nn...ห่างหายหน้าไปนานมากๆได้เวลาออกมาทักทายบนโลกโซเชียล เมื่อเร็วๆนี้ “มั่น  พัธโนทัย” อดีตรมช.คลัง อดีตรองนายกฯและอดีต รมว.ไอซีที ได้โพสต์บนเฟซบุ๊คส่วนตัว ทักทาย ได้เล่าถึงว่าหนึ่งในกลยุทธ์ “สามก๊ก” ที่เราได้อ่านและศึกษากันมา คือ“กลยุทธ์ส่งลูกในไส้ตนเองไปให้กับอีกก๊กเพื่อผูกสัมพันธ์เครือญาติ” ดังนั้น “คุณพ่อสังข์ พัธโนทัย” อดีตที่ปรึกษาคนสนิท จอมพล ป.พิบูลสงคราม ซึ่งคุณพ่อเป็นคนที่ชอบศึกษาประวัติศาสตร์จีน จึงได้เดินตามรอย“สามก๊ก”ใช้วิธีการเดียวกันโดยส่งลูกแท้ๆทั้ง 2 คน “วรรณไว พัธโนทัย” กับ “นวลนภา (สิรินทร์) พัธโนทัย” ไปให้ทางจีนเช่นเดียวกัน ส่งไปอยู่ในอุปการะเลี้ยงดูท่านนายกรัฐมนตรี “โจว เอินไหล” เพื่อแสดงความจริงใจในการผูกมิตรระหว่างไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีน..และอดีต รมว.คลัง บอกว่า “วรรณไว พัธโนทัย” ได้กล่าวในงานครบรอบ 60 ปี สัมพันธ์ตระกูล“พัธโนทัย”กับประเทศจีนไว้ว่า “วิธีการส่งลูกผูกใจของคุณพ่อจึงเป็นเรื่องหนึ่ง เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกก็ว่าได้เพราะโลกใบนี้จะมีไหม ที่คนต่างด้าวของประเทศไหน หรือคนในตระกูลไหน ที่เป็นคนธรรมดาสามัญ ไม่ได้มีตำแหน่งใดๆ ในทางราชการเลยเป็นเพียงแค่“ที่ปรึกษาส่วนตัว”ของจอมพล ป. พิบูลสงคราม สามารถเอาลูกของตัวเองถึง 2 คน ไปเป็นบุตรบุญธรรมของคนระดับนายกรัฐมนตรีของประเทศมหาอำนาจ..แล้ว“ท่านโจว เอินไหล”ก็รับไว้เลี้ยงดูอย่างดี โดยที่ทั้งคู่ไม่เคยเจอกันด้วยซ้ำ จนกระทั่งเสียชีวิต”...เป็นเรื่องมหัศจรรย์ ในการผูกใจความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศ...หลายคนอาจยังไม่รู้..ขอบคุณเรื่องดีๆ ที่น่าประทับใจ...nn

nn...ตั้งแต่เจอกรณีไปวิพากษ์ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ พี่ใหญ่ ของ“นายกฯลุงตู่”เรื่องนาฬิกาหรู จนฮือฮากันไปทั้งบาง จนคาดคิด (บวก) กันไปว่า จะได้เห็นสปิริตการลาออกของ“เจ้ากระทรวงเสมา” อย่าง “หมอธี” ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์” รมว.ศึกษาธิการ แน่นอน ก็ผิดคาดไปเลย ผิดหวังไปตามๆกัน มาตรฐานนักการเมืองไทย ก็ยังคงเป็นแบบที่เคยเป็นเหมือนเดิม ถึงแม้จะไม่ได้เห็นการแสดงสปิริต แต่ส่งผลให้ “หมอธี” เข็ดขยาดกับการพูดไปเลยทีเดียวเชียว โดยเฉพาะการพูดคุยกับสื่อ ไม่ว่าจะเป็นสื่อไทย หรือสื่อเทศ ก็คงจะได้ข้อคิด พร้อมถือคติ “มุ่งทำงานให้มาก พูดให้น้อย” ดีกว่า...วันก่อน ในห้องประชุม ครม. ได้ปรากฏภาพของ“หมอธี”นั่งร่วมประชุม ครม.อยู่ แต่ไม่ได้ตั้งอกตั้งใจประชุมนะ...แต่กำลังเผลองีบหลับ กลางวงประชุม ครม.นั่นแหล่ะแหมๆ ไม่รู้ใครจงใจแอบถ่าย ปล่อยหลุดออกมาหรือก็ไม่แน่ใจว่าเหน็ดเหนื่อยเพลียจากการทำงาน หรือเหนื่อยเพลียจากข่าวกล้าชน “บิ๊กป้อม” เรื่องนาฬิกาหรู จนหมดแรงกันแน่ แหมๆ! น่าเห็นใจจริงๆ...nn

nn...ต้องยอมรับกระแสสังคมเฝ้าจับตากมาตลอด 1 เดือนที่ผ่าน หลังจนท.กรมอุทยานฯบุก จับบิ๊กบอส พร้อมซากเสื้อดำและสัตว์ป่าจำนวนมาก แต่คดียังไม่คืบหน้าไปไหนวันก่อน “ครูหยุย” วัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ( สนช.)อดไม่ได้ที่จะให้สัมภาษณ์กรณี “เสี่ยใหญ่”ถูกพาดพิงคดียิงเสือดำและกรณีนายตำรวจใหญ่ จะตั้งข้อหา ต่อ เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ในข้อหาละเว้น ไม่เก็บค่าเข้าป่า ครูหยุย ยอมรับว่า เป็นการให้สัมภาษณ์ไปด้วยความรันทดใจ ต่อเรื่องแบบนี้มากๆ...“เพราะปมของเรื่องนี้ คือเขาให้มาจัดการกับคนฆ่าสัตว์คุ้มครอง...แต่นี่ดูๆ กลับจะมาจัดการคนจับคนทำผิดมาส่งตำรวจ”..สรุปได้ว่าเมื่อไหร่จะปฏิรูปสำนักงานตำรวจ ให้ดีกว่าเดิมได้ ขอคำตอบด่วนจี๋ การไม่รู้สึกรู้สาในเรื่องนี้ ระวังประชาชนจะลุกขึ้นมาจัดการกันเองนะครับ..ดังนั้น การเร่งจัดการคดีอย่าง ตรงไปตรงมา ไม่ล่าช้าจะช่วยกู้ภาพลักษณ์ที่ดีและช่วยให้ตำรวจ ที่ทำดีอยู่มากมายชื่นใจไปด้วย...อยากให้แชร์ ไปมากๆ กระตุกต่อมสำนึกบ้างก็ดีนะครับ....nn