22 ต.ค.61 ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ รายงานว่า เมื่อลมหนาวเริ่มมาเยือน สองข้างทางมักจะเห็นพ่อค้าแม่ค้า นำว่าวหลากสีสันหลายขนาด มาวางขายเรียงรายสวยงามสะดุดตา ทำให้ผู้คนที่สัญจรผ่านอดไม่ได้ที่จะแวะซื้อติดมือ กลับบ้านฝากลูกหลานที่บ้าน

โดยเฉพาะที่ร้านของนางคำแปลง ไกรยา อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 บ้านโคกกรุง ม.11 ต.หนองแวงสุพระ อ.พล จ.ขอนแก่น ที่เดินสายมาปักหลักขายว่าวที่ จ.สุรินทร์ กันทั้งครอบครัวเป็นแรมเดือน ประกอบด้วย ปู่ ย่า ลูกสาว ลูกชาย ลูกสะใภ้ หลานชายและหลานน้อย รวม 7 ชีวิต อาศัยกางเตนท์กินอยู่หลับนอน หุงหาอาหารแบบเรียบง่าย อยู่ริมทางข้างถนน หลัก กม.2 สายสุรินทร์-ศีขรภูมิ 

ซึ่งว่าวที่นำมาขายส่วนใหญ่ มีว่าวจุฬา ว่าวกล่อง ว่าวการ์ตูน ว่าวเครื่องบิน ว่าวงู และอื่นๆ เป็นว่าวที่ทำขึ้นจากเศษผ้าที่เหลือใช้มาเย็บร้อยกับไม้ไผ่ ในลักษณะรูปแบบต่างๆ สีสันสะดุดตา เน้นวางขายบริเวณริมถนน เพราะเป็นแหล่งที่ขายดี ส่วนใหญ่ลูกค้าที่มาซื้อจะเป็นเด็กๆและผู้ปกครอง ที่มาหาซื้อเพื่อการนำไปเล่นกันในช่วงลมหนาวมาเยือน

จากการสอบถามน้องเนส หรือเด็กชายวุฒิพงษ์ ไกรยา อายุ 8 ขวบ ชั้น ป.2 บอกว่า มาช่วยคุณย่าขายว่าวได้ 5-6 วันแล้ว เวลารถมาจอดถามซื้อ ก็จะช่วยคุณย่าขายว่าว หลากหลายแบบและลวดลาย ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 80-300 บาท ส่วนเชือกว่าว ขายให้ในราคา ม้วนละ 10 บาท บางวันก็ขายว่าวได้เป็น 10 ตัว

ด้านนางคำแปลง ไกรยา กล่าวว่า ตนเดินทางจาก จ.ขอนแก่น ขับรถตู้มากันทั้งครอบครัว พอถึงเวลาหน้าว่าวก็จะออกพากันมาปักหลักขายกันแบบนี้ มาเริ่มขายตั้งแต่ปลายเดือนกันยายน ปลายฝนต้นหนาว ส่วนว่าวรับมาจากกลุ่มแม่บ้านโคกกรุง ม.11 ต.หนองแวงสุพระ อ.พล จ.ขอนแก่น ที่ร่วมกลุ่มเย็บจักรทำว่าว เอามาใส่ไม้ไผ่เอาเอง ว่าวทุกชนิดราคาเริ่มต้นตั้งแต่  80-300 บาท ขายสองข้างทาง เวลามีลมจะขายดี หากยังไม่มีลมก็ขายได้บ้างไม่ได้บ้าง อย่างปีกลายขายดี ขายได้วันละ 2,000-3,000 บาท แต่มาถึงปีนี้ก็พอขายได้อย่างน้อยวันละ 1,000 บาท เพราะมันยังไม่มีลม เวลามีลมว่าวจะลอยดี คนก็แห่พากันมาซื้อไปเล่นว่าวกัน 

ตนมากันทั้งครอบครัว ทำอาชีพขายว่าวมานานกว่า 20 ปี ไม่มีเทคนิคการขายอะไรมากมาย แค่ปักหลักขายว่าวสองข้างทาง เวลามีคนจอดถามซื้อก็ขาย ไม่มีใครซื้อก็นั่งคอยในร่มแบบนี้ ตนขายปลีกและขายส่ง และเดินสายขายว่าวมาแล้วทั่วประเทศไทย หลังจากขายที่จ.สุรินทร์ แล้วจะขึ้นไปภาคเหนือ ขายว่าวที่ จ.น่าน เพราะตอนนี้ลูกสาวไปขายว่าว อยู่ที่ จ.น่าน