เที่ยวสบายกระเป๋า!ล่องแก่ง-พัก‘บ้านถ้ำโกบ’ชิมเมนูโอชะ..จุ๊บ‘หอยโหละ’แรงๆ(ชมคลิป)
“คลองลำโลน”...
สายน้ำที่ไหลมาจาก “เทือกเขาบรรทัด” นำมาซึ่ง “วัตถุดิบ” สุดโอชะของชาวบ้านหมู่ 9 บ้านถ้ำโกบ ต.ปาล์มพัฒนา อ.มะนัง จ.สตูล
คณะผู้ใหญ่บ้านนำโดย นายจำรูญ สงด้วง และชาวบ้านในพื้นที่ ต่างพากันออกหา “หอยโหละ” ที่ฝังตัวอยู่บริเวณใบไม้ที่ทับถมกัน บางตัวก็เกาะอยู่บนหินที่มีตะไคร่น้ำ ชาวบ้านต่างสนุกสนานในสายน้ำใสเย็นฉ่ำ
ชาวบ้านที่ออกมาหาหอยบอกว่าใช้เวลาหาแต่ละครั้งประมาณ 2-3 ชั่วโมง หาได้ประมาณ 3-4 กิโลกรัม ก่อนนำหอยมาปรุงอาหาร ต้องนำไปแช่น้ำ 1 คืน เพื่อให้หอยคายทรายออกมาก่อน วิธีนี้เป็น “เคล็ดไม่ลับ” ที่ชาวบ้านแถบนี้รู้กันดี
“หอยโหละ” สามารถหาได้ตลอดทั้งปี...
ตราบที่สายน้ำในลำคลองยังไม่เหือดแห้ง...
นายโชคชัย หลินมา ชาวบ้านที่ออกหาหอย กล่าวว่า วิธีสังเกตหอย ซึ่งมีลักษณะตัวเล็กเท่านิ้วมือ คล้าย “หอยขม” ฝังตัวอยู่ใต้ใบไม้ที่ทับถมกันในน้ำ และเกาะอยู่บนหินที่มีตะไคร่น้ำอยู่ หาง่าย แต่ชาวบ้านจะไม่หาเพื่อขายหรือจำหน่ายเป็น “หอยเศรษฐกิจ” เพื่อเป็นการอนุรักษ์หอยให้มีอยู่มีกินนานๆ หากท่านใดอยากกินก็มาเที่ยว หรือมาพักที่ “โฮมสเตย์” ในชุมชน แล้วชาวบ้านก็จะหาและปรุงเป็น “เมนู” ต่างๆให้กิน หรือจะหากินได้ในงานบุญ งานเลี้ยง งานแต่งในชุมชน
ด้านนายจำรูญ สงด้วง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 บ้านถ้ำโกบ กล่าวว่า ในพื้นที่ ต.ปาล์มพัฒนา มีทรัพยากรธรรมชาติสมบูรณ์อย่างมาก โดยเฉพาะสายน้ำจากเทือกเขาบรรทัด ที่มีน้ำไหลตลอดทั้งปี ที่นี่มี “หอยโหละ” ให้ชาวบ้านได้หาไว้รองรับนักท่องเที่ยวที่มาพักโฮมสเตย์ในพื้นที่ ซึ่งมีกว่า 13 หลังคาเรือน หากนักท่องเที่ยวมาเที่ยวในพื้นที่แล้วอยากหาหอย ก็ประสานชาวบ้านและออกมาหาหอยด้วยกัน และลองปรุงเมนูจากหอยได้อีก โอกาสนี้ก็ขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวเยอะๆ
การปรุงอาหาร “เมนูหอย” ต่างๆย่อมมี “ทริคเล็กๆ” หรือเคล็ดลับให้ได้เมนูอร่อย ซึ่งนางอรัญญา ไกรแสง หรือ “น้องหญิง” แม่ครัววัย 33 ปี พร้อมลูกมือ ช่วยกันปรุงเมนูหอยโหละ ที่ผ่านการแช่น้ำให้คายทราย 1 คืน และผ่านการล้างน้ำ 3-4 น้ำให้ตะไคร่ที่ติดเปลือกหอยออก นำมาตัดท้ายหรือหาง ก่อนล้างอีกครั้ง พร้อมนำไปทำเมนู “แกงกะทิหอยโหละ”
“น้องหญิง” บอกว่า เมนูข้างต้นนั้น เริ่มจากนำกะทิสด “ตั้งไฟ” ให้เดือด ใส่เครื่องแกงที่ตำละเอียดเตรียมไว้แล้ว ประกอบด้วย พริกไทย พริกแห้ง หอม กระเทียม ตะไคร้ซอย ขมิ้น กะปิ ใส่ลงไปคนให้เข้ากัน จนน้ำแกงเดือดอีกครั้ง
ย้ำ!!!ต้องเดือดมาก
ก่อนใส่หอยโหละลงไป ปรุงรส คนหอยให้เข้ากับแกง ใส่ใบมะกรูดซอยปิดท้าย รอให้แกงเดือดอีกรอบ แล้วรีบยกขึ้นเลย “น้องหญิง” บอกว่า ตั้งแกงไว้นานไม่ได้ จะทำให้เนื้อหอยลีบหาย เพื่อให้ได้เนื้อหอยแน่นๆนุ่มๆแค่ตั้งไฟจนเดือด 1 ครั้ง แล้วยกขึ้นจากเตา เป็นอันใช้ได้
นอกจากแกงกะทิหอยโหละที่เผ็ดร้อนเล็กๆจากพริกไทย และให้รสหวานมันกลมกล่อมอีกด้วยแล้ว แม่ครัวที่นี่ยังทำ “ต้มกะทิหอยโหละ” ซึ่งให้รสชาติหวานมันจากกะทิสด เสิร์ฟพร้อมกับผักกูดต้มกะทิ น้ำพริกกะปิ
จากนั้นทีมคณะผู้ใหญ่บ้านและนักท่องเที่ยวที่มาเยือน ก็ไม่รีรอ ตักแกง “จุ๊บหอย” กันเสียงดังชนิดไม่เกรงใจบ้านข้างเรือนเคียงกันเลยทีเดียว
ชาวบ้านบอกว่าหากจุ๊บหอยเบาๆมันก็จะไม่ออก ต้องจุ๊บแรงๆเสียงดัง เป็นการเพิ่มอรรถรสการรับประทานอาหารมื้อนี้
อีกหนึ่งความประทับใจจากนักท่องเที่ยวที่มีโอกาสมีร่วมจุ๊บหอยโหละ โดย นายปิยชาต ศรีภักดี นักท่องเที่ยว บอกว่า พื้นที่ ต.ปาล์มพัฒนา มีทรัพยากรธรรมชาติมากมาย โดยเฉพาะหอยโหละที่ชาวบ้านหาจากลำคลองน้ำใสมาปรุงเป็นเมนูแกงกะทิหอยให้กิน อร่อยมาก
นอกจากหอยโหละที่มีอยู่ใน “คลองลำโลน” สายน้ำที่ไหลมาจากเทือกเขาบรรทัดแล้ว สายน้ำแห่งนี้เป็นสายน้ำเส้นเดียวกับน้ำจากวังสายทอง ที่นักท่องเที่ยวมักเดินทางมาล่องแก่งฝ่าสายน้ำเชี่ยว รับโอโซนบริสุทธิ์จากแมกไม้ที่โอบล้อม 2 ฝั่งคลอง
ท่านใดจะอยากมาสัมผัสธรรมชาติที่งดงาม สมบูรณ์และกินหอยโหละติดต่อได้ที่ เบอร์ผู้ใหญ่บ้าน นายจำรูญ สงด้วง 062-971-2766 ซึ่งหากนักท่องเที่ยวมาพักโฮมสเตย์ 1 คืน พร้อมอาหาร 3 มื้อ และอยากไปร่วมหาหอยโหละ หรือขอเมนูหอยโหละเป็นเมนูเด็ดเพียงท่านละ 350 บาทได้อิ่มอร่อย เที่ยวหนำใจในราคาสบายกระเป๋าอุดหนุนชุมชนไปด้วย เพราะที่นี่มีห้องพัก 13 หลังไว้บริการ
พัชรี เกิดพรม/สตูล
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี