วันนี้ (23 ส.ค.61) ที่ห้องนิทรรศการ บ้านปาร์คนายเลิศ สมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย ได้ร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) และองค์กรเครือข่าย แถลงข่าวเรื่อง "การจัดทำหลักเกณฑ์ วิธีการ ในการปล่อยสัตว์ในวัด" หลังจากสมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย ได้ยื่นหนังสือต่อสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เพื่อขอมติมหาเถรสมาคม (มส.) ในการกำหนดเขตพื้นที่วัดเป็นเขตห้ามปล่อยสัตว์โดยไม่มีเหตุอันสมควร ซึ่งในการประชุมมหาเถรสมาคม ครั้งที่ 19/2561 มติที่ 410/2561 เมื่อวันที่ 10 ก.ค.61 ที่ผ่านมา ได้มีมติรับทราบ เรื่อง "การจัดทำหลักเกณฑ์ วิธีการ ในการปล่อยสัตว์ในวัด" คือ ให้กำหนดพื้นที่วัดเป็นเขตห้ามเจ้าของสัตว์ นำสัตว์มาปล่อย ละทิ้ง หรือกระทำใดๆ ให้สัตว์พ้นจากการดูแลของตนโดยไม่มีเหตุอันสมควร พร้อมกำหนดเขตพื้นที่วัดเป็นเขตห้ามซื้อขายหรือการทำธุรกิจเกี่ยวกับการค้าชีวิตสัตว์ภายในเขตวัด และให้วัดต่างๆ ถือปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ.2557 และ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 โดยเคร่งครัด
นายสิปป์บวร แก้วงาม ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม และรองโฆษกสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า มติ มส.ได้ออกกฎหมายออกมาเกี่ยวกับการป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย เพื่อให้พื้นที่วัดเป็นเขตห้ามเจ้าของสัตว์นำสัตว์มาปล่อย ละทิ้ง หรือกระทำใดๆ ให้สัตว์พ้นจากการดูแลของตนโดยไม่มีเหตุอันสมควร และลด ละ เลิก วงจรการทำบุญที่ทารุณสัตว์ โดยการกำหนดเขตพื้นที่วัดเป็นเขตห้ามซื้อขายหรือการทำธุรกิจเกี่ยวกับการค้าชีวิตสัตว์ภายในเขตวัด ซึ่งจะมีมาตรการสำคัญ ดังนี้
1. การรณรงค์เผยแพร่ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการปล่อยสัตว์ในวัด กิจกรรมรณรงค์เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ผ่านภาพยนตร์สั้น 2 เรื่อง ซึ่งทางสมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทยจัดทำขึ้น คือ "ปล่อยนก บุญ หรือบาป?" และ "รักไม่ปล่อย" และจะจัดกิจกรรมรณรงค์ทำบุญไม่ทารุณสัตว์ รักสัตว์ในโรงเรียน ลูกเสือสวัสดิภาพสัตว์ และกิจกรรมการเผยแพร่เนื้อหากฎหมายและวิธีใช้ พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมฯ และ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าฯ และจัดทำโปสเตอร์รณรงค์ในวัดให้กระจายไปทั่วทุกจังหวัดของประเทศ
2. การสร้างเครือข่ายและการมีส่วนร่วม โดยการแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนตาม มติ มส.ในการจัดทำหลักเกณฑ์ รายละเอียดเนื้อหา วิธีการ และมาตรการที่เกี่ยวข้อง มีมาตรการดำเนินการทางกฎหมายในกรณีตัวอย่างให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม การจัดตั้งศูนย์รับข้อร้องเรียน (Hotline) ให้คำปรึกษากฎหมาย และการดำเนินการกรณีตัวอย่าง ให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม โดยการประสานงานกรมอุทยานฯ กรมปศุสัตว์ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการดำเนินคดี เปรียบเทียบปรับและอื่นๆ และใช้เครือข่ายอาสาสมัครสวัสดิภาพสัตว์ เฝ้าระวังและแจ้งเหตุ พร้อมแจกสื่อรณรงค์ใบปลิวแผ่นพับให้ผู้มาทำบุญที่วัด
3. มาตรการทางกฎหมายในการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด เช่น พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557 มาตรา 23 กำหนดห้ามมิให้เจ้าของสัตว์ ปล่อย ละทิ้ง หรือกระทำการใด ๆ ให้สัตว์พ้นจากการดูแลของตนโดยไม่มีเหตุอันสมควร มาตรา 32 กำหนดว่า เจ้าของไม่ปฏิบัติ หรือฝ่าฝืนมาตรา 23 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 มาตรา 16, 19, 20 ประกอบมาตรา 47 กำหนด ห้ามล่า ครอบครองและการค้า สัตว์ป่าคุ้มครอง ถ้าไม่ปฏิบัติหรือฝ่าฝืน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสี่ปีหรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และจะมีการเสนอเพิ่มเติมนิยามสัตว์ที่อาศัยตามธรรมชาติ ตามมาตรา 3 พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมฯ ให้ครอบคลุมสัตว์ป่า เช่น นก เต่า ฯลฯ และการเสนอเพิ่มเติมให้ท้องถิ่นมีอำนาจหน้าที่ในการบริหารจัดการพื้นที่ความรับผิดชอบของเจ้าของสัตว์ การขึ้นทะเบียนสัตว์และการดูแลสัตว์จรจัดด้วย
ด้านนายธีรพงศ์ ปังศรีวงศ์ นายกสมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า กฎหมายที่ออกมาถือว่าได้ผลพอสมควร แต่เราไม่ต้องการทำโทษคนที่กระทำผิด เพราะไม่อยากให้คนกระทำผิดตั้งแต่แรกที่คิดจะทำ ที่ผ่านมาตนก็เคยปล่อยนกปล่อยปลาภายในวัดเหมือนกัน แต่พอเห็นคนไปจับนกแล้วนำมาขายเพื่อทำบุญ การกระทำดังกล่าวไม่ได้บุญเลยอาจจะเป็นการทำบาปด้วยซ้ำ สำหรับนกที่ปล่อยนั้นบางตัวก็รอดบางตัวก็ตาย ส่วนมากแล้วตาย หวังว่าพฤติกรรมดังกล่าวจะสูญหายไป และไปทำบุญอย่างอื่นแทน
รศ.นสพ.ปานเทพ รัตนากร คณะบดีสัตวแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า การปล่อยนกและนำสัตว์ไปปล่อยที่วัดนั้น อยู่ที่คนไม่ได้อยู่ที่ตัวสัตว์ ส่วนมากเป็นคนที่มีอายุที่อยากทำบุญ ทั้งนี้ ราได้ตั้งลูกเสือสวัสดิภาพสัตว์ได้ช่วยกันเผยแพร่ รวมถึงนักเรียนที่ศึกษาอยู่ที่โรงเรียนวัดสามารถที่จะช่วยป้องกันและปราบปรามการค้าสัตว์ และส่งเสริมเรื่องสวัสดิภาพสัตว์เข้าไปในหลักสูตร เพื่อให้เด็กเข้าใจในการมีส่วนร่วมรณรงค์ อย่างไรก็ตาม เมื่อมีกฎกติกาขึ้นมาก็ต้องมีการติดตามและความยั่งยืนว่าได้ผลอย่างไรอาจจะต้องตั้งคณะกรรมการติดตามเพื่อให้ประชาชนรับทราบเป็นระยะ
ส่วนนายเจษฎา อนุจารี ที่ปรึกษาสมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่ง ประเทศไทย กล่าวว่า เมื่อมีกฎหมายออกมาที่เกี่ยวข้องกับวัดท่านเจ้าอาวาสจะต้องเข้าไปดูแลและปฏิบัติตามหากพบเห็นใครกระทำผิด ตามกฎหมายสัตว์ป่าสงวนและคุ้มครอง เช่น เต่า เป็นสัตว์คุ้มครอง และมีนกบางชนิดที่เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองเช่นกัน หากพบว่าใครครอบครองสัตว์ดังกล่าวมีโทษทางอาญา จำคุก 4 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนการทารุณสัตว์ปรับไม่เกิน 40,000 บาท ทั้งนี้ หากผู้ใดพบเห็นสามารถแจ้งได้เพื่อดำเนินการกับผู้ที่กระทำผิด
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในการแถลงข่าวได้มีดารานักแสดงช่อง 8 อาทิ ปภาวิน หงษ์ขจร (มังกร) และ เวฬุรีย์ ดิษยบุตร (ฝ้าย) ทูตสันถวไมตรีสมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย พร้อมภาคีเครือข่าย ผู้แทนจากกรมปศุสัตว์ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กองบัญชาการตำรวจนครบาล สำนักงานลูกเสือแห่งชาติ สำนักกฎหมาย สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา มูลนิธิกองทุนรักษ์ช้าง กรมปศุสัตว์ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช สมาคมสงเคราะห์สัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ กองสารวัตรและกักกัน กรมปศุสัตว์ สมาคมอนุรักษ์นกและธรรมชาติแห่งประเทศไทย เดินทางมาร่วมกันรณรงค์แถลงข่าวด้วย
ภายหลังการแถลงข่าวได้มีการส่งมอบหนังสือและสื่อรณรงค์ให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ประกอบด้วยโปสเตอร์ "ปล่อยนก บุญ หรือบาป?" เพื่อมอบให้กับวัดทั่วประเทศ แผ่นวิดีทัศน์ (DVD) ภาพยนตร์สั้น "ปล่อยนก บุญ หรือบาป?" และ "รักไม่ปล่อย" หนังสือเสริมสร้างประสบการณ์เกี่ยวกับการส่งเสริมสวัสดิภาพและการป้องกันการทารุณสัตว์ ซึ่งได้จัดพิมพ์ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการชุดละ 8 เล่มจำนวน 400 ชุดเพื่อมอบให้กับโรงเรียนพระปริยัติธรรมทั่วประเทศ พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557 เพื่อมอบให้พระสังฆาธิการทั่วประเทศ เพื่อใช้ประโยชน์ในการรณรงค์ในกิจกรรมดังกล่าวต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี