กลับมาพบกันเป็นประจำทุกวันอาทิตย์  วันเวลามันช่างล่วงเลยผ่านไปรวดเร็วปานดั่งสายลมพัด เช่นเดียวกับ “คนมายา” ผู้เคยมีชื่อเสียงโด่งดังคับฟ้าในวันวาน  ซึ่ง ณ วันนี้วันเวลาได้พลักพรากความอ่อนวัย และ ความสำเร็จ อันหอมหวานให้ผ่านพ้น บ้างก็ล้มหายตายจาก หลงเหลือฝากไว้เพียงแค่ชื่อให้จดจำ คุณงาม ความดี และผลงานอันลือชา

แต่หลายท่าน ยืนหยัด ต่อสู้กับกาลเวลา ผ่านร้อน ผ่านหนาว   เฝ้าดูการเปลี่ยนแปลของยุคสมัย เพื่อมาบอกเล่าถึงอดีตอันรุ่งโรจน์ ให้คนรุ่นหลังได้สัมผัสกับวันวาน

ซึ่ง “ทีมข่าวบันเทิงแนวหน้า” ยังคงนำ “คุณผู้อ่าน” สำราญไปกับความอลังการที่เรานำมาเสนอให้กับท่านผู้ที่ชื่นชอบ ศิลปินดารา นักร้องเก่า  มาให้หวนรำลึกถึงวันวาน

แหละนี่คือช่วงเวลาของการฉลอง 74 ปีให้กับวงดนตรีที่มีคนรู้จักหัวหน้าวงในระดับโลก ครูเอื้อ สุนทรสนาน  ท่านเป็นทั้งศิลปินแห่งชาติ และบุคคลดีเด่นด้านวัฒนธรรมของโลก  ที่คนไทยยอมรับกับความเป็น สุดยอดของศิลปินอย่างแท้จริง

ซึ่ง“บันเทิงแนวหน้า” กับ “มูลนิธิสุนทราภรณ์” โดย “หมึกดำ” บรรณาธิการฝ่ายข่าวบันเทิง กับ คุณ อติพร สุนทรสนาน เสนะวงศ์ ขอส่งความสุขให้กับ แฟน RETRO เปิดตัวศิลปินที่นับเป็นสมาชิกทั้งการก่อตั้งวงสุนทราภรณ์ หลากหลายรุ่นมาให้อ่าน โดยสัปดาห์นี้พบกับ

ร้อยเอก สมคิด  เกษมศรี เกิดเมื่อวันจันทร์ที่  10  ธันวาคม  2488  จังหวัดราชบุรี บิดาชื่อ นายตุ๊  เกษมศรี  มารดาชื่อ   นางเสงี่ยม  เกษมศรี เป็นบุตรคนที่ 4 ของพี่น้องจำนวน  7  คน จบการศึกษาจากโรงเรียนสันติราษฎร์บำรุง ด้านชีวิตสมรส ปี พ.ศ. 2514 ได้สมรสกับน.ส.จั่นทิพย์ สุฐินบุตร นักร้องดาวรุ่งพรุ่งนี้สุนทราภรณ์ ยุคเดียวกัน มีธิดา 1 คน หลังหย่าขาดจากกันได้สมรสกับ น.ส.สายทิพย์  ตรีวิเชียร มีธิดาอีก 2 คน                                 

สมคิด  เกษมศรี เข้าทำงานประจำอยู่ที่กรมทรัพยากรธรณี ด้วยวัยเพียง 16 ปี และมีโอกาสร้องเพลงตามงานเลี้ยงภายในหน่วยงานบ่อยครั้ง หลังทำงานได้ 2 ปี พ.ศ  2505 อาจารย์สมภพ จันทรประภา ได้พาไปฝากฝังกับครูเอื้อ สุนทรสนานที่แผนกบันเทิงกรมประชาสัมพันธ์ โดยได้เริ่มร้องเพลงในยุคของ “ดาวรุ่งพรุ่งนี้สุนทราภรณ์” รุ่นเดียวกับ ยรรยง เสลานนท์ , ดำรง สุทธิพงศ์, ธรรมรัตน์ นวะมะรัตน์, ศรวณี โพธิเทศ และรุ่งฤดี แพ่งผ่องใส ยามว่างต้องมาฝึกร้องเพลงและออกงานร่วมกับวงกรมประชาสัมพันธ์  และได้รับมอบหมายให้บันทึกเสียงเพลงแรกคือ “คิดถึงฉันบ้าง”

ปี พ.ศ.2509 “สมคิด” ครบวัยเกณฑ์ทหาร ผลการตรวจเลือกจับได้ใบแดง ต้องไปประจำการพลร่มอยู่ที่ค่ายเอราวัณ ลพบุรี ทำให้ห่างร้องเพลงไป 2 ปี หลังปลดประจำการสมคิดก็ยังคงทำงานอยู่ที่กรมทรัพยากรธรณี กระทั่งครูเอื้อต้องการเสียงนักร้องใหม่ ที่ต้องร้องเพลงชีวิตป่าในภาพยนตร์เรื่องชีวิตป่า ที่ได้ มิตร ชัยบัญชา รับบทเป็นเสือกลิ่นศักดิ์ จึงเลือกสมคิดไปร้องบันทึกแผ่น ทั้งหนังและเพลงชีวิตป่าประสบความสำเร็จ แต่ผู้ชมยังคงเข้าใจว่ามิตร ชัยบัญชา เป็นผู้ร้อง ครูเอื้อจึงนำเพลงคิดถึงฉันบ้างที่เคยได้รับความนิยม มาให้สมคิดร้องอัดแผ่นใหม่จนโด่งดัง ก่อนที่จะแต่งเพลงซื้อหุ้นใจและทาสรักให้ร้อง สมคิด เกษมศรี เป็นที่รู้จักมากขึ้นเมื่อได้ร้องเพลงคู่ ฉิมพลีสีทอง และช่อรักซ้อน และเพลงรำวงหมู่

ต่อมาในปี 2512 เมื่อครูเอื้อฯได้เปิดโรงเรียนสุนทราภรณ์การดนตรี  ได้ศึกษาวิชาดนตรีกับครูเอื้อ สุนทรสนาน, ครูเวส สุนทรจามร และครูสริ ยงยุทธ จนจบหลักสูตร และได้เข้าเป็นครูฝึกสอนวิชาขับร้องให้กับนักร้องนักเรียนของโรงเรียนสถนทราภรณ์การดนตรี

ภายหลังสมคิดจึงเริ่มหารายได้พิเศษ ด้วยการไปเล่นดนตรีกลางคืนตามไนต์คลับที่โลลิต้า, สีดา, อเล็กซานเดอร์ และมูแรงรูจ ก่อนต่อยอดมาย่านถนนเพชรบุรี โมแกมโบ และไซซี ซึ่งบางโอกาสยังได้ร่วมร้องเพลง ขณะที่กลางวันยังคงทำงานที่กรมทรัพยากรธรณี กระทั่งลาออกในปี พ.ศ.2524

“ สมคิด” พกพาความสามารถทางดนตรีมาสอบเข้ากองดุริยางค์ทหารบก ในตำแหน่งคีย์บอร์ดและเรียบเรียงเสียงประสาน โดยเริ่มบรรจุในยศสิบตรีและมุ่งมั่นศึกษาศาสตร์ทางดนตรี สมคิด มีโอกาสฝึกอบรมดนตรีชั้นสูงสุดกับ อ.แมนรัตน์ ศรีกรานนท์ ศิลปินแห่งชาติ ที่สยามกลการ ก่อนที่จะรับจ้างทำงานเพลงให้กับสถาบัน อาทิ วิทยาลัยครูฉะเชิงเทรา, ผดุงศิษย์พิทยา และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค

กว่า 49 ปีบนถนนดนตรี สมคิด เกษมศรี ได้แต่งเพลงมากกว่า 100 เพลง จึงได้ก่อตั้งวงดนตรีเกษมศรีขึ้นมาเพื่อรับงานแสดง โดยเล่นประจำอยู่ที่ซุ้มกรมชลประทานในงานกาชาดทุกปี รวมถึงงานคอนเสิร์ตบรมครูดนตรี หลังเกษียณอายุราชการ สมคิด มีความมุ่งมั่นที่จะใช้เวลาไปทำงานเพลง โดยมีแผนการจะนำเพลงที่ตนเองได้สร้างสรรค์ไว้มากว่า 100 เพลง มาบันทึกแผ่นเสียง ผ่านน้ำเสียงของนักร้องคุณภาพ เพื่อเป็นการหารายได้ให้เพื่อนร่วมอาชีพ

ประวัติการรับราชการ

1.             เป็นทหารประจำการ ปีพ.ศ.2509 เหล่าทหารร่ม

2.             รับราชการเป็นเสมียนที่กรมทรัพยากรธรณี ปี พ.ศ.2510 – 2520

3.             รับราชการเป็นทหารดุริยางค์ ตำแหน่งสุดท้ายเป็นผู้บังคับหมวดดุริยางค์กรมการทหารสื่อสาร ยศร้อย

                 เอกจนเกษียณอายุ ในปี พ.ศ.2549 ภารกิจหลักของทหารดุริยางค์

ก.      บรรเลงดนตรีไทยสากล และดนตรีไทย ให้ผู้บังคับบัญชาในงานรื่นเริงต่างๆ

ข.      สอนวิชาการดนตรีสากลและดนตรีไทย ให้แก่บุคคลทั่วไป ข้าราชการและบุตรหลานของกรมการทหารสื่อสาร

ค.      ทำหน้าที่นำแถวสวนสนามในงานพิธีเช่น

1.พิธีปฏิญาณตนต่อหน้าธงไชยเฉลิมพล  ในวันกองทัพไทย

2.พิธีปลดทหารกองประจำการผลัดที่ 1

3.พิธีเกษียณอายุของข้าราชการทหารสื่อสาร และตามหน่วยงานที่ขอมา

4.พิธีปลดทหารกองประจำการผลัดที่ 2  ฯลฯ

การศึกษา

1.      จบชั้นประถมปีที่ 4 จากโรงเรียนคลองตาจ่าคงจีบอุทิศ พ.ศ.2498

2.      เรียนมัธยมปีที่ 1 โรงเรียนดรุณานุเคราะห์ พ.ศ.2499

3.      เรียนต่อมัธยมปีที่ 2 โรงเรียนบางคนที   เมธีชุณหะวัณวิทยาลัย จนจบมัธยมปีที่ 6  พ.ศ.2504

4.      เรียนต่อมัธยมศึกษาปีที่ 4  ที่โรงเรียนสันติราษฎร์บำรุงจนจบ ม.ศ. 4 พ.ศ.2505

5.      เรียนทฤษฎีการดนตรีและเปียโน ที่โรงเรียนสุนทราภรณ์การดนตรี (รุ่น 1)เป็นเวลา 2 ปี สอบได้               

         ประกาศนียบัตรเมื่อ 29 ธันวาคม พ.ศ.2514

6.      เรียนเรียบเรียงเสียงประสาน ที่โรงเรียนสยามกลการ กับอาจารย์แมนรัตน์ ศรีกรานนท์  หลักสูตร 2 ปี

         จนได้ประกาศนียบัตร เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2520

7.     เรียนชั้นนายสิบเบื้องต้น ที่โรงเรียนดุริยางค์กองทัพบก สอบได้ที่ 1 พ.ศ.2528

8.     เรียนชั้นนายสิบอาวุโส ที่โรงเรียนดุริยางค์กองทัพบก สอบได้ เกรด 3.99 พ.ศ. 2538

9.     เรียนชั้นนายร้อย ที่โรงเรียนดุริยางค์กองทัพบก สอบได้เกรด 3.99 พ.ศ.2545

10.    เคยศึกษาในมหาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช สาขานิเทศศาสตร์ ยังไม่จบเพราะติดราชการ

11.    เรียนที่มหาลัยรามคำแหง คณะศิลปกรรมศาสตร์ เอกวิชาดนตรีไทยสมัยนิยม 4 ปี รุ่น 1

ได้เกียรตินิยมอันดับ1 เมื่อ 25 ตุลาคม พ.ศ.2553

เป็นครูสอนขับร้องและวิทยากรพิเศษ

1.      โรงเรียนสุนทราภรณ์การดนตรี ตั้งแต่ พ.ศ. 2512

2.       ชมรมนักร้องสมัครเล่นกรมชลประทานสามเสน

3.       ชมรมนักร้องสมัครเล่นธนาคารแห่งประเทศไทย

4.       ชมรมนักร้องสมัครเล่น (ชนสม) แจ้งวัฒนะ

5.       ชมรมนักรัองสมัครเล่น(คณะผู้บริหาร)โปโลคลับ ลุมพินี

6.       เปิดสอนขับร้องเบื้องต้น และติวเข้ม ที่บ้านซอยเรวดี  นนทบุรี

ผลงานการร้องเพลง

เป็นนักร้องดาวรุ่งวงดนตรีสุนทราภรณ์ ตั้งแต่ พ.ศ.2507 จนปัจจุบัน ได้ร้องเพลงบันทึกแผ่นเสียงไว้กับวงดนตรีสุนทราภรณ์หลายเพลง เช่น

1. เพลงชีวิตป่า  ในภาพยนตร์เรื่องรอยพราน เข้าฉายที่โรงหนังควีน แสดงโดยมิตร  ชัยบัญชา  และเพชรา เชาวราช โดยร้องใช้เสียงร้องแทนมิตร ชัยบัญชา

2. เพลงคิดถึงฉันบ้าง

3. เพลงคูนรำลึก

4. เพลงทาสรัก

5. เพลงช่อรักซ้อน (เพลงคู่)

6. เพลงฉิมพลีสีทอง (เพลงคู่)

7. เพลงซื้อหุ้นใจ

8. เพลงปูชนียบุคคล

9.  เพลงรำวงชมทะเล  ฯลฯ

ผลงานการแสดงละคร

แสดงละครดึกดำบรรพ์คณะฉัตรแก้ว ของอาจารย์สมภพ จันทรประภา ทางทีวีช่อง 4 บางขุนพรหม หลายเรื่อง เคยแสดงคู่กับศิริพร วงศ์สวัสดิ์ และสุพรรณ บูรณะพิมพ์ เรื่องเลือดน่านเจ้า ทางไทยทีวีสีช่อง 3 เป็นละครร่วมสมัย ได้แต่งทำนองเพลงเป็นแนวสากลทั้งหมด ครูเอื้อได้กรุณาแต่งให้หนึ่งเพลง  ออกอากาศเมื่อวันพุธที่  28 มกราคม  พ.ศ. 2519

ผลงานเรียบเรียงเสียงประสาน

1.เรียบเรียงเสียงประสานให้กับวงดนตรี สุนทราภรณ์ เช่น เพลง ราชบุรีสู่ราชบัลลังค์ เพลง บรมครู ปูชนีย์ (แต่งทำนองด้วย) ฯลฯ

2.เรียบเรียงเสียงประสานให้กับวงดนตรี เกษมศรี  เช่น  เพลง เกษมศรี, เพลง  พระมหาราชของชาติไทย , เพลง พระแม่เจ้าชาวไทย ฯลฯ

3.เรียบเสียงเสียงประสานให้กับคุณ ทันพงษ์ พัฒนศิษฎางกูร   เช่น เพลง ร่มละอองบุญ ,เพลง กำเนิดเจ้าพระยา,เพลง แว่วเพลงหลังยังฝังใจ  เป็นต้น

4.เรียบเรียงเสียงประสานให้กับ อ.ประสพ  อักษรณรงค์  เช่น  เพลงของร.ร ผดุงศิษย์พิทยา ร.ร พาณิชการสยาม ฯลฯ

5.เรียบเรียงเสียงประสานให้กับ ม.รามคำแหง เช่น เพลง ขวัญจิตมิตรราม ,ครีมทองน้องพี่ , ศิลปกรรมศาสต์รามคำแหง

ผลงานการแต่งเพลง

แต่งให้กับ วงดนตรีเกษมศรีไว้ทั้งเพลง ลีลาศ  เพลงสถาบัน  เพลงทั่วไป  ประมาน200กว่าเพลง เช่น เพลง ขอแสงจันทร์  ,ใจห่วง,ไม่ลืมเธอ, อาลัยอาวรณ์ ฯลฯ เพลงประจำสถานบันต่างๆ เช่น  เพลง ประจำร.ร ดรุณานุเคราะห์ ,เพลง ร.ร ผะดุงศิษย์พิทยา ,ร.ร สื่อสารสงเคราะห์ เพลงมาร์ชร.ร.ราชดำริ เพลงประจำโรงเรียนศรีสังวาลย์ เพลงมาร์ช  กรมชลประทาน เพลงรำวงมนุษยสัมพันธ์ให้สมาคมมนุษยสัมพันธ์ และได้ร่วมแต่งทำนอง – คำร้อง กับ ม.ร.ว.อรพรรณ สุคันธนาถ ชึ่งเป็นธิดาของพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้า จักรพันธ์เพ็ญศิริ  จักรพันธ์    

คิดถึงฉันบ้าง

ทำนอง ครูเอื้อ สุนทรสนาน                                 คำร้อง ครูแก้ว อัจฉริยะกุล

รักเอยหวานฉ่ำมาแรมร้างจำห่าง

คิดถึงฉันบ้างอย่าร้างแรมเลือน

น้ำคำน้ำใจติดตรึงถึงแรมเดือน

รอยหยิกติดเตือนให้จำเสมอ

แท้จริงฉันใช่จะไปรักใครอื่น

รักเดียวรักชื่นเท่านั้นคือเธอ

รักใครร้อยคนไม่เคยคิดปรนเปรอ

ใจมั่นเสมอรักเธอไม่หน่าย

รักแล้วมิแคล้วคลาดขาดหวัง

อย่าเคืองคิดชังเบี่ยงบ่าย

ขาดเธอเหมือนใจจะขาดหาย

อกใจสลายแรมรา

ฉันยังรักมั่นคอยวันสัมพันธ์คู่

ฉันยังรักอยู่ไม่รู้โรยรา

ฉันยังพะวงว่าเธอนั้นคงมา

จงกลับมาหารักพามาด้วย

(ข้อมูลรวบรวมจากหนังสือรวมเพลงต่างๆ ของสุนทราภรณ์)