ทุกอาชีพต้องมีขึ้นมีลง อยู่ที่แต่ละคนจะปรับตัวได้แค่ไหน แม้แต่ดาราระดับท้อปทั้งชายและหญิงของเรา ก็มีช่วงละครไม่ได้เรตติ้งเช่นกัน ไม่นับนักแสดงอื่นๆ ซึ่งปัจจุบันมีทั้งใหม่และเก่าเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ ทำให้ดาราเก่าต้องตกงาน ดาราใหม่บางคนก็ไม่เว้น เพราะละครมีน้อยลงทุกวัน ช่องต่างๆ ก็มีรายการอื่นๆ เช่น ภาพยนตร์เกาหลี จีน สารคดี ข่าว เป็นต้น มาทำเรตติ้ง แถมสมัยนี้ดูรายการต่างๆ ทางออนไลน์ได้

อย่างไรก็ตาม คนไทยชอบภาพยนตร์ไทยไม่น้อย แต่ถ้าเสียเงิน จะดูซีรี่ย์จีน หรือ เกาหลี (จากการสำรวจคนแถวบ้านคุณเอ ) บางคนชอบดูซีรี่ย์จีนราชวงศ์ หรือ ซีรี่ย์จีนน่าสใจสนุกไม่เยิ่นเย้อ ภาพยนตร์เกาหลีดูน้อยลง

ถ้าเป็นละครไทย ชอบดูเนื้อเรื่องที่เข้มข้นไม่เยิ่นเย้อทันสมัย เรื่องตบตีกันไม่ค่อยชอบ ขอให้ดูซีรี่ย์จีนหรือเกาหลีไม่ด่าทอตบตี ละครควรเดินเรื่องรวดเร็ว น่าติดตาม ดาราก็ต้องสมบทบาท ทันยุคทันสมัย

สรุปแล้วการตลาดก็สำคัญ ไม่แพ้ความต้องการของคนดู รวมทั้งเรื่องก็ต้องตรงใจ ส่วนการขึ้นลงดาราก็น่าเห็นใจ ทุกคนรับบทตามที่ได้รับมอบหมาย  จะดีหรือไม่ก็คงควบคุมยาก หรือไม่มีโอกาสได้เล่น เพราะมีดาราอื่นมาแทน หรือไม่มีคนจ้าง เป็นต้น

ซึ่งเป็นเรื่องเกิดขึ้นได้ในวงการ ต้องทำใจ

ดาราฮอลลี่วู้ดก็เจอเหตุการณ์เรตติ้งตกเช่นกันไม่น้อย เช่น โทนี่ ซึ่งเคยโด่งดังในโทรทัศน์ เรื่อง “Who’s the Bass” ต่อมาเรตติ้งตกต่ำมาก โทนี่หนักใจซิทคอมเรื่องนี้จะไปรอดไหม ทั้งๆ ที่พยายามทำตอนใหม่ขึ้นก็ตาม เรตติ้งก็ไม่กระเตื้องขึ้น

โทนี่พยายามหาทางให้เรตติ้งดีขึ้นด้วยการบอกผู้เขียนบท และทีมงานว่า บทต้องดี ทีมงานต้องดี ก็จะขึ้นถึงอันดับหนึ่งได้ ขอแค่อย่าท้อ คำติชมก็ฟังไว้ เราก็จะผ่านไปได้ และไปได้ดีด้วย

ทาง NBC ดีใจที่โทนี่กระตือรือร้นที่จะทำให้รายการดีขึ้น โดยไม่ต้องการยกเลิกซิทคอมเรื่องนี้ เพราะได้ทำสัญญาไว้ว่ามีทั้งหมด 22 ตอน หากไม่ทำตาม จะต้องเสียค่าชดเชยให้โทนี่หลายสิบล้านบาท จึงต้องประคองต่อไปให้ได้ผลมากที่สุด

ผู้ใกล้ชิดบอกว่า ไม่ว่าจะเกิดเหตุอะไร โทนี่จะไม่ยอมแพ้ และจะสู้ให้ถึงที่สุด

แปลว่า เขาจะฟ้อง ถ้าทางเครือข่ายยกเลิกซิทคอมของเขาก่อนกำหนด

แล้วใครกล้าบอกเลิกล่ะ

สุพัตรา สุภาพ