14 ต.ค. 61 นางฐานิดา อนุอัน อายุ 46 ปี บ้านเลขที่ 24 หมู่ 1 บ้านเสริมชัยศรี ต.นิคม อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ ผู้ดูแล น.ส.อทิตยา อนุอัน หรือ น้องอี๊ฟ อายุ 17 ปี ลูกสาว มีความพิการทางสติปัญญา โดยนางฐานิดา พาผู้สื่อข่าวไปพบ นางราตรี คามุลทา อายุ 66 ปี บ้านเลขที่ 130 หมู่ 5 บ้านหนองสอ ต.ลำปาว อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นผู้ดูแล น.ส.มาลา สาแม หรือ น้องบีม อายุ 15 ปี หลานสาว มีความพิการทางสติปัญญา ซึ่งนางราตรี เป็นหนึ่งในผู้ได้รับสิทธิตาม มาตรา 35
นางราตรี กล่าวว่า เมื่อต้นปี 2560 ได้รับการชักชวนจากเครือข่ายชมรมผู้ปกครองคนพิการ จ.กาฬสินธุ์ ให้นำหลานพิการสมัครเข้ารมชมผู้ปกครองคนพิการทางสติปัญญา โดยต้องนำหลานเข้ารับการบำบัดที่ชมรมฯ สัปดาห์ละ 3 วัน คือ วันจันทร์ อังคาร และพุธ โดยจะได้ค่าจ้างสัปดาห์ละ 1,000 บาท หากขาดวันใดวันหนึ่งก็จะถูกหักเหลือ 600 บาท ซึ่งตนก็ได้สมัครและมอบสมุดเงินฝากพร้อมบัตรเอทีเอ็มไว้ที่ชมรมตามที่ประธานชมรมบอก ปีที่ผ่านมาก็จะพาน้องบีม นั่งรถรับจ้างไปเข้าชมรมฯ เพราะปกติอยู่บ้านเลี้ยงหลานพิการคนเดียว ส่วนพ่อแม่น้องบีม และลูกคนอื่นๆ ไปทำงานต่างจังหวัด การเลี้ยงดูน้องบีม จึงตกเป็นภาระของตน และเหตุที่ตัดสินใจไปสมัครเพราะอยากให้น้องบีม ได้มีพัฒนาการที่ดีขึ้น นอกจากนี้ ยังจะได้เงินค่าจ้างเพื่อเป็นค่านม และของใช้ส่วนตัวน้องบีมอีกด้วย เฉลี่ยปีที่ผ่านมาได้รับค่าจ้างเป็นเงินสดเดือนละ 4,000 บาท หรือได้รับจริงตลอดปีไม่ถึง 48,000 บาท
นางราตรี ยอมรับว่า ที่ผ่านมาไม่เคยรู้ตัวเลยว่าได้เซ็นต์สัญญาเป็นลูกจ้างหรือผู้ดูแลคนพิการ ในโครงการจ้างเหมาผู้ดูแลคนพิการ ตามมาตรา 35 ซึ่งจะได้ค่าจ้าง 109,500 บาทต่อปี หรือเดือนละ 9,125 บาท ที่รู้คือพอสิ้นเดือนก็ได้รับเงิน 4,000 บาท หรือหากสัปดาห์ใดไปไม่ครบ 3 วันก็จะถูกหัก 600 บาท กระทั่งมีข่าวโกงเงินคนจนในหลายจังหวัด และนางฐานิดา ไปร้องเรียนกับเครือข่ายพิทักษ์สิทธิ์คนพิการ ซึ่งโยงมาถึงชมรมผู้ปกครองคนพิการ จ.กาฬสินธุ์ ตนได้ยินข่าวรู้สึกไม่สบายใจ ในระยะหลังจึงไม่พาน้องบีมไปเข้าชมรมฯ อีก
“ล่าสุด เมื่อไม่พาหลานไปเข้าชมรม ประธานชมรมฯ ก็เอารถมารับตนกับน้องบีมถึงที่บ้าน แต่ตนก็ไม่ยอมไป กระทั่งเมื่อวันที่ 5 ต.ค.61 ที่ผ่านมา เวลา 20.00 น. ประธานชมรมได้มาหาตนที่บ้าน พร้อมนำเอกสารมาด้วยแผ่นหนึ่ง พร้อมบอกให้ตนเซ็นต์รับรองในเอกสารแผ่นนั้น โดยบอกว่าเมื่อวันที่ 20 ก.ย.61 ตนพาน้องบีมไปรับยาช่วยเซ็นต์รับรองให้หน่อย ตนเป็นคนแก่ หูตา ไม่ดี อ่านหนังสือไม่ออก ก็ยอมเซ็นต์ให้ด้วยความบริสุทธิ์ใจว่าคงไม่มีปัญหาอะไร แต่ในที่สุดก็พึ่งรู้ว่ามีพฤติกรรมไม่โปร่งใส หลอกให้เซ็นต์รับรองสัญญารับข้อตกลงให้หักค่าแรงเหลือเดือนละ 4,000 บาท ซึ่งเป็นการเซ็นต์เอกสารที่ประธานชมรมฯ แต่งขึ้นมาใหม่ หลังมีข่าว นางฐานิดา ไปร้องเรียน” นางราตรี กล่าว
ด้าน นางฐานิดา กล่าวว่า จากการตรวจดูเอกสารฉบับที่นางราตรีเซ็นต์ พบพิรุธชัดเจน เพราะเท่าที่ตนทราบและสอบถามนางราตรี ที่เป็นผู้ดูแลคนพิการ ตามโครงการจ้างเหมาบริการ มาตรา 35 ด้วยกัน ยืนยันว่าไม่เคยได้รับฟังคำชี้แจงหรือรู้รายละเอียดในสัญญา ที่ทำกับบริษัท ไทย เอ็นโอเอ จำกัด ในฐานะผู้ว่าจ้าง กับผู้ได้รับสิทธิ์ มาตรา 35 ในฐานะผู้รับจ้าง รวมทั้งความชัดเจนในเรื่องค่าจ้างเลย รู้แค่ว่าประธานชมรมแนะนำให้ไปเปิดบัญชี แล้วให้นำสมุดเงินฝากและบัตรเอทีเอ็มมาเก็บไว้ที่ชมรม โดยได้รับค่าจ้างเดือนละ 2,000 -4,000 บาทเท่านั้น ส่วนรายละเอียดอื่นๆ มารู้หลังจากร้องเรียนกับเครือข่ายพิทักษ์สิทธิ์คนพิการ
“พิรุธที่เห็น ขัดต่อคำตอบของประธานชมรม ว่ามีการทำความเข้าใจก่อนทำสัญญา ซึ่งในช่วงนั้นน่าจะเป็นราวเดือนมกราคม 2561 แต่วันที่ที่ระบุในหนังสือฉบับที่นำมาให้นางราตรีเซ็นต์ กลับลงวันที่ 20 กันยายน 2561 หลังจากที่มีหลักฐานสัญญาที่ระบุไว้เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2561 นานถึง 8 เดือน และนอกจากนี้ ชื่อบุคคลที่ลงชื่อรับรองในชุดเดียวกับนางราตรี ซึ่งหมายถึงผู้ได้รับสิทธิ์ตามมาตรา 35 ตามโควตาของบริษัทดังกล่าวปีละ 10 คน กลับไม่มีชื่อของตนคือนางฐานิดา ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้รับจ้างนั้น แต่กลับมีชื่อคนอื่นแทนที่ แล้วอย่างนี้จะเกิดความโปร่งใสได้อย่างไร จึงจะเดินหน้าเรียกร้องภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบ เพื่อคืนสิทธิ์และความชอบธรรมให้ผู้ดูแลคนพิการ ที่เงินค่าจ้างตามโครงการจ้างเหมาบริการดูแลคนพิการ ตามมาตรา 35 ถูกยักยอกไป 2 ปี ว่าไปอยู่ในกระเป๋าของใคร” นางฐานิดา กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี