11 ต.ค. ที่ศาลเจ้าพ่อหมื่นราม อ.เมือง จ.ตรัง นางณิทฐา แสวงทอง รองผู้ว่าราชการจังหวักตรัง นางสาวนันทวัน ศิริโภคพัฒน์ ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานตรัง นายพิชัย มะนะสุทธิ์ ประธานหอการค้าจังหวัดตรัง นายประชา งามรัตนกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมตจังหวัดตรัง เป็นประธานและร่วมกิจกรรมแถลงข่าวเปิด 8 เส้นทางสีขาว อิ่มบุญ อุ่นใจ ในเมืองตรัง โดยมีประชาชนสวมชุดขาว ร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก โดยที่กิจกรรมดังกล่าวเป็นหนึ่งในกิจกรรมงานประเพณีถือศีลกินผัก ของจังหวัดตรัง ที่จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 8-17 ตุลาคม เพื่อเชิญชวนร่วมสืบสานงานประเพณีถือศีลกินผัก ในปีนี้มีศาลเจ้าร่วมสืบสานประเพณีมากกว่า 10 ศาลเจ้าในจังหวัดตรัง
นายประชา กล่าวว่า ประเพณีการถือศีลกินเจ หรือ กินผัก ประชาชนชาวตรังเชื้อสายจีน ยึดถือปฎิบัติมานาน อยู่ในตัวตนแล้ว มีความเคร่งครัดในประเพณีแม่นยำชัดเจนและไม่ผิดเพี้ยน มีการยึดปฎิบัติตั้งแต่ผู้เฒ่าผู้แก่ มาสู่คนหนุ่ม คนสาว วัยรุ่นและเด็ก จะสวมชุดขาวห่มขาวร่วมสิบสานประเพณีกันอย่างพร้อมเพรียง ซึ่งประเพณีดังกล่าวไม่มีวันสูญหาย
ขณะที่ นายพิชัย กล่าวว่า ในฐานะภาคเอกชนส่วนใหญ่จะเป็นคนเชื้อสายจีน ดังนั้นการสืบสานประเพณีถือศีลกินเจ หรือกินผัก ได้มีการยึดถือกันมาอย่างเคร่งครัดและต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังให้การสนับสนุนกิจกรรมดังกล่าวกันเป็นอย่างดีมาเป็นประจำทุกปี ประเพณีถือศีลกินผักหรือกินเจ ผู้ที่ร่วมกินเจนอกจากได้สร้างบุญร่วมกันแล้วยังสร้างความสุขเป็นศิริมงคลให้กับตัวเองอีกด้วย ดังนั้นการจัดกิจกรรมของ ททท.สำนักงานจังหวัดตรัง ในครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งในอันที่จะช่วยกับสืบสานงานประเพณีถือศีลกินเจหรือกินผักให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
ด้านนางสาวนันทวัน กล่าวว่า ปีนี้ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานจังหวัตรัง จัดกิจกรรมสืบสานประเพณีถือศีลกินผัก จังหวัดตรัง ด้วยการเปิด 8 เส้นทางสีขาว อิ่มบุญ อุ่นใจ ในเมืองตรัง ประกอบด้วย ศาลเจ้ากิวอ๋ฮงเอี่ย,ศาลเจ้าไต่เตี่ยฮุดโจ้ว,ศาลเจ้าโป๊ะเซ้ง,ศาลเจ้าพ่อหมื่นราม,ศาลเจ้าแม่กวนอิม,ศาลเจ้าเปากง,ศาลเจ้าพ่อเสือ และศาลเจ้ากิ้วฮ่องไต่เต๋ ด้วยการนำรถตุ๊กๆหัวกบ บริการนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางร่วมกิจกรรมงานประเพณี เป็นการร่วมบุญ สร้างกุศล อิ่มบุญ อุ่นใจด้วยประเพณีถือศีลกินผักของจังหวัดตรัง เน้นการรักษาศีลเพราะเป็นสิริมงคลอย่างแท้จริง ไม่เน้นอภินิหาร และเป็นประเพณีจีนดั้งเดิมที่ไม่ปรุงแต่ง
“สำหรับศาลเจ้ากิวฮ่องเอี่ย (จีนฮกเกี้ยน) เป็นศาลเจ้าเก่าแก่เป็นศาลแห่งแรกที่มีประเพณีกินเจในเมืองตรัง สืบทอดประเพณีอย่างเคร่งครัด ซึ่งเป็นไปในลักษณะเดียวกับศาลเจ้ากิ้วอ่องไต่เต่และศาลเจ้าแม่กวนอิม ห้วยยอด ส่วนศาลเจ้าพ่อหมื่นราม เป็นไปตามแนวความเชื่อของจีนแต้จิ๋ว ศาลเจ้าเปากง จุดเด่นจะจัดบริการอาหารเจแบบบุฟเฟต์ ในส่วนศาลเจ้าโป๊ะเซ้ง จุดเด่นเป็นโรงยาให้บริการทั้งยารักษาโรคและโรงอบสมุนไพร ถือได้ว่าแต่ละศาลเจ้านั้นเต็มไปด้วยเรื่องราวในศรัทธา สำหรับกิจกรรมหลัก ๆ ประกอบด้วย การออกโปรดสาธุชน พิธีเวียนธูปสะเดาะเคราะห์ ณ แม่น้ำท่าจีน และมีการแข่งเล่นประทัดฟัดเกี้ยว” น.ส.นันทวัน กล่าว
นางณิทฐา กล่าวว่า จังหวัดตรังมีประชาชนเชื้อสายจีนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก และมีการดำรงรักษาไว้ซึ่งความเป็นเชื้อชาติที่มีวัฒนธรรม ความเชื่อ และความศรัทธาเป็นของตนเองยาวนาน และปฏิบัติตามขนบธรรมเนียมประเพณีโบราณ รวมถึงความเชื่อของบรรพบุรุษ และพิธีกรรมการไหว้เทพเจ้า เพื่อสร้างความเป็นสิริมงคล ความเจริญก้าวหน้าในชีวิต หนึ่งในความเชื่อความศรัทธาที่ยังคงสืบทอดมาจนถึงปัจจุบันนี้คือการถือศีลกินผัก
“จังหวัดตรังเป็นจังหวัดแรกของประเทศที่ได้จัดงานประเพณีถือศีลกินผัก ซึ่งสืบสานมากว่า 150 ปี โดยเริ่มในวันขึ้น 1 ค่ำ ถึง 9 ค่ำ เดือน 9 ตามปฏิทินจีน โดยนิยมปฏิบัติกันที่ศาลเจ้าทั่วทั้งจังหวัด เพื่อชำระร่างกายให้สะอาด โดยงดเนื้อสัตว์ ผักกลิ่นฉุน และ สวดมนต์ ทำสมาธิแผ่เมตตา และขอพรจากเทพเจ้าเพื่อความเจริญรุ่งเรือง และในปีนี้มีศาลเจ้าหลายแห่ง อาทิ ศาลเจ้าพ่อหมื่นราม ศาลเจ้ากิวอ่องเอี่ย ศาลเจ้าไต่เสี่ยอุดโจ้ว ศาลเจ้าพ่อเสือ ศาลเจ้าเปากง ศาลเจ้าโป๊ะเซ้ง ศาลเจ้ากิ้วอ่องไต่เต่และศาลเจ้าแม่กวนอิม ห้วยยอด ซึ่งแต่ละศาลเจ้ามีพิธีกรรมจัดให้มีการถือศีลกินผักขึ้น” นางณิทฐา กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี