ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้เล็กน้อย เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา นายจตุรงค์ จงอาษา นักวิชาการอิสระด้านพระพุทธศาสนา ได้โพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็นกรณีที่ตำรวจกองปราบปรามนำกำลังเข้าตรวจค้นวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เพื่อจับกุมพระพรหมสิทธิ (ธงชัย สุขญาโณ) เจ้าอาวาส กรรมการมหาเถรสมาคม และเจ้าคณะภาค 10 หลังถูกออกหมายจับในข้อหาร่วมกันฟอกเงิน กรณีทุจริตเงินอุดหนุนการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรม หรือ เงินทอนวัด แต่ไม่พบตั ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 พ.ค.ลงในเฟซบุ๊ก “Jaturong Mantaso Jongarsa” ของตนเอง
โดยข้อความระบุว่า "...ศิษย์วัดสระเกศทั้งหลายทราบกันดีว่า ก่อนสมเด็จจะมรณภาพ (สมเด็จพระพุฒาจารย์ หรือ เกี่ยว อุปเสโณ) ได้มีบัญชาสำคัญไว้สองประการ คือ 1.ให้พระพรหมสุธี เป็นเจ้าอาวาสวัดรูปต่อไป 2.ให้พระพรหมสิทธิ เป็นผู้ดูแลภูเขาทอง
เวลาผ่านไปก็เห็นได้ว่าศิษย์รักทั้งสองมิได้มีความสามารถในการรักษาฐานอำนาจ ชื่อเสียงวัด ดังที่ครูบาอาจารย์วางรากฐานไว้ให้ ไม่ว่าใครได้มาสู่จุดสูงสุด ตามมรดกสมเด็จ ก็ล้วนมีแต่เรื่องฉ้อโกงทุจริตแล้วก็แพ้ภัยตัวเองกันทุกรายไป
เจ้าประคุณสมเด็จเกี่ยวท่านได้ทิ้งตำแหน่งทางคณะสงฆ์ดีดีไว้มากมาย เช่น กรรมการมหาเถรสมาคม, ประธานสำนักงาน กำกับดูแลพระธรรมฑูตฯ, เจ้าอาวาสพระอารามหลวง ,ผู้ดูแลภูเขาทอง, ตำแหน่ง ฯลฯ อื่นๆ อีก แต่ปรากฎว่า ทั้งสองพระพรหมล้วนแต่...โดนปลด จบไม่สวย และเป็นข่าวหน้าหนึ่งเรื่องทุจริต
หากเจ้าประคุณสมเด็จเกี่ยวได้ทราบด้วยวิถีญาณอันใด ว่าศิษย์รักทั้งสอง ไม่ปรองดอง กาก ห่วย โกง คนก่อนโกงให้เห็น คนต่อมามึงก็โกงอีก แบบว่า คนก่อนหน้ามีบทเรียนเป็นตัวอย่างให้เห็นแต่มึงก็ยังทำตัวทุเรศที่ไม่ต่างจากเขา เจ้าประคุณท่าน คงจะเสียใจเป็นอย่างมากที่ศิษย์รักอันดับต้นๆ ทั้งสอง...ไม่เอาอ่าวขนาดนี้....เอวัง..."
เผยเบื้องหลังเจ้าคุณเสนาะ-เจ้าคุณธงชัย
สำหรับสถานการณ์ความขัดแย้งภายในวัดสระเกศราชวรวิหารนั้น ขณะที่พระพรหมสุทธี (เสนาะ ปญญาวชิโร) หรือ เจ้าคุณเสนาะ ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสระเกศ ในปี 2558 ได้ปลดพระ 3 รูป รวมทั้งเจ้าคุณธงชัย ออกจากหน้าที่ดูแลภูเขาทอง พระอุโบสถ และพระวิหาร และยังแจ้งความเจ้าคุณธงชัย ที่ สน.สำราญราษฎร์ ในข้อหาทุจริตด้วย แต่ในที่สุดได้มีการคืนตำแหน่งให้เจ้าคุณธงชัยให้ทำหน้าที่เดิม
แต่หลังนั้นไม่นานกลับมีการตรวจสอบเงินที่รัฐบาลอุดหนุนงานพระราชทานเพลิงศพ สมเด็จพระพุฒาจารย์ จำนวน 67 ล้านบาท จนทำให้มีการปลดเจ้าคุณเสนาะ จากตำแหน่งเจ้าอาวาส และเจ้าคุณธงชัย ก็ได้ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดสระเกศ เป็นลำดับที่ 13 กระทั่งในเวลาต่อมาในปี 2559 เจ้าคุณเสนาะ ได้กระทำอัตวินิบาตกรรมภายในกุฏิ
ต่อมา พระพรหมสิทธิ หรีอเจ้าคุณธงชัย ได้ขึ้นดำรงตำแหน่งเจ้าคณะภาค 10 เจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร และประธานสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ หัวหน้าพระธรรมทูตสายที่ 6 รองแม่กองธรรมสนามหลวง และชื่อของพระพรหมสิทธิ หรือเจ้าคุณธงชัย ก็ได้รับความสนใจจากทั้งสังคมไทยอีกครั้ง
กระทั่งวันที่ 24 พ.ค.2561 ที่ผ่านมาเจ้าคุณธงชัย ตกเป็นผู้ต้องหาตกเป็นผู้ต้องหาคดีฟอกเงิน จากกรณีทุจริตงบประมาณอุดหนุนโรงเรียนปริยัติธรรมและงบประมาณเผยแผ่ศาสนา หรือเงินทอนวัด ทำให้ตำรวจกองปราบปราม กำลังเข้าตรวจค้นวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ควบคุมตัวพระศรีคุณาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสฯ, พระครูสิริวิหารการ ผู้ช่วยเจ้าอาวาส, พระวิจิตรธรรมาภรณ์ หรือเจ้าคุณเทอด ผู้ช่วยเจ้าอาวาสฯ ส่วนเจ้าคุณธงชัย เจ้าหน้าที่ไม่พบตัว พบเพียงประตูเล็กๆ ข้างวัด ที่มีลักษณะคล้ายประตูลับเดินออกไปยังถนนบำรุงเมืองได้ และพบบัญชีธนาคารบัญชีส่วนตัวที่มีชื่อเจ้าอาวาสเป็นเจ้าของถึง 10 บัญชี โดยพบกระแสการเงินมากกว่า 130 ล้านบาทไว้ให้เจ้าหน้าที่ดูต่างหน้าเท่านั้น
เปิดประวัติ"เจ้าคุณธงชัย"ก่อนหนีหมายจับ
สำหรับประวัติ พระพรหมสิทธิ มีนามเดิมว่า ธงชัย สุขโข เกิดเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2499 ปีมะแม อายุ 60 ปี พรรษา 40 ณ บ้านเลขที่ 19 หมู่ 5 ตำบลเขาวง อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี บิดาชื่อนายเสงี่ยม มารดาชื่อ นางตัน สุขโข ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง รักษาการเจ้าอาวาสวัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร เจ้าคณะภาค 10 ประธานสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ หลังเรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ได้เข้ารับการบรรพชา ณ วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร โดยมีสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) ครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่ พระธรรมคุณาภรณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์
จากนั้นสามเณรธงชัย ได้คอยปรนนิบัติรับใช้สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) จนได้เข้าพิธีอุปสมบทเมื่อวันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2519 ณ พระอุโบสถ วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร โดยมีสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่พระพรหมคุณาภรณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า "สุขญาโณ"
หลังจากอุปสมบทก็ได้รับมอบหมายให้ดำรงตำแหน่งเลขานุการเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ดูแลงานปกครอง ในขณะเดียวกันยังเป็นครูสอนพระปริยัติธรรม สำนักเรียนวัดสระเกศ เป็นกรรมการตรวจนักธรรมสนามหลวง พระพรหมสิทธินั้นได้เป็นที่เคารพนับถือในหมู่กว้างและเป็นที่ไว้วางใจของพระมหาเถระหลายรูป เช่น สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช สมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ)
ทั้งนี้ พระพรหมสิทธิ ได้รับความวางใจให้สนองงานของคณะสงฆ์ในหลายๆ โอกาส 10 กุมภาพันธ์ 2558 พระบัญชาสมเด็จพระสังฆราช แต่งตั้งดำรงตำแหน่งกรรมการมหาเถรสมาคม และเข้ารับพระบัญชาจากสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ณ หอประชุมสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ พุทธมณฑล จังหวัดนครปฐมเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา 14.00 น.
กลายเป็นผู้ต้องหา ถูกจับสึก จับขังคุก
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2561 เจ้าคุณธงชัย ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีฟอกเงินทอนวัด ร่วมกับผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศอีก 3 รูป ซึ่งในขณะนี้ผู้ช่วยเจ้าอาวาสทั้ง 3 รูปถูกคุมขังในเรือนจำร่วมกับฆราวาส 4 คนก่อนหน้าแล้ว หลังจากตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) สืบสวนสอบสวนพบการทุจริตเงินทอนวัดล็อต 3 ที่วัดสระเกศราชวรมหาวิหารได้รับงบประมาณโรงเรียนสอนพระปริยัติธรรมในปี 2557 จำนวน 10 ล้านบาท และงบประมาณเผยแผ่พระพุทธศาสนากว่า 70 ล้านบาท
โดยพบว่าเงินงบประมาณ 70 ล้านบาท ที่เสนอขอจากสำนักงานพระพุทธศาสนา 2 ครั้งคือ 32 ล้านบาทและ 37 ล้านบาท โดยเงินก้อน 32 ล้านบาท พบว่ามีการโอนเงินก้อนใหญ่จำนวน 25 ล้านบาทให้ น.ส.นุชรา สิทธินอก แม่บ้านนายทหารสังกัดศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการกองทัพไทย และอีก 5 ล้านบาทโอนให้กับนายธีรพงศ์ พันธ์ศรี ลูกศิษย์วัดคนสนิท แต่จากนั้นเงินทั้ง 32 ล้านบาทถูกโอนกลับมาให้พระพรหมสิทธิ โดยไม่ได้นำเงินไปใช้จ่ายตามโครงการที่เสนอกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแต่อย่างใด
แต่พอมาถึง ณ วันนี้ (30 พ.ค.) พระพรหมสิทธิ หรือเจ้าคุณธงชัย ได้ถูกถอดถอนสมณศักดิ์ ให้กลายเป็นพระธงชัย เหมือนพระสงฆ์ทั่วไป หลังจากถูกเจ้าหน้าที่กองปราบฯกดดันให้เข้ามอบตัวในข้อหาร่วมกันฟอกเงินกรณีทุจริตเงินอุดหนุนการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรม หรือ เงินทอนวัด หลังจากหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตั้งแต่วันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา ก่อนถูกคุมตัวไปสึกและนำตัวเข้าห้องขังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เข้าไปอยู่ร่วมกับอดีตพระเถระผู้ใหญ่อีก 5 รูปที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ เนื่องศาลอาญาแผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ไม่อนุญาตให้ประกันตัว
นี่คือ ผลของกรรมที่ตามทันในชาตินี้นี่เอง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี