16 พ.ย. 61 จากกรณีที่เพจชื่อดัง “ Social Hunter V.ss “ มีการเผยแพร่ภาพชายวัยรุ่นคนหนึ่งที่ถ่ายภาพคู่กับเจ้าของเต้นรถมือสอง พร้อมระบุข้อความ “ “จากโจรในวันนั้น # เป็นบุคคลที่เป็นตัวอย่างในวันนี้ โถ่ววววว ไอ้สลัส เก็บออมจากตู้บริจาควัด มาใช่ไหม .../กูรั้น ” นอกจากนี้ยังมีผู้ใช้เฟสบุ๊ค “ Thailand Jaidee “ มีโพสต์ภาพและระบุข้อความ “ นี้สิ คนจริง นับถือความพยายาม อดออม เงินจากการค้าขายเพื่อซื้อรถเงินสด ไม่ยอมเป็นหนี้ระยะยาว “ ตรวจสอบเป็นภาพของชายหนุ่มอายุประมาณ 25 – 30 ปี ผิวคล้ำ ไว้ผมรองทรง สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีน้ำตาล กางเกงขาสั้นสีดำ ยืนถ่ายภาพคู่กับเจ้าของเต้นรถ ในมือถือสมุดคู่มือจดทะเบียนรถ และบนกระโปรงรถเก๋งมีธนบัตรหลายชนิด ทั้งฉบับละ 20 50 และ 100 บาท รวมทั้งเศษเหรียญ หลังโพสต์ดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ ชาวเน็ตเข้าไปแชร์ และแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก เป็นความคิดเห็นแยกเป็น 2 ฝ่าย ทั้งชื่นชม และตำหนิ
ความคืบหน้าล่าสุด ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่ร้านอาหารชื่อ “ ป้าฉู ครัวพรทิพย์ “ เลขที่ 169/13 หมู่ 12 ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช พบนางอารีย์ คงปราณ หรือ ป้าฉู อายุ 55 ปี เจ้าของร้าน เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ชายหนุ่มที่ได้รับความชื่นชมจากชาวเน็ต ว่ามีความขยันอดออมเก็บเงินซื้อรถเก๋งมือสอง ด้วยเงินสด แท้ที่จริงเป็นโจร ทราบเพียงชื่อเล่นว่า” แม็ค “ อายุประมาณ 30 ปี ที่ขโมยรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อซุซูกิ อาร์ซี สีแดงเลือดหมู ที่จอดหน้าร้าน เมื่อวันที่ 29 ส.ค.61 เวลาประมาณ 07.30 น.เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่ตนและสามี กำลังเตรียมตัวไปซื้อของที่ตลาดอาทิตย์ แต่ปรากฏว่า นายแม็ค ฉวยโอกาสขณะรถจักรยานยนต์ของตนจอดเสียบกุญแจอยู่หน้าร้าน ขโมยต่อหน้าต่อตา และหลังเกิดเหตุมีรถจักรยานยนต์สายตรวจของ สภ.ท่าศาลา คันหนึ่งขับผ่านหน้าร้าน ตนจึงขอความช่วยเหลือให้ติดตามคนร้ายขโมยรถจักรยานยนต์ แต่กลับถูกตำรวจปฏิเสธ และบอกตนให้ไปแจ้งความที่โรงพัก สุดท้ายคนร้ายขับรถจักรยานยนต์ของตนหลบหนีหายไป
หลังเกิดเหตุตนเข้าแจ้งความที่ สภ.ท่าศาลา แต่คดีไม่มีความคืบหน้าใดๆ ถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ตำรวจยังให้ตนไปหาคลิปกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายขโมยรถจักรยานยนต์ขับผ่าน ตนไม่รู้จะไปหาที่ไหน ที่สำคัญเรื่องติดตามคนร้ายเป็นหน้าที่ของตำรวจ แต่สุดท้ายเรื่องเงียบหายไป กระทั้งพบว่านายแม็ค โจรที่ขโมยรถจักรยานยนต์ของตน ปรากฏภาพในโลกโซเชียล ว่านำเงินไปซื้อรถเก๋งงมือสองที่เต็นท์รถแห่งหนึ่ง ใน จ.สุราษฏร์ธานี และมีการชื่นชมนายแม็ค คนร้าย ว่าเป็นคนขยันอดออมเก็บเงินซื้อรถเก๋งด้วยเงินสด ลูกชายจึงเข้าไปคอมเม้น แสดงความคิดเห็นเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่านายแม็ค เป็นโจรขโมยรถจักรยานยนต์ หลังจากนั้นชาวเน็ต มีการแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก แต่ความคิดเห็นแยกเป็นสองฝ่าย
นายอารีย์ ผู้เสียหาย กล่าวอีกว่า อันที่จริงตนทำใจเอาไว้แล้วว่า หากตำรวจไม่สามารถติดตามรถจักรยานยนต์ของตนกลับคืน ไม่สามารถ เมื่อเห็นว่านายแม็ค นำเงินไปซื้อรถเก๋งมือด้วยเงินสดกว่า 3 หมื่นบาท จึงคิดว่านายแม็ค คงนำรถจักรยานยนต์ของตนไปขายแล้วแน่นอน นอกจากนี้ตนทราบว่านายแม็ค มีนิสัยลักเล็กขโมยน้อย ไม่อยู่บ้าน แต่ไปอาศัยที่วัด และวัดที่นายแม็คอาศัย ถูกคนร้ายงัดตู้บริจาคขโมยเงินไปหลายครั้ง และยังจับคนร้ายไม่ได้เช่นกัน
เกี่ยวกับเรื่องนี้ผู้สื่อข่าวจึงโทรศัพท์สอบถามเจ้าของเต้นท์รถ “ ส.ธุรกิจโค - อ๊อฟ คาร์เซ็นเตอร์ “ ซึ่งอยู่ใน จ.สุราษฏร์ธานี และเป็นคนโพสต์ภาพดังกล่าว ให้ข้อมูลว่า หนุ่มในภาพมาซื้อรถยนต์เก๋งมือสองยี่ห้อนิสสัน เซฟี่โร่ เมื่อวันที่ 14 พ.ย.61 ที่ผ่านมา โดยชายหนุ่มนำเงินฉบับละ 20 50 และ 100 บาท รวมทั้งเหรียญ 1 ,5 ,10 บาท รวมเป็นเงิน 36,000 บาท แต่รถยนต์เก๋งตนติดป้ายขายราคา 60,0000 บาท และด้วยความสงสารเห็นใจ เพราะเห็นว่าชายหนุ่มมีความขยันรู้จักอดออมเก็บเงิน เพื่อซื้อรถเก๋งด้วยเงินสด จึงตัดสินใจลดราคาเหลือ 33,0000 บาท พร้อมนำเรื่องราวชายหนุ่มดังกล่าวไปชื่นชมโลกโซเชียล หลังจากนำภาพเผยแพร่
มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก และมีชาวเน็ตรายหนึ่ง แสดงความคดเห็นว่า ชายหนุ่มที่มาซื้อรถยนต์เก๋งที่ร้านด้วยเงินสด เป็นโจรขโมยรถจักรยานยนต์ที่ อ.ท่าศาลา อย่างไรก็ตามโพสต์ดังกล่าวตนลบออกไปแล้ว เพราะไม่ต้องการให้เกิดความวุ่นวาย ที่สำคัญตนไม่รู้จริงๆ ว่าชายหนุ่มที่มาซื้อรถยนต์เก๋งที่ร้าน เคยไปก่อเหตุขโมยรถจักรยานยนต์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี