ชาวนาอีสาน ถึงแม้จะยึดอาชีพทำนาเป็นหลัก แต่มีหลายคนที่มองหา “อาชีพเสริม” เพิ่มรายได้ โดยเฉพาะการนำภูมิปัญญาท้องถิ่น ซึ่งพ่อแม่บอกสอนให้ตั้งแต่เด็ก มาประยุกต์ใช้ ผลิตเป็นสินค้าวางจำหน่ายหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นประเภท อาหาร เสื้อผ้า สิ่งประดิษฐ์ ฯลฯ ในรูปแบบการจัดตั้งกลุ่ม หลายกลุ่มประสบความสำเร็จ สร้างรายได้เป็นอย่างดี หนึ่งในนั้น คือ...
กลุ่มสตรีชาวนาบ้านโสกโดน!!!
ต.โนนหนามแท่ง อ.เมืองอำนาเจริญ จ.อำนาจเจริญ อีกหนึ่งความสำเร็จของสตรีชาวนาปลูกข้าว ที่ไม่ปล่อยเวลาให้ว่างเปล่า ผลิต “ไพรหญ้า” ป้อนตลาดมากว่า 30 ปี โดยจะรับใบสั่งซื้อจากพ่อค้าทุกวัน มีเงินเข้ากระเป๋าเดือนละ 3,000 – 4,000 บาท ส่งผลให้เศรษฐกิจภายในชุมชนดีมาก บางคนเลิกทำนาไปเลยก็มี
นางคำดี งานระออ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31 หมู่ที่ 3 บ้านโสกโดน ประธานกลุ่มสตรีชาวนาบ้านโสกโดน เล่าว่า มีอาชีพทำนาปลูกข้าว หลังว่างจากการทำนาก็จะอยู่เฉยๆ ก็เลยมองหาอาชีพเสริม โดยนำเอาภูมิปัญญาท้องถิ่น ซึ่งปู่ย่าตายาย พ่อแม่บอกสอนต่อๆกันมา คือ การผลิต “ไพรหญ้า มุงหลังคา” เพื่อจำหน่าย ในรูปแบบการจัดตั้งกลุ่มสตรีชาวนาบ้านโสกโดน เมื่อ 30 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันมีสมาชิกอยู่จำนวน 250 คน แต่ละคนจะมีรายได้เพิ่มไม่ต่ำกว่า 3,000 บาทต่อเดือน
นางคำดี บอกถึงวิธีทำไพรหญ้า พอเข้าใจว่าเริ่มแรกจะไปหาซื้อ “หญ้าคา” ที่ อ.เสนางคนิคม,ชานุมาน หรือ อ.ปทุมราชวงศา จ.อำนาจเจริญ ครั้งละ 5,000 – 10,000 บาท ด้วยวิธีการเกี่ยวเป็นไร่ ต่อมาทำการตากหญ้าคา ใช้เวลา 3 วัน จากนั้นก็จะเก็บไว้ในยุ้งกันฝน แล้วทยอยเอามาใช้ตามใบสั่งของพ่อค้าในแต่ละวัน ตั้งแต่ 5,000 – 10,000 ไพรหญ้า ซึ่งพ่อค้าจะมารับถึงที่นี่ ในราคาไพรละ 10 บาท พ่อค้าขายต่อไพรละ 20 บาท
ส่วนการทำไพรหญ้า จะใช้ไม้ไผ่ขนาดยาว 1.40 เมตรเป็นโครง ต่อมา นำหญ้าคา มัดด้วยเชือกปอกับโครงไม้ไผ่ จนเต็มความยาว ก็แล้วเสร็จ เรียกว่า 1 ไพร ราคา 10 บาท ซึ่งไพรหญ้า ใช้ประโยชน์ สำหรับมุงหลังคาได้หลากหลาย เช่น มุงหลังคาโรงเรือนเพาะเห็ด, หลังคาฟาร์มเลี้ยงสัตว์,หลังคาสวนอาหาร เป็นต้น สาเหตุที่มีผู้นิยมมุงหลังคาด้วยไพรหญ้า เพราะเย็นสบาย ไม่ร้อนเหมือนมุงหลังคาสังกะสี ตลาดจึงมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง
ส่วนนางนารี อารมณ์ดี อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25 หมู่ที่ 3 บ้านโสกโดน สมาชิกกลุ่ม บอกว่า เป็นสมาชิกกลุ่มสตรีบ้านโสกโดนตั้งแต่เริ่มแรก กระทั่งปัจจุบัน ซึ่งการทำไพรหญ้า สมาชิกจะทำที่บ้านใครบ้านมัน พอถึงตอนเย็นก็จะนำมารวมกันบริเวณลานหน้าที่ทำการกลุ่ม ศาลากลางหมู่บ้าน จากนั้นจะมีพ่อค้ามารับซื้อถึงที่นี่ แล้วนำไปขายต่อ ซึ่งก็สร้างรายได้อย่างต่ำเดือนละ 3,000 บาท บางคนขยันก็ได้เงินมากขึ้น หลายคนยึดเป็นอาชีพหลัก โดยให้เพื่อนบ้านเช่าที่นาทำนาแทน ในรูปแบบผลผลิตข้าวแบ่งกันคนละครึ่ง เพื่อจะได้มีข้าวกิน จะได้ไม่ต้องซื้อกิน ก็เพียงพอแล้ว
ด้านนายสิริรัฐ ชุมอุปการ ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวว่า เกษตรกรผู้ทำนาปลูกข้าวในพื้นที่ จ.อำนาจเจริญ ส่วนใหญ่ทำนาปี แต่ก็มีจำนวนหนึ่ง ซึ่งทำนาปรัง เนื่องจากมีที่นาอยู่ติดกับลำห้วยสาธารณประโยชน์ ซึ่งมีน้ำตลอดปี ที่ผ่านมา ทางราชการก็ได้เข้าไปส่งเสริมอาชีพแก่เกษตรกรที่ทำนาปี ลดปัญหาการว่างงาน อย่างต่อเนื่อง ด้วยการนำเอาภูมิปัญญาท้องถิ่นมาผลิตเป็นสินค้า ไม่ว่าจะเป็นประเภท อาหาร เสื้อผ้า ฯลฯ นอกจากนี้ยังได้มีการคัดสรรสุดยอดสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ดีเด่น ระดับจังหวัดและส่งเข้าประกวดระดับประเทศอีกด้วย
สำหรับกลุ่มสตรีบ้านโสกโดน ซึ่งผลิตไพรหญ้ามุงหลังคา ก็ถือว่า เป็นงานทำมือ จากภูมิปัญญาท้องถิ่น ที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ ซึ่ง เกษตรกรทำเป็นอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ หลังว่างทำนา ตนได้เดินทางไปเยี่ยมชมแล้ว นับว่าเป็นงานฝีมือที่ดีมาก ควรค่าแก่การอนุรักษ์ ให้อยู่คู่ชาวอำนาจเจริญตลอดไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี