฟอร์มธุรกิจสู่ยุค Smarter Operations ได้อย่างมั่นคง
Manao Software ไม่ใช่แค่บริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ แต่วางตำแหน่งตัวเองเป็น “ที่ปรึกษาที่ไว้วางใจได้สำหรับผู้นำธุรกิจ” มุ่งช่วยองค์กรเปลี่ยนเทคโนโลยีใหม่อย่าง AI และระบบอัตโนมัติ ให้กลายเป็นผลลัพธ์ที่จับต้องได้และสร้างคุณค่าทางธุรกิจอย่างแท้จริง แต่ AI ที่จะเข้ามาช่วยธุรกิจก็ไม่ใช่ AI แบบทั่วไป เพราะไม่สามารถเข้าใจบริบทธุรกิจได้มากเพียงพอ จุดแข็งของ Manao Software จึงการวางกลยุทธ์ด้วยการนำ AI ที่เข้าใจกระบวนการทำงานของธุรกิจมาช่วยองค์กรให้ทำงานและวางแผนต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ
คริสโตเฟอร์ มอสซ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Manao Software กล่าวว่า "ที่ Manao Software เรามองว่า AI ทั่วไป (General AI) เปรียบเสมือนเครื่องมือแบบ One-size-fits-all แม้ว่ามันจะมีประสิทธิภาพสูง แต่บ่อยครั้งมันยังขาดความเข้าใจที่ละเอียดอ่อนในบริบทเฉพาะของแต่ละธุรกิจ เมื่อเราพูดถึง "AI ที่เข้าใจธุรกิจอย่างแท้จริง" เราหมายถึง AI ที่ถูกออกแบบมาให้รู้จักกระบวนการทำงานเฉพาะทาง คำศัพท์เฉพาะในองค์กร รวมถึงลักษณะการดำเนินงานที่เป็นเอกลักษณ์ของบริษัทนั้นๆ มันคือการฝังความเข้าใจในตัวธุรกิจจริง ๆ ลงไปในตัวโมเดล จะต้องมีองค์ประกอบทั้ง ชุดข้อมูลเฉพาะทาง (Domain-specific datasets), การฝึกฝนตามบริบท (Contextual training), การปรับจูนด้วยความรู้ภายใน (Fine-tuning with internal knowledge) และการเชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูลของบริษัท"
Manao Software ชูเทคโนโลยี RAG และ Workflow Automation เป็นตัวเปลี่ยนเกมที่สำคัญ ทำให้ AI มีความเข้าใจธุรกิจ ไม่ใช่เป็นแค่ AI ทั่วไป แต่เป็นผู้ช่วยทางธุรกิจตัวจริง
สำหรับองค์กรที่มีข้อมูลมหาศาล เทคโนโลยี RAG (Retrieval-Augmented Generation) คือทางออกที่ดีที่สุด RAG จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหา AI ที่ให้ข้อมูลทั่วไปเกินไป โดยระบบจะทำหน้าที่ดึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องและทันสมัยที่สุดจากคลังข้อมูลภายในมาใช้ประกอบการตอบคำถามแบบเรียลไทม์ ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้มีความแม่นยำ และตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะหน้าขององค์กรได้อย่างตรงจุด
“จากประสบการณ์ของเรา เมื่อองค์กรมีฐานข้อมูลที่สะอาด เป็นระบบ และเชื่อมโยงกันอย่างดี การนำ RAG และ AI อื่น ๆ มาใช้งานจะมีประ สิทธิภาพมากขึ้นอย่างชัดเจน เปรียบเสมือนการสร้างบ้านบนฐานรากที่มั่นคง” คริสโตเฟอร์ กล่าวเสริม
รวมไปถึงการจัดการเวิร์กโฟลว์อัตโนมัติ (Workflow Automation) ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญในการนำ AI ไปใช้งานจริง คือสะพานที่เปลี่ยน AI จากแนวคิดที่น่าสนใจ ให้กลายเป็นมูลค่าทางธุรกิจที่จับต้องได้ในทุก ๆ วัน ยกตัวอย่างเช่น ที่ Manao Software ใช้ AI ในเวิร์กโฟลว์จริง เช่น ระบบจัดการ Lead Management ที่ AI สามารถคัดกรอง ประเมินคุณภาพและบันทึกข้อมูลลง CRM ได้ทันที ช่วยให้ทีมขายโฟกัสไปที่โอกาสทางธุรกิจที่มีมูลค่าสูงสุดได้ทันที การทำเช่นนี้ช่วยให้ธุรกิจขยายตัวได้โดยไม่ต้องเพิ่มจำนวนพนักงานตามสัดส่วน ซึ่งส่งผลดีต่อต้นทุนในระยะยาว ทำให้องค์กรก้าวล้ำหน้าไปหนึ่งก้าวเสมอ และมั่นใจได้ว่าทุกโอกาสจะถูกจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ
ที่สำคัญที่สุดในการนำ RAG มาใช้งานนั้น สิ่งที่ต้องระวังคือความปลอดภัยของข้อมูล Manao Software เน้นย้ำเรื่องการวางสิทธิ์เข้าถึงข้อมูล (Role-based permissions) ภายในระบบ AI เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เข้าถึงข้อมูลที่ตนไม่มีสิทธิ์มองเห็น AI จึงต้องถูกออกแบบมาให้ทำหน้าที่เป็นทั้งผู้ช่วยที่ชาญฉลาดและผู้รักษาความปลอดภัยข้อมูลไปพร้อมๆ กัน จึงมั่นใจได้ว่าช่วยลดความเสี่ยงด้านข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เมื่อองค์กรต่างๆ ผสาน AI เข้ากับระบบอัตโนมัติ แน่นอนว่าสามารถคาดหวังผลลัพธ์ที่วัดผลได้ในหลายมิติ ประการแรกคือ AI ช่วยให้ธุรกิจสามารถขยายสเกลได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องจ้างพนักงานเพิ่ม สามารถคุมต้นทุนได้ อีกทั้งยังได้ประสิทธิภาพในการทำงานสูงขึ้น ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทันท้วงที
ทั้งนี้องค์กรควรเตรียมความพร้อม 2 ด้านหลัก 1) โครงสร้างข้อมูลที่แข็งแรง ปลอดภัย และเข้าถึงได้ 2) ทีมงานที่เข้าใจทั้งเทคโนโลยีและบริบทธุรกิจ เพื่อให้ AI ถูกนำไปใช้ได้อย่างสอดคล้องและยั่งยืน
คริสโตเฟอร์ มอสซ์ สรุปทิ้งท้ายว่า "ในการออกแบบโซลูชัน AI ให้สามารถ Scale ได้ หัวใจสำคัญคือการมุ่งเน้นไปที่ความเป็นโมดูล (Modularity) และ ความยืดหยุ่น (Flexibility) ตั้งแต่เริ่มต้น ควรสร้าง AI ในลักษณะที่สามารถเชื่อมต่อส่วนประกอบใหม่ๆ สลับเปลี่ยนโมเดล หรือรวมแหล่งข้อมูลเพิ่มเติมเข้าไว้ด้วยกันได้โดยไม่ต้องรื้อระบบใหม่ทั้งหมด ให้ลองจินตนาการว่ามันเหมือนกับการต่อเลโก้แทนที่จะเป็นการเทคอนกรีต แนวทางแบบโมดูลนี้จะช่วยให้การปรับตัวตามการเติบโตและการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจทำได้ง่ายขึ้นมาก
ในเชิงหลักการ ควรให้ความสำคัญกับการใช้ Open Standards และ API เพื่อให้ส่วนต่างๆ ของระบบสามารถสื่อสารกันได้อย่างราบรื่น นอก จากนี้ควรลงทุนกับการทำคู่มือ (Documentation) และการฝึกอบรมที่ดี เพื่อให้ทีมงานสามารถพัฒนาระบบต่อยอดไปได้เรื่อยๆ การสร้างเทค โนโลยีที่ยืดหยุ่น และมีการบันทึกข้อมูลไว้อย่างชัดเจน จะช่วยรับประกันว่าโซลูชัน AI ของคุณจะเติบโตไปพร้อมกับคุณ และสนับสนุนการขยายตัวของธุรกิจในระยะยาวโดยไม่ต้องเสียเวลาสร้างใหม่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า"
สามารถติดตามเรื่องราวและบริการของ Manao Software เพิ่มเติมได้ที่ www.manaosoftware.co.th และ www.manaosoftware.com
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี