เทศบาลเมืองปากพนัง นครศรีธรรมราชจัดอย่างยิ่งใหญ่ "ประเพณีลากพระและแข่งขันเรือเพรียว ชิงถ้วยกระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี" ตื่นตากับกิจกรรม "ลากพระทางบกและทางน้ำ" 19-28 ต.ค.นี้
เมื่อช่วงค่ำวันที่ 19 ต.ค.61 ที่ผ่านมา ที่ศาลาประชาสันต์ ริมแม่น้ำปากพนัง เขตเทศบาลเมืองปากพนัง อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช นายพิเชษฐ์ กล้าสุคนธ์ นายกเทศมนตรีเมืองปากพนัง พร้อมคณะผู้บริหารเทศบาลเมืองปากพนัง พ.ต.อ.วสันต์ พวงน้อย ผกก.สภ.ปากพนัง, พ.ต.ท.อนุสรณ์ สมุทร์กิตติศักดิ์ สว.ส.รน.5 กก.6 บก.รน.(ตำรวจน้ำปากพนัง) จ.นครศรีธรรมราช ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจัดงาน "ประเพณีลากพระและแข่งขันเรือเพรียว ชิงถ้วยกระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี" ประจำปี 2561 "อารยะธรรมแห่งสายน้ำ เอกลักษณ์งามเมืองปากพนัง" ซึ่งเป็นการจัดงานต่อเนื่องเป็นปี 35 โดยปีนี้กำหนดจัดขึ้นระหว่าง 19-28 ต.ค.61 ที่ศาลาประชาสันต์-แม่น้ำปากพนัง อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช
นายพิเชษฐ์ กล้าสุคนธ์ นายกเทศมนตรีเมืองปากพนัง กล่าวว่า การจัดงานประเพณีลากพระเป็นอีกหนึ่งงานประเพณีที่สืบสานกันมาอย่างต่อเนื่องในจังหวัดนครศรีธรรมราช อย่างยิ่งในพื้นที่ อ.ปากพนัง ที่ยังคงมีการอนุรักษ์และสืบสานงานประเพณีดังกล่าวไว้อย่างเหนียวแน่น ทั้งนี้ การจัดงานประเพณีลากพระ หรือ "ชักเรือพร" เมืองปากพนัง มีมาตั้งแต่สมัยใดยังไม่แน่ชัด แต่มีหลักฐานว่าในปี พ.ศ.1272 มีประเพณีนี้ปรากฏอยู่ และสืบเนื่องมาจนทุกวันนี้ เป็นงานบุญและงานสนุกสนานของชาวบ้าน โดยถือเอาเทศกาลออกพรรษาเป็นช่วงเวลาจัดงาน
ปัจจุบันรูปแบบของการจัดงานอาจเปลี่ยนแปลงไปบ้างตามความเหมาะสมแห่งยุคสมัย มีการ "คาดเรือพระ" หมายถึงนำเรือมาเทียบเคียงกันประมาณ 2 ลำ หรือ 3 ลำ โดยยึดโยงไม่ให้แยกออกจากกันได้ แล้วสร้างเป็นบุษบก หรือที่เรียกกันว่า "นมพระ" (นม คือ พนม) มีการตกแต่งแข่งขันกัน เพื่อความสวยงาม อีกทั้งยังมีการอัญเชิญ "พระลาก" ซึ่งเป็นพระพุทธรูปสำคัญประจำวัดแต่ละแห่ง มาประดิษฐานบนบุษบกกลางลำเรือและในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 และวันรุ่งขึ้น ซึ่งเป็นวันแรม 2 ค่ำ เดือน 11 ชาวบ้านจะช่วยกันลากพระทางน้ำไปทางปากแม่น้ำปากพนัง ซึ่งจะมีเรือแจวและเรือพายของชาวบ้านจำนวนมากพายมาในแม่น้ำปากพนัง เพื่อร่วมกิจกรรม "ซัดหลุด" (คือการขุดเอาโคลนปากอ่าวแม่น้ำปากพนังใส่เรือแล้วปาใส่กัน) อย่างสนุกสนาน
"จะเป็นคนรู้จักกันหรือไม่รู้จักกันก็ตามแต่จะไม่มีการถือโทษโกรธเคืองกัน นนใกล้เที่ยงพระฉันเพลในเรือพระ และตกบ่ายชาวบ้านก็จะลากจูงเรือพระกลับวัด เมื่อเสร็จสิ้นการจัดกิจกรรมชาวบ้านก็จะช่วยกันแกะหรือรื้อเครื่องประกอบเรือเพื่อเก็บไว้ใช้งานในปีต่อไป" นายพิเชษฐ์ กล่าว
นายพิเชษฐ์ กล่าวต่อว่า จวบจนถึงปัจจุบันเทศบาลเมืองปากพนัง ยังคงอนุรักษ์และสืบสานประเพณีลากพระทางน้ำเอาไว้เป็นอย่างดี และเนื่องจากในปัจจุบันการคมนาคมทางบกสะดวกมากขึ้น ทำให้วัดต่างๆ ทั้งในพื้นที่ อ.ปากพนัง และใกล้เคียงกันมาลากพระทางบก แต่ก็ยังคงมีการลากพระทางน้ำแบบดั่งเดิมควบคู่กันไปด้วย อีกทั้งยังจัดให้เป็นงานที่มีความยิ่งใหญ่มากยิ่งขึ้น
โดยการจัดกิจกรรม "แข่งขันเรือเพรียว" ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และการประกวดเรือพระชิงเงินรางวัลก่อนใหญ่อีกด้วย ชื่อ "ประเพณีลากพระและแข่งเรือเพรียว ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี" เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง ได้รับความสนใจจากประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศจำนวนมาก นับเป็นงานประเพณีบุญช่วงออกพรรษา
ที่สำคัญและยิ่งใหญ่ทั้งการ "ลากพระบกและลากพระน้ำ" ที่ยังหลงเหลืออยู่เพียงไม่กี่แห่งในเมืองไทย ซึ่งในแต่ละปีจะมีเรือพนมพระเข้าร่วมกิจกรรมไม่น้อยกว่า 100 ลำ รวมทั้งการซัดหลุด ซัดต้ม มวยทะเล การประกวดขวัญใจชาวเรือ เป็นต้น
นายพิเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ส่วนของการแข่งขันเรือเพรียวชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2561 ครั้งที่ 35 ปีนี้ทางเทศบาลเมืองปากพนัง แบ่งการแข่งขันเรือเพรียวออกเป็น 3 รุ่น คือ รุ่นเล็ก รุ่นกลาง และรุ่นใหญ่ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและอนุรักษ์ไว้ซึ่งขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของท้องถิ่น เป็นการสนับสนุน ส่งเสริมและฟื้นฟูการท่องเที่ยวเมืองปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ให้รู้จักกันอย่างกว้างขวางแพร่หลายมากยิ่งขึ้น
นอกจากกิจกรรมการลากพระทางบกและทางน้ำ รวมทั้งการแข่งขันเรือเพรียวชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สนามบรมราชกุมารีแล้ว ยังมีการออกร้านจำหน่ายสินค้าโอทอป ขนมพื้นบ้านอาหารพื้นเมือง การจัดแสดงแสงสี เสียง "อารยะธรรมแห่งสายน้ำ เอกลักษณ์งามเมืองปากพนัง" ม่านน้ำหรือน้ำพุดนตรี การจัดแสดงมหรสพต่างๆ ทุกค่ำคืน คาดว่าช่วงการจัดงานจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศเดินทางมาท่องเที่ยวในพื้นที่นับหมื่นคน คาดมีเงินสะพัดในพื้นที่หลายสิบล้านบาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี