สุรินทร์ผุดป้อมยามตำรวจทางหลวง ต้นแบบเศรษฐกิจพอเพียง เลี้ยงสัตว์ปลูกผักสวนครัว (ชมคลิป)
วันจันทร์ ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2561, 12.16 น.
25 มิ.ย.61 ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ รายงานว่า เวลา ประมาณ 10.00 น. ที่หน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงสังขะ จ.สุรินทร์ พล.ต.ต.ชัช สุกแก้วณรงค์ ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง พร้อมด้วย พ.ต.อ.เอกราช ลิ้มสังกาศ รอง ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง ,พ.ต.ท.ตระกูล สิริยะเสถียร รอง ผู้กำกับการ 6 กองบังคับการตำรวจทางหลวง และ พ.ต.ท.ทนงศักดิ์ คำมาตย์ รองผู้กำกับการ 6 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจ พร้อมกำชับการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจทางหลวงในสังกัด กองกำกับการ 6 กองบังคับการตำรวจทางหลวง เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

โดยเฉพาะเขตรับผิดชอบพื้นที่ในเขตอีสานใต้ ประกอบด้วย จ.อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ และจ.บุรีรัมย์ ซึ่งมี พ.ต.ท.นพพร ลือบางใหญ่ สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง 3 กองกำกับการ 6 กองบังคับการตำรวจทางหลวง และ ด.ต. พล สายกระสุน หัวหน้าหน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงสังขะ และเจ้าหน้าทีตำรวจประจำหน่วยบริการฯพร้อมด้วยสมาชิกอาสากู้ภัยสุรินทร์จุดทางหลวงสังขะ มารอรับการตรวจหน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงสังขะ ตั้งอยู่ บนทางหลวง 24 ช่วงหลัก กม.239 - 240 รับผิดชอบดูแลเส้นทาง ทางหลวงหมายเลข 24
ภายในหน่วยบริการได้มีการจัดห้องนอน สำหรับบริการประชาชนที่เดินทางไปมา หากมีอาการง่วงหรืออ่อนเพลียเหนื่อยล้า ก็สามารถมาใช้บริการนอนหลับพักผ่อนได้ นอกจากนี้ยังได้มีการจัดกาแฟและน้ำดื่มไว้บริการฟรี มีห้องน้ำสะอาดไว้ให้ประชาชนมาใช้บริการ และกำลังอยู่ระหว่างก่อสร้างห้องน้ำ เพิ่มเติมอีก 6 ห้อง มีห้องน้ำสำหรับคนพิการไว้โดยเฉพาะ และที่สนใจคือการน้อมนำหลักการเศรษฐกิจพอเพียงของพ่อหลวง ร.9 มาปฎิบัติโดยจัดพื้นที่ว่างบางส่วนของหน่วยบริการ ด้วยการปลูกพืชผักสวนครัว อาทิ ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด พริก บวบ ฟัก กล้วย มะเขือ เรียกว่า แทบจะไม่ต้องซื้อมาจากที่ไหนเลย

และยังมีบ่อปลาโดยก่อเป็นบ่อปูนเลี้ยงปลาดุก มีการเลี้ยงไก่พื้นเมืองไว้กินเองภายในหน่วยบริการ และที่โดดเด่นเลยคือมีการเลี้ยงหมูป่าไว้เป็นจำนวนมาก มีทั้งตัวเล็กตัวใหญ่หลายสิบตัว ที่สำคัญและน่าแปลกก็คือการเลี้ยงหมูจำนวนมากขนาดนี้ แต่กลับไม่มีกลิ่นเหม็นมารบกวนแต่อย่างใด นับว่าเป็นป้อมยามตำรวจทางหลวง ต้นแบบเศรษฐ์กิจพอเพียง ก้าวตามบาทศาสตร์พระราชา แห่งแรกของประเทศไทย ที่สามารถเลี้ยงหมูป่า ไก่พื้นเมือง ปลา ปลูกผักสวนครัว ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ พึ่งพาตนเองได้และขยายผลการเรียนรู้สู่ชุมชน พร้อมสามารถประสานความร่วมมือพลังประชารัฐ ทั้ง หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ในพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วม โดยเฉพาะมีทีมจิตอาสากว่า 100 ชีวิต สมาชิกอาสากู้ภัยสุรินทร์จุดทางหลวงสังขะ ผนึกกำลังเข้มอาสาช่วย 24 ชม. ทันทีที่มีอุบัติเหตุ อุบัติภัย ในพื้นที่รับผิดชอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทันต่อสถานการณ์สามารถช่วยชีวิ และช่วยเหลือ ผู้ประสบเหตุได้เป็นจำนวนมาก ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา

ด.ต. พล สายกระสุน หัวหน้าหน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงสังขะ เผยเคล็ดลับว่า นอกจากใช้น้ำหมักอีเอ็มรดเพื่อดับกลิ่นแล้ว การจัดวางระบบถ่ายเทอากาศ และสร้างโรงเรือนให้มีพื้นทีแห้ง และสามารถรับแดดได้ทุกส่วน ซึ่งจะช่วยให้เศษอาหารและมูลที่ถ่ายออกมาแห้งเร็วไม่หมักมม ตนได้เก็บเอามูลหมูที่แห้งแล้วนำไปใส่พืชผักสวนครัวที่ปลูก ซึ่งทำให้พืชผักงอกงามดี และบางครั้งก็ยังแบ่งให้ชาวบ้านในพื้นที่เอาไปใส่พืชผักเช่นกัน หมูป่าและไก่พันธุ์พื้นเมืองที่เลี้ยงเอาไว้ นอกจากจะเอาไว้รับประทานในหน่วยบริการแล้ว ซึ่งสามารถช่วยประหยัดค่าอาหารที่เรียกว่า แทบไม่ต้องซื้อจากตลาดแล้ว ยังได้แบ่งปั่นให้กับหน่วยงานใกล้เคียงนำไปรับประทานหรือเอาไปเลี้ยงขยายพันธ์อีกด้วย
นอกจากโดยนี้ ด.ต. พล สายกระสุน ได้จัดตั้งกลุ่มอาสาสมัครกู้ภัยสุรินทร์ จุดทางหลวงสังขะ ซึ่งมีสมาชิกหลายร้อยคน โดยคัดเอาสมาชิกที่มีจิตอาสามาฝึกอบรมการปฐมพยาบาลและการช่วยเหลือคนเจ็บตามหลักสูตรต่างๆ สำหรับการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบเหตุ และสนับสนุนช่วยเหลือนำผู้ป่วยส่ง รพ.หากมีการร้องขอไม่เฉพาะแค่บนทางหลวง
ด้าน พล.ต.ต.ชัช สุกแก้วณรงค์ ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง กล่าวว่า การเดินทางมาวันนี้เพื่อให้กำลังใจและกำชับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำหน่วยบริการ ให้ปฏิบัติตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา และสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างเคร่งครัด โดยเน้นการบริการประชาชนและการแสวงหาความร่วมมือกับหน่วยงานใกล้เคียง ทั้งภาครัฐและภาคประชาชน เพื่อให้การปฏิบัติงานของตำรวจทางหลวงนั้น ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนอย่างสูงสุด

ตนขอชื่นชมสถานีตำรวจทางหลวงสุรินทร์ หน่วยบริการสังขะ ที่ได้น้อมนำเอาหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งสามารถลดค่าใช้จ่ายทางด้านค่าอาหารได้เป็นอย่างดี และเป็นแบบอย่างให้กับประชาชนคนอื่นๆ รวมทั้งสามารถแสวงหาความร่วมมือกับประชาชนในพื้นที่จัดตั้งอาสาสมัครกู้ภัยสุรินทร์ (มูลนิธิจิบเต็กเซียงตึ้ง) จุดทางหลวงสังขะ ซึ่งสามารถสนับสนุนงาน ด้านบริการของตำรวจทางหลวง และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีเสริมสร้างความร่วมมือร่วมใจจากภาคเอกชนกับตำรวจทางหลวงได้เป็นอย่างดี ถือว่าเป็นตัวอย่างที่ดีในการเข้าร่วมกับประชาชนและท่านยังกำชับให้ช่วยดูแลอาสากู้ภัย เพื่อที่จะพัฒนาและสร้างความเข้มแข็งและให้หน่วยอื่นๆ ได้เล็งเห็นความสำคัญในด้านจิตอาสาที่มาร่วมทำงานกับตำรวจทางหลวง