กลุ่มทอผ้าย้อมครามบ้านนาขาม ตั้งอยู่ที่ ต.เชิงชุม อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร ที่นี่สืบทอดภูมิปัญญาการทอผ้ามานานหลายชั่วอายุคน กระทั่งช่วงทศวรรษที่ 2540s ที่ภาครัฐมีนโยบายส่งเสริมผลิตภัณฑ์ในระดับตำบล (OTOP) ทางกลุ่มก็เริ่มต่อยอดจากการผลิตเพื่อใช้เองในครัวเรือนสู่การจำหน่ายอย่างเป็นเรื่องเป็นราว เป็นอาชีพเสริมนอกเหนือจากทำนา มีการนำไปออกร้านตามงานต่างๆ ซึ่งได้ผลตอบรับอย่างดี มีการสั่งซื้อจนผลิตแทบไม่ทัน

"ต้นคราม" มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Indigofera Tinctoria ไม่มีใครทราบว่าต้นกำเนิดอยู่ที่ใดเพราะปลูกในหลายพื้นที่ของโลก แต่เจริญเติบโตได้ดีในภูมิประเทศเขตร้อน เช่น ทวีปแอฟริกาหรือเอเชีย ส่วนในประเทศไทยนิยมปลูกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ภาคอีสาน) วิธีทำสีครามคือนำต้นและใบมาหมักแช่ในน้ำเพื่อให้ได้สีครามมาใช้ ชาวอีสานเรียกสีครามว่า "สีหม้อนิล" แต่กระบวนการหมักครามนั้นถ้าทำอย่างไม่ถูกวิธีก็จะไม่ได้สีที่สวยงาม

ล่าสุดผลงานผ้าทอครามถูกนำไปเปิดตัวบนแผ่นดินอังกฤษ ด้วยการสนับสนุนของ คิงเพาเวอร์ (King Power) ณ เมืองเลสเตอร์ สถานที่ตั้งของสโมสรฟุตบอลดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก "เลสเตอร์ ซิตี้" (Leicester City) วางจำหน่ายในร้านค้าของที่ระลึกในชื่อคอลเล็คชั่น "INDIGO" นำวิธีการย้อมผ้าแบบดั้งเดิมผสมกับการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ทันสมัยใน 7 หมวด คือ เสื้อ T-Shirt ลายปัก , เสื้อ T-Shirt ลายสกรีน, เสื้อโปโล, หมวกแก็ป, หมวกไหมพรม, กระเป๋าใส่ของอเนกประสงค์ และผ้าพันคอ

ทั้งนี้ ทุกกระบวนการเป็นชิ้นงาน "แฮนด์เมด" (Hand Made) หรือทำด้วยมือ ตั้งแต่การเก็บใบครามสดจากต้นคราม นามาบรรจุใส่ถังบ่ม เติมน้ำฝนให้ท่วม แช่ทิ้งไว้ 1 วัน ใส่ปูนแดงกวนให้ได้เนื้อสีที่เข้มข้นแล้วกรองน้ำออก เหลือแต่คราม จากนั้นเติมน้ำฝน กล้วยน้ำว้า และเหล้าขาว หมักให้เกิดปฏิกิริยาเป็น "สีเหลืองสุก" ยังไม่ใช่สีคราม ขั้นตอนนี้เรียก "สีดิบ" ใช้สำหรับม้วนมัดผ้าดิบจุ่มลงไป เมื่อสีเกิดการอ็อกซิเดชั่น (Oxidation) กับอากาศจึงกลายเป็นสีครามที่สวยงาม

เป็นอีกครั้งที่ผลงานฝีมือคนไทย..ได้ไปเฉิดฉายในระดับสากล!!!

ขอบคุณภาพจาก https://www.instagram.com/kingpowerofficial