20 มี.ค. 61 กลายเป็นคดีใหญ่ระดับประเทศที่คนให้ความสนใจมากที่สุด สำหรับกรณีหวยอลเวง 30 ล้าน เกิดขึ้นที่ จ.กาญจนบุรี ซึ่งคดีนี้ทำให้ชื่อของ "ทนายตั้ม" ษิทรา เบี้ยบังเกิด เป็นที่รู้จักและมีแฟนคลับจำนวนมาก ต่อมาทนายตั้มถูกยื่นร้องเรียนต่อสภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ให้มีการตรวจสอบการทำงานมารยาทวิชาชีพทนายความ
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความหวย30ล้าน ของร.ต.ท. จรูญ วิมูล ว่า
ทนายตั้มคนเดียวทำให้องค์กรสภาทนายความเสียหายอย่างมาก
ทนายตั้ม : “จริงแล้วจะมาโทษผมคนเดียวก็ไม่ถูกนะครับ บังเอิญว่ามีคนเข้าไปร้องกับองค์กรสภาทนายความ อุปนายกฯจึงมาแถลงข่าวคนเลยเข้ามาโจมตีถึงความเหมาะสม ส่วนตัวผมเองมาทราบทีหลังเพราะผมติดงานอยู่แต่ว่าถ้าการที่เข้ามาร้องเรียนทำให้องค์กรสภาทนายความได้รับความเสียอันนี้ผมต้องกราบขออภัยผู้หลักผู้ใหญ่มา ณ ที่นี้ด้วย ถ้าเกิดเป็นเพราะผมที่เป็นต้นเหตุผมก็พร้อมจะน้อมรับและก็ขออภัยอีกครั้งนะครับ”
เสื้อยืดทนายประชาชนตัวนี้และก็กางเกงยีนส์ตัวเก่ง คิดว่าผิดมรรยาทหรือไม่
ทนายตั้ม : “คือมันไม่ผิดมรรยาทอยู่แล้วครับแต่ว่าที่เค้ามาโจมตีก็นี้เหมือนว่าผมเป็นทนายต้องใส่เสื้อสูทผูกเนคไทหล่อๆ เหมือนที่ผมได้กล่าวไว้ว่ามันไม่ได้อยู่ที่การแต่งกายว่าทนายคนนี้แต่งตัวแบบนี้จะเป็นคนดีหรือไม่ดี มันอยู่ที่เราทำมากกว่าไม่ใช่ว่าวันนี้ผมใส่เสื้อยืดแบบนี้ แล้ววันหนึ่งผมเอาสูทมาใส่แล้วผมจะเป็นคนดีขึ้นมันไม่ใช่ที่เราใส่เสื้อแบบนี้คือเราต้องการใกล้ชิดกับชาวบ้านกล้าที่จะมาปรึกษานะครับจะได้ไม่ดูห่างกันเกินไป ซึ่งเวลาเราไปไม่ได้นั่งคุยที่ออฟฟิตแบบนี้นะครับ เราเข้าไปคุยที่บ้านเค้าจริงๆบางทีต้องลุยน้ำเข้าไปนะครับเพื่อที่จะเข้าไปหาชาวบ้านได้ไปหาน้องๆเพราะว่าเราทำโครงการพี่เยี่ยมน้องด้วยครับเป็นการดูสารทุกข์สุขดิบของชาวบ้าน เพราะถ้าชาวบ้านมีปัญหาด้านกฎหมายก็สามารถปรึกษาเราได้เลย”
ถ้าถูกลบชื่อออกจากการเป็นทนายเคยคิดไหมว่าเราจะไปทำอะไร
ทนายตั้ม : “อาชีพอื่นไม่เคยคิดเลยครับ เพราะว่าเราจะเป็นทนายจะใช้วิชาความรู้ที่ตนเองมีช่วยเหลือประโยชน์ต่อสังคม แต่ถ้าต้อออกจริงๆก็คงจะมุ่งตามปณิธานต่อไปต้องทำโครงการต่อที่ดำเนินไว้โครงการพี่สอนน้องให้คำแนะนำประชาชนเรื่องกฎหมาย เราก็คงจะต้องทำในบทบาทไหนก็แล้วแต่ไม่ว่าจะเป็นทนายษิทรา หรือ นายษิทรา เราก็จะสามารถทำสิ่งต่างไห้เกิดประโยชน์ต่อสังคมได้เหมือนกัน”
เสียใจไหมถ้าเกิดถูกลบชื่อออกจากการเป็นทนายเพราะการที่ได้มาช่วยเหลือประชาชนแบบนี้
ทนายตั้ม : “ก็เสียใจครับว่าการที่เราทำสิ่งดีๆมันเป็นสิ่งที่ผิดหรือว่าการแต่งตัวแบบนี้ไกล้ชิดกับชาวบ้านเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องก็เสียใจแน่นอนอยู่แล้ว เราทำสิ่งที่ดีมีประโยชน์ คนก็จะมองทนายในแง่มุมที่เป็นทนายที่ช่วยเหลือชาวบ้านจริงๆ นอกจากสภาทนายความที่มีองค์กรของเค้าที่เป็นหน่วยช่วยเหลือประชาชนเรื่องกฎหมายนะครับเราก็เป็นมูลนิทีมงานทนายประชาชน ซึ่งไปช่วยแบ่งเบาภาระของสภาทนายความเหมือนกัน เราไม่ได้เข้าไปหาชาวบ้านเพื่อหาประโยชน์ เราต้องการเข้าไปช่วยเหลือชาวบ้าน เค้าก็คิดว่าเป็นทนายที่ดีนะครับมันก็จะทำไห้องค์กรทนายดีขึ้นนะครับไม่ใช่ว่าจะมีแต่เรียกรับเงินผลประโยชน์อย่างเดียวนะครับ ถือว่าเราแบ่งเบาภาระของสภาทนายความ”
เราคงต้องมารอดูมติของคณะกรรมการสภาทนายความจะรับเรื่องนี้หรือไม่แล้วผลจะออกมาเป็นอย่างไรในประเด็นนี้เราคงจะต้องมาคอยติดตามกันต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี