4 พ.ย.61 นายภาณุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี และ พลเรือโทกาญจน์ ดีอุบล รองผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ รวมกันเป็นประธาน ในพิธี อัญเชิญพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ขึ้นจากเรือปฏิบัติการความเร็วสูง พ.53 ของหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ ที่ประกอบกำลังกับเรือ พ.52 และเรือจากกรมการขนส่งทหารเรือ ตาม โครงการ “250 ปี ตามรอยกองเรือยกพลขึ้นบก สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จากจันทบุรีสู่อยุธยา” ที่อัญเชิญจาก จ.สมุทรปราการ ผ่านกรุงเทพมหานคร และเข้าสู่ จ.นนทบุรีในวันนี้ (4 พ.ย.61)
ทั้งนี้ เมื่อหมู่เรือแล่นมาถึงบริเวณสะพานพระราม 5 มีขบวนเรือของประชาชนในพื้นที่ และเรือพาย 25 ลำ พร้อมฝีพายแต่งกายชุดนักรบโบราณเข้าร่วมริ้วขบวน ล่องตามแม่น้ำเจ้าพระยา จากสะพานพระราม 5 ผ่านหอนาฬิกา จ.นนทบุรี สะพานพระนั่งเกล้า และแล่นมาเทียบ ณ ท่าเรือ วัดกู้ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
สำหรับ วัดกู้และวัดเสาธงหิน ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ใช้เป็นจุดพักขบวนเรือ ก่อนมุ่งหน้าสู่อยุธยา โดยกิจกรรมและการแสดง ในทั้งสองพื้นที่ประกอบด้วย กิจกรรมเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช การแสดงแสงสีเสียง อิงประวัติศาสตร์ การแสดงศิลปวัฒนธรรมต่างๆ การแสดงพลุ การแข่งขันชกมวย การแสดงวิถีชีวิตของชาวไทยรามัญ เป็นต้น โดยในเช้าวันที่ 5 พ.ย.61 เวลา 11.09 น. จะมีการอัญเชิญกลับลงเรือเพื่อยาตราทัพไปยัง จ.ปทุมธานีเป็นจุดหมายต่อไป
การจัดงานในครั้งนี้ กองทัพเรือ จะได้อัญเชิญ "พระบรมรูป สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช" ที่ประดิษฐาน ณ พิพิธภัณฑ์ทหารนาวิกโยธิน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เดินทางโดยรถยนต์ ระยะทาง 235 กิโลเมตร ไปยัง อู่ต่อเรือ บ้านเสม็ดงาม จ.จันทบุรี ที่เป็นจุดเริ่มต้นในยาตราทัพ ของสมเด็จพระเจ้าตากสิน ในการกู้เอกราช โดยจะอัญเชิญ พระบรมรูป ลงเรือหลวงอ่างทอง เรือยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ ของกองทัพเรือ ร่วมกับ เรือระบายพล และเรือตรวจการณ์ชายฝั่ง นำยาตราทัพ ทางทะเล ในเส้นทางจันทบุรี ระยอง ชลบุรี ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี และพระนครศรีอยุธยา
โดยจะเริ่มยาตราทัพออกจากจันทบุรีในวันที่ 24ต.ค.61 เรือหลวงอ่างทอง เรือหลวงมันนอก และเรือตรวจการณ์ชายฝั่ง และแวะจอดเรือบริเวณปากแม่น้ำระยอง เพื่อจัดกิจกรรมที่วัดลุ่ม จ.ระยอง ในวันที่ 26 ต.ค.61 และบริเวณ ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ในวันที่ 27 ต.ค.61 อ่าวพัทยา/ศาลาว่าการเมืองพัทยา ในวันที่ 29 ต.ค.61 และอ่าวบางแสน/วัดใหญ่อินทาราม อ.เมืองชลบุรี ในวันที่ 30 ต.ค.61 จากนั้นขบวนเรือ จะแล่นถึงปากแม่น้ำบางปะกง จะแวะจอดเรือจัดกิจกรรมที่ วัดหงษ์ทอง จ.ฉะเชิงเทรา ในวันที่ 31 ต.ค.61
จากนั้นเมื่อขบวนเรือ ซึ่งนำโดยเรือหลวงอ่างทอง เดินทางถึงปากแม่น้ำเจ้าพระยา จะเปลี่ยนเป็น เรือหลวงสีชัง ร่วมกับ เรือปฏิบัติการพิเศษ ของหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ จำนวน 2 ลำ และจอดเรือเพื่อจัดกิจกรรมที่โรงเรียนนายเรือ จ.สมุทรปราการ โดยจัดงานเป็นระยะเวลา 3 วัน ระหว่าง 1-3 พ.ย.61 ก่อนจะเปลี่ยนขบวนเรือที่นำโดย เรือหลวงสีชัง เป็น เรือปฏิบัติการพิเศษ จำนวน 2 ลำ ร่วมด้วย เรือจากกกรมการขนส่งทหารเรือ จำนวน 2 ลำ และเรือพายจำนวน 25 ลำ มุ่งหน้าสู่ จ.นนทบุรี โดยแวะจอดเรือจัดกิจกรรมที่วัดกู้ อ.ปากเกร็ด ในวันที่ 4 พ.ย.61จากนั้นเรือจะออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ จ.พระนครศรีอยุธยา และแวะจอดเรือจัดกิจกรรมที่ วัดป่างิ้ว จ.ปทุมธานี ระหว่าง 11.30-21.00น.
ในวันที่ 6 พ.ย.61ขบวนเรือ มีกำหนดเดินทางถึงวัดบางเดื่อ/ค่ายโพสามต้น จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยจะมีการจัดกิจกรรมอย่างยิ่งใหญ่เป็นเวลา 2 วัน ก่อนจะอัญเชิญพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชเพื่อมาประกอบพิธี ณ พระราชวังเดิม กรุงธนบุรี เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ภายหลังที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชยกทัพเข้าตีอยุธยาในการกู้เอกราช ก่อนจะกลับมาสถาปนากรุงธนบุรีศรีมหาสมุทร เป็นราชธานี ที่พระราชวังเดิมกรุงธนบุรี ในวันที่ 10 พ.ย.61 เมื่อขบวนเรือเดินทางมาถึงบริเวณหน้าป้อมวิไชยประสิทธิ์ ที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงใช้เป็นที่ตั้งพระราชวังในรัชสมัยของพระองค์ (พระราชวังเดิมกรุงธนบุรี) ซึ่งปัจจุบันคือที่ตั้งของ กองบัญชาการกองทัพเรือ (ขบวนเรือเดินทางถึงในวันที่ 11 พ.ย.61) ทางกองทัพเรือ จะได้จัดให้มีกิจกรรม แสงสีเสียง และสื่อผสมอย่างยิ่งใหญ่ ที่พระราชวังเดิม และป้อมวิไชยประสิทธิ์ โดยจะมีการถ่ายทอดผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย รวมถึงการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ณ วัดอรุณราชวราราม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี