วันพุธ ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
สัมผัสลมหนาว ชมวิถีชาวอีสาน เที่ยวงาน 'เทศกาลแห่งว่าวอีสานและว่าวนานาชาติ'จ.บุรีรัมย์

สัมผัสลมหนาว ชมวิถีชาวอีสาน เที่ยวงาน 'เทศกาลแห่งว่าวอีสานและว่าวนานาชาติ'จ.บุรีรัมย์

วันศุกร์ ที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2561, 11.28 น.
Tag : จ.บุรีรัมย์ ท่องเที่ยว เทศกาลแห่งว่าวอีสานและว่าวนานาชาติ Like สาระ
  •  

ชาวอีสานมีความคุ้นเคยกับการเล่นว่าวมาแต่โบราณกาล เช่นเดียวกันกับประชาชนในภูมิภาคอื่นๆ ซึ่งเดิมนั้นหลังฤดูการเก็บเกี่ยวชาวบ้านจะจัดทำว่าว เพื่อนำมาเล่นสร้างความบันเทิงไปพร้อมๆ กับการนวดข้าว แต่ในปัจจุบันวิถีการดำรงชีพของชาวบ้านเปลี่ยนแปลงไป เครื่องมือจักรกลการเกษตรได้เข้ามามีบทบาทสูง แรงงานในภาคเกษตรกรลดน้อยลง อีกทั้งความเป็นชุมชน ทำให้บริเวณลานกว้างที่จะเป็นสถานที่ให้เด็กวิ่งเล่นว่าวก็ถูกจำกัด จึงทำให้เราเห็นภาพการเล่นว่าวลดน้อยลงในตามท้องทุ่งนาและชนบททั่วไป


นายเกรียงศักดิ์ สมจิต นายอำเภอห้วยราช จังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า จ.บุรีรัมย์ ได้มีการสืบทอดภูมิปัญญาถิ่นและอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีการเล่นว่าวมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี พ.ศ.2529 โดยมีการจัดงานประเพณีมหกรรมว่าวอีสานบุรีรัมย์ ซึ่งปัจจุบันได้ทำมาเป็นปีที่ 31 แล้ว

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการอนุรักษ์ขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของคนในท้องถิ่นอีสานให้คงอยู่สืบไป และเป็นการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการท่องเที่ยวของจังหวัด โดยในปีนี้ทางจังหวัดได้กำหนดจัดงานประเพณี “เทศกาลแห่งว่าวอีสาน และว่าวนานาชาติ”  ขึ้นในระหว่างวันที่ 19-20 ม.ค.61 นี้ ณ บริเวณสนามแข่งว่าว ข้างมหาวิทยาลัยรามคำแหงบุรีรัมย์ อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองบุรีรัมย์เพียง 10 กิโลเมตรเศษเท่านั้น และเป็นลานกว้างสามารถวิ่งเล่นว่าวและแข่งขันว่าวแอกโดยไม่มีอุปสรรคหรือสิ่งกีดขวางใดๆ

สำหรับว่าวอีสานที่เล่นกันในแต่ละถิ่นจะมีชื่อเรียกที่แตกต่างกันไป แต่ลักษณะเด่นของว่าวอีสานจะเป็นว่าวที่มีตัวเป็นสองห้องจึงถูกเรียกว่า ว่าวสองห้อง หรือ ว่าวแม่ลูก ก็เรียก เพราะ ตัวว่าวที่ห้องบนขนาดใหญ่จะเรียกว่า "ตัวแม่" ตัวว่าวที่อยู่ด้านล่างลงมามีขนาดเล็กกว่าประมาณเท่าตัวเรียกว่า "ตัวลูก" แต่ในบางพื้นที่ก็เรียก "ว่าวแอก" เพราะด้วยว่ามี"แอก" ซึ่งทำจากไม้หวาย และใบหวายติดที่ส่วนหัวว่าว โดยจะส่งเสียงในเวลาที่ว่าวลอยติดลมบน ตัวแอกก็เรียก บ้างก็เรียก "ธนู" ดังนั้นจึงจะได้ยินชื่อเรียก "ว่าว" ของภาคอีสาน ไม่ว่า จะเป็นว่าวแอก ว่าวสองห้อง ว่าวธนู หรือว่าวแม่ลูก ตามแต่ละท้องถิ่นของชาวบุรีรัมย์ที่เรียกกัน

การเล่นว่าวทางภาคอีสานนั้นจะเป็นช่วงฤดูสั้นๆ ประมาณ 1 - 2 เดือน เท่านั้น โดยจะเริ่มในช่วงเดือน ธ.ค.-ม.ค. ของทุกปี เพราะช่วงนี้มีลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดผ่าน หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า "ลมบน" และต้องเล่นว่าวในยามค่ำคืนในช่วงเวลาตั้งแต่ 5 โมงเย็น เรื่อยไปจนถึงสว่างประมาณ ตี 5 หรือ 6 โมงเช้า ลมว่าวก็จะหมดลง โดยการเล่นว่าวของคนอีสานส่วนมากจะมีการเล่นที่แฝงไว้กับจุดมุ่งหมายเกี่ยวกับการบวงสรวง หรือการเสี่ยงทาย ซึ่งมักจะมีความเชื่อมโยงกับเรื่องของความเชื่อกับการพยากรณ์ การเสี่ยงทายความอุดมสมบูรณ์ของพืชพันธ์ธัญญาหาร

โดยเชื่อว่า หากปีใดว่าวขึ้นสูงติดลมบนได้ตลอดทั้งคืน ปีหน้าฟ้าฝนจะดีข้าวปลาอาหารจะบริบูรณ์ ส่วนชาวถิ่นไทยเขมรใน จ.บุรีรัมย์ เชื่อกันว่า การชักว่าวขึ้นให้ติดลม และเสียงของแอกที่โหยหวน มีความหมายว่า เป็นการสร้างกรรม ดังนั้นเมื่อเลิกเล่นจึงนิยมตัดว่าวทิ้ง ซึ่งถือว่าเป็นการตัดเวรตัดกรรมออกไป เป็นการสะเดาะเคราะห์ และจะมีการผูกข้าวปลาอาหารให้ล่องลอยไปกับตัวว่าว

สำหรับในงานปีนี้ มีการจัดกิจกรรมการแข่งขันว่าวทุกประเภท ว่าวแอกโบราณ ซึ่งเป็นว่าวที่ใช้วัสดุทำตัวโครงว่าวจากไม้ไผ่ ใช้กระดาษปิดเป็นตัวว่าว และหางว่าวจะต้องทำจากใบตาล หรือใบลาน เท่านั้น โดยมีขนาดของตัวปีกตั้งแต่ 2.50 -3 เมตร ส่วนว่าวแอกพัฒนามีขนาดเช่นเดียวกันว่าวแอกโบราณ เพียงแต่วัสดุที่นำมาใช้ทำตัวว่าวจะทำจากวัสดุใดก็ได้และการแข่งขันว่าวแอกยักษ์ จะมีความยาวของส่วนปีกไม่น้อยกว่า 5 เมตร ใช้วัสดุอะไรในการสร้างว่าวก็ได้ แต่ต้องติดแอกในขณะแข่งขัน โดยว่าวที่แข่งขันจะต้องปล่อยในช่วงเย็น และจะต้องติดลมตลอดทั้งคืนจึงจะผ่านเกณฑ์การแข่งขัน

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการร่วมอนุรักษ์การเล่นว่าวในหมู่เยาวชนคนรุ่นหลัง ทางจังหวัดจึงได้จัดให้มีการแข่งขันว่าวประดิษฐ์เยาวชน ที่มีขนาดว่าวแอกไม่น้อยกว่า 1.20 เมตร โดยให้เวลาประดิษฐ์และจัดทำว่าวไม่เกิน 2 ชั่วโมง ทั้งยังมีการแข่งขันแกว่งแอก ซึ่งเป็นลีลาและเป็นความสามารถเฉพาะตัวในการแกว่งแอกให้มีเสียงไพเราะ โดยปีนี้ได้มีการแข่งขันวิ่งว่าว(เขย) นานาชาติ ด้วย 

 

พร้อมทั้งจัดขบวนแห่มหกรรมว่าวอีสาน และมีธิดาว่าว โดยมีสาวงามจากทุกตำบลของอำเภอห้วยราช ที่เข้าร่วมจัดริ้วขบวนอย่างยิ่งใหญ่  พิธีทำขวัญข้าว ตัดกรรม สะเดาะเคราะห์และเสริมชะตาชีวิต  ส่วนในภาคกลางคืนชมการประกวดธิดาว่าว, ประกวดร้องเพลง, รำวงย้อนยุค, การเดินแบบผ้าไหม รวมทั้งชมการแสดงดนตรี การละเล่น พื้นบ้าน พร้อมกับชมว่าวกลางคืน ฟังเสียงแอกเมื่อต้องลมยามค่ำคืน ที่มีการปล่อยว่าวให้ติดลมบนตลอดคืน ถือเป็นการอนุรักษ์ประเพณีที่ดีงามของชาวบุรีรัมย์และชาวอีสานไปพร้อมๆ กัน

นอกจากนี้ ยังจะได้ชมการแสดงหมู่บ้านว่าวของชุมชนในพื้นที่  และการออกร้าน OTOP สุดยอดผลิตภัณฑ์ “หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์” ต่างๆ มากมาย ซึ่งนำมาแสดงและจำหน่ายในการออกร้านของแต่ละตำบล

ดังนั้น จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวร่วมสัมผัสลมหนาวกับการละเล่นพื้นบ้านของชาวอีสานใน “เทศกาลแห่งว่าวอีสาน และว่าวนานาชาติ” อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ เพื่อซึมซับกลิ่นไอ และร่วมดำรงวิถีชีวิตของชาวอีสานให้คงดำรงอยู่ต่อไป

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • จากรุ่นแม่สู่รุ่นลูก!! สืบทอดสูตร\'ขนมรางรถไฟ\'ที่ขายมานานกว่า35ปี ชาวเมืองสงขลารู้จักดี จากรุ่นแม่สู่รุ่นลูก!! สืบทอดสูตร'ขนมรางรถไฟ'ที่ขายมานานกว่า35ปี ชาวเมืองสงขลารู้จักดี
  • พบต้น \'ดอกมะลิดิน\' ไม้ป่าหายากใกล้สูญพันธุ์กำลังบาน เผยมีสรรพคุณทางยา พบต้น 'ดอกมะลิดิน' ไม้ป่าหายากใกล้สูญพันธุ์กำลังบาน เผยมีสรรพคุณทางยา
  • \'ตาแปแยะ\' ขนมพื้นเมือง ชายแดนไทย-มาเลเซีย 'ตาแปแยะ' ขนมพื้นเมือง ชายแดนไทย-มาเลเซีย
  • ช่วงหยุดยาว!!! ร่วมลงแขกดำนา-ท่องเที่ยวสวนอินทผาลัม ช่วงหยุดยาว!!! ร่วมลงแขกดำนา-ท่องเที่ยวสวนอินทผาลัม
  • ยะลาเตรียมพร้อมก่อนถึงฤดูกาลเก็บเกี่ยวทุเรียน ผลักดันมาตรการป้องกันแก้ปัญหาทุเรียนด้อยคุณภาพ ยะลาเตรียมพร้อมก่อนถึงฤดูกาลเก็บเกี่ยวทุเรียน ผลักดันมาตรการป้องกันแก้ปัญหาทุเรียนด้อยคุณภาพ
  •  

Breaking News

'แม่ทัพภาค 2' ชวนคนไทย เที่ยว '3 ปราสาท' กระตุ้นเศรษฐกิจช่วยพ่อค้าแม่ค้าชายแดน

(คลิป) ก้าวทันอาเซียน : คริปโตกำลังเปลี่ยนภูมิภาค 'ไทย' จะอยู่ตรงไหน?

รันทุกวงการ! 'ลิซ่า ลลิษา'ขึ้นแท่น Global Ambassador คนใหม่ของเครื่องเล่นเกมสุดโด่งดัง

ปรับ 2 แสน-ขอขมา 7 วัน! ‘ศาล จ.บุรีรัมย์’ ฟันผิด ‘ชูวิทย์’ หมิ่นประมาท ‘ศักดิ์สยาม–เนวิน’

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved