เมื่อพูดถึงน้ำหอม "มาดามฟิน หรือ "น้ำหอมจอมยั่ว" หลายคนคงรู้จักกันดีทางโลกโซเชียล เนื่องจากมีกลุ่มลูกค้าให้ความสนใจเป็นอย่างมาก "ทีมข่าวแนวหน้าออนไลน์" จึงได้ติดต่อไปยัง "นรี ชีวสุทธิศิลป์" หรือ "ทราย" นักธุรกิจสาวเมืองสองแคว ผู้บุกเบิกธุรกิจน้ำหอมแบรนด์ "Madam Fin" หรือ "มาดามฟิน" เพื่อเล่าเกี่ยวกับธุรกิจที่หลายคนกำลังจับตามอง
น.ส.นรี ชีวสุทธิศิลป์ เปิดเผยกับทีมงานถึงจุดเริ่มต้นการบุกเบิกน้ำหมอจอมยั่วว่า เริ่มต้นจากที่เพื่อนมาปรึกษาเรื่องแฟนเค้ามีปัญหากันบ่อย ชอบทะเลาะกันจนเพื่อนระแวงว่าแฟนจะไปมีผู้หญิงอื่น ตนจึงคิดว่าจะช่วยเพื่อนยังไงดี ประกอบกับชอบใช้น้ำหอมอยู่แล้ว เลยศึกษาดูว่ามีน้ำหอมตัวไหนสามารถช่วยได้จนมาเจอน้ำหอม "เลิฟฮอโมน" จึงลองนำมาให้เพื่อนใช้จนความสัมพันธ์ของเพื่อนกับแฟนดีขึ้น หลังจากนั้นตนจึงมานั่งคิดว่าเราจะทำอย่างไรเพื่อช่วยสาวๆ รวมทั้งคนอื่นๆ ให้มีความมั่นใจในตัวเองเพิ่มขึ้น
จากนั้นตนจึงได้ไปปรึกษากับทางครอบครัวคิดค้นสูตรที่เป็นของ "มาดามฟิน" ที่ทำขึ้นมาสำหรับสาวๆ โดยเฉพาะ ประกอบกับสวนตัวตนเองก็เป็นคนที่ชอบน้ำหอมอยู่แล้วจึงอยากทำผลิตภัณฑ์ที่เราชอบและรักออกมาจำหน่าย จากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็เกือบ 10 ปีแล้วที่เราทำผลิตภัณฑ์มาดามฟิน ออกมาจำหน่ายจนได้รับความยอมรับจากลูกค้ามากขึ้นเรื่อยๆ เพราะผลิตภัณฑ์ของเราเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน
"เหตุผลที่เราการเลือกน้ำหอมมาเป็นสินค้าเพราะลูกค้าไม่ต้องเสี่ยง น้ำหอมไม่ใช่อาหาร เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ภายนอก การเลือกสรรวัตถุดิบมาเป็นองค์ประกอบหลักนำเข้าจากต่างประเทศเพื่อทำการผลิตภายใต้การควบคุมคุณภาพและพัฒนากลิ่นน้ำหอมตามความต้องการ จึงเป็นที่มาของมาดามฟิน เป็นน้ำหอมที่จัดอยู่ในกลุ่มมีสารเลิฟฮอร์โมน หรือสารเรียกรัก" นรี ชีวสุทธิศิลป์ กล่าว
ส่วนผลผลตอบรับจากลูกค้าหลังจากนำผลิตภัณฑ์ออกมาวางจำหน่ายแล้ว นรี ชีวสุทธิศิลป์ กล่าวว่า ผลตอบรับที่ผ่านมาดีมากๆ ลูกค้าที่ซื้อสินค้าไปแล้ว กลับมารีวิวจำนวนมาก ทั้งเพิ่มความมั่นใจเรื่องงาน ช่วยกระชับความสัมพันธ์ในครอบครัว มีเสน่ห์ต่อคนรอบข้าง ลูกค้ามีทั้งคนโสด คนที่มีครอบครัวแล้ว คนที่เป็นแฟนกัน สาวออฟฟิต คุณครู แม่ค้า นักศึกษา และอีกหลากหลายอาชีพ ซึ่งใช้ได้ทั่วไปไม่เจาะจงเฉพาะกลุ่ม ทั้งนี้ น้ำหอมมาดามฟินมีหมด 10 กลิ่น แบ่งเป็นสำหรับสุภาพสตรี 7 กลิ่น สุภาพบุรุษ 3 กลิ่น ทุกกลิ่นขายดีเหมือนกัน เพราะแต่ละกลิ่นจะมีความหอมเฉพาะตัวที่แตกต่างกัน เนื่องจากผู้ใช้แต่ละคนชอบกลิ่นที่แตกต่างกันไป และจากคุณภาพของสินค้าที่ส่งไปถึงลูกค้าปากต่อปากส่งผลให้ยอดขายน้ำหอมมาดามฟินทำยอดขายสูงขึ้นตามลำดับในระยะเวลาเพียงแค่ 2 ปีนับจากที่เราเริ่มวางจำหน่ายเป้นต้นมา
น.ส.นรี ชีวสุทธิศิลป์ กล่าวถึงผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะออกมาวางจำหน่ายต่อจากมาดามฟิน ด้วยว่า ตอนนี้มีมูสกับเซรั่ม เป็นผลิตภัณฑ์ดูแลจุดซ่อนเร้น ช่วยเรื่องตกขาว กลิ่นไม่พึงประสงค์ กลิ่นคาว กลิ่นเค็ม และอาการคัน ส่วนโลชั่นดอกไม้ เป็นโลชั่นโลชั่นน้ำหอที่ผสมสารเรียกรัก ช่วยสร้างเสน่ห์ เพิ่มความเย้ายวน หอมนุ่มละมุน แล้วยังช่วยบำรุงผิวให้นุ่มชุ่มชื่น และสบู่สมุนไพรบุษบา เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าช่วยเรื่องหน้ามัน สิว ฝ้า กระ จุดด่างดำ และยังเป็นผลิตภัณฑ์โอท็อปที่ตนนำมาช่วยขยายตลาดให้ชาวบ้านมีรายได้มากขึ้นมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นด้วย
ส่วนการวางแผนการขยายตลาดนั้น น.ส.นรี ชีวสุทธิศิลป์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนเคยมีแพลนที่จะเปิด Shop มีหน้าร้าน แต่ก็ไม่ทำเพราะแอดมินที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เริ่มต้นทำตลาดสินค้าจะได้รับผลกระทบ ขณะที่ลูกค้าเองก็ยังต้องการคำแนะนำจากเราในการเลือกใช้สินค้า และปัญหาที่เจอขณะนี้คือมีผลิตภัณฑ์เลียนแบบ หรือใช้แบรนด์ที่ใกล้เคียง เพื่อดึงลูกค้าจากมาดามฟิน แต่สิ่งที่เรามีมากว่าการขายสินค้าคือเราสามารถช่วยแก้ปัญหาให้ลูกค้าเราได้ และเราจะพิจารณาเพิ่มสินค้าเพื่อให้ครบวงจร
"แต่ตอนนี้เรามีการวางแผนจะรุกเข้าตลาดออนไลน์ให้กว้างมากขึ้น เนื่องจากตอนนี้โลกออนไลน์เป็นสื่อที่เข้าถึงกลุ่มคนได้ง่ายขึ้น เราจึงเน้นการตลาดทางออนไลน์เพราะจะได้เข้าถึงลูกค้าได้หลากหลายพื้นที่และหลากหลายวัย ซึ่งทรายไม่กังวลใจเกี่ยวกับกระแสโซเชียลในด้านลบ เพราะเราทำทุกอย่างถูกต้อง เลยไม่รู้สึกกังวลอะไร" น.ส.นรี กล่าว
น.ส.นรี ชีวสุทธิศิลป์ ยืนยันว่า ตนกล้าการันตีเพราะผลิตภัณฑ์ทุกอย่างของมาดามฟิน ได้ผ่านการทดสอบและทดลองตามกระบวนการอย่างถูกต้องตามกฎหมายก่อนที่จะนำมาจำหน่ายตามท้องตลาดไป ดังนั้น เราจึงการันตีได้ว่าสินค้าของเราทุกชนิดได้มาตรฐานอย่างแน่นอน ซึ่งผู้ที่สนใจสินค้าสามารถเข้าไปตรวจสอบข้อมูลและติดตามข่าวสาร ผลิตภัณฑ์ โปรโมชั่นใหม่ๆ ของเราได้ทั้่งทางเฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/madamfin, เพจน้ำหอม เพจมาดามฟิน น้ำหอมจอมยั่ว และทางยูทูป https://www.youtube.com/watch?v=V39h10rhf0Q เป็นต้น
นอกจากนี้ น.ส.นรี ชีวสุทธิศิลป์ ยังแนะนำวิธีการใช้น้ำหอมอย่างถูกวิธีด้วยว่า น้ำหอมเป็นเครื่องสำอางค์ชนิดหนึ่งที่สามารถเพิ่มเสน่ห์ให้ผู้ใช้ได้ ถ้าใช้อยู่ในปริมาณที่พอเหมาะและถูกวิธี การฉีดน้ำหอมแล้วทำให้กลิ่นอยู่ทน อยู่นาน เพิ่มเสน่ห์ให้ผู้ใช้ตลอดวันก็คือจุดที่ 1 ฉีดตามจุดชีพจร ได้แก่ด้านในข้อมือ ด้านในข้อพับศอก บริเวณจุดชีพจรเหล่านี้สามารถทำให้กลิ่นหอมฟุ้งกระจายไปไกล ทุกๆ วินาทีที่ชีพจรเต้น จุดที่ 2 ซอกคอ บริเวณใต้กราม กลิ่นจะยิ่งหอมรันจวนใจเวลาที่คุณหันซ้าย หันขวา หรือมีคนเข้ามาใกล้ๆ ก็จะได้กลิ่นน้ำหอม ห้อม หอม แตะจมูกกันเลยทีเดียวเชียว
จุดที่ 3 ร่องอก บริเวณเนินอกจะส่งกลิ่นหอมฟุ้งขึ้นมายังจมูกคุณโดยตรงทำให้สัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมตลอดวัน จุดที่ 4 ข้อพับขา-แขนจุดสำคัญที่ลืมไม่ได้เด็ดขาด เพราะเป็นจุดที่ต้องเคลื่อนไหวตลอดเวลา ทุกจังหวะการเคลื่อนไหว ยิ่งช่วงเวลาเดินหรือวิ่งด้วยกลิ่นจะโชย กลิ่นน้ำหอมฟุ้งกระจายไปยังจมูกคนข้างกายคุณได้ จุดที่ 5 ตาตุ่ม และกระดูกหน้าขา หลายคนคงสงสัยว่าใครจะบ้าไปฉีดตรงตาตุ่ม แต่จะบอกว่าไม่บ้านะ เพราะตรงตาตุ่มนี่แหล่ะโชยกลิ่นดีนักเชียว เพราะว่าเวลาก้าวเดินเยื้องย่างฉับๆ จะยิ่งทำให้กลิ่นน้ำหอมฟุ้งตลบจากเท้าขึ้นสู่ด้านบน แถมยังช่วยปิดบังกลิ่นไม่พึงประสงค์ของเท้าอีกต่างหาก
จุดที่ 6 ขาหนีบ สะโพก คิดว่าหลายๆ คนคงมองข้ามขาหนีบอย่างแน่นอน เพราะอยู่ในร่มผ้า และต้องใส่เสื้อผ้าปกปิดมิดชิดตลอดเวลา แต่อยากจะบอกว่าคุณคิดผิด เพราะอย่างที่บอก บริเวณขาหนีบเป็นอวัยวะที่เราใช้งานหนักมาก ไหนจะต้องโยกย้ายส่ายสะโพก แถมขาหนีบยังต้องอ้าซ่า 180 องศา ทุกท้วงท่าต้องใช้งานอย่างถึงพริกถึงขิง จึงไม่แปลกที่คุณจะพิถีพิถันพรมน้ำหอมตรงส่วนนี้เป็นพิเศษ เพราะคนที่ได้กลิ่นอาจจะไม่ใช่คุณ แต่เป็นแฟนคุณนั่นเอง
จุดที่ 7 อากาศ โดยการฉีดน้ำหอมให้ฟุ้งในอากาศและรีบเดินผ่านละอองน้ำหอมให้ติดตัวทุกจุดทั่วเรือนร่าง วิธีนี้เด็ดมาก แต่ก็เปลืองน้ำหอมมากเช่นกัน เพราะฉนั้นอยากจะบอกว่าจัดเต็มเลยสาวๆ ถ้าไม่กลัวเปลืองนะ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี