แห่งแรกในประเทศไทย เกิดขึ้นจริง “ถนนชิบูย่าอุดร” ถนนเดินเท้าย่านธุรกิจปลอดภัยมาตรฐานโลก นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์อุดรธานี เป็นผู้ริเริ่มโครงการ เริ่มทดลองใช้ แต่มั่นใจเสียงตอบรับดี ขณะที่ประชาชนคนอุดรภูมิใจ เวลาเดินเหมือนซูเปอร์โมเดล
27 พ.ย.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณสี่แยกถนนทองใหญ่ ตัดกับถนนประจักษ์ศิลปาคม หน้าสถานีรถไฟอุดรธานี ซึ่งเป็นย่านธุรกิจเมืองอุดรธานี ได้มีการทาสีตีเส้น ทางม้าลาย 4 ด้าน และทางม้าลายทแยงมุมเป็นสีเหลืองกลางสี่แยก เน้นสีสันสวยงาม ฉุดฉาดสะดุดตา เพื่อให้ประชาชน เดินข้ามถนนด้วยความปลอดภัย คล้ายกับย่านธุรกิจ “ชิบูย่า” กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งตั้งชื่อไว้ว่า “Udonthani Walkable City” พร้อมติดป้ายเขียน ร่วมเดินสร้างสรรค์เมืองอุดรไปด้วยกัน ซึ่งสร้างความฮือฮาให้กับประชาชนที่ขับรถสัญจรผ่านไปมา ซึ่งต่างได้ถ่ายรูปลงในเพจส่วนตัวจำนวนมาก
พ.ท.วรายุส์ ตรีวัฒนสุวรรณ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์อุดรธานี เป็นผู้ริเริ่มโครงการ และตัวแทนภาคเอกชน เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับสมาคมการผังเมืองไทย ทดลองทำ ““Udonthani Walkable City” บริเวณสี่แยกถนนทองใหญ่ ตัดกับถนนประจักษ์ศิลปาคม ซึ่งอยู่บริเวณหน้าสถานีรถไฟอุดรธานี และย่านศูนย์การค้ายูดีทาวน์ เซนเตอร์พอยด์ และตลาดปรีชา และศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า ซึ่งเป็นย่านธุรกิจ ศูนย์การค้าเมืองอุดรธานี
“แนวความคิดเริ่มจาก สมาคมอสังหาริมทรัพย์เป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายพัฒนาเมืองทั่วประเทศ ได้ไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้เห็นประสบการณ์จากหลาย ๆ ที่ จากผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำว่าเมืองจะต้องปรับเปลี่ยน ฟื้นฟูกายภาพของเมือง ผมเชื่อว่าผู้ที่ไปเที่ยวต่างประเทศ ยุโรป ญี่ปุ่น อเมริกา โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่น ย่านธุรกิจชิบูย่า กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ชัดเจนมากเกี่ยวกับถนนให้คนเดิน ทำไมบ้านเราจะทำไม่ได้ จึงนำมาหารือกับสมาคมการผังเมืองไทย และสมาร์ทโรดไทยแลนด์ เพราะฉะนั้นจึงมีแนวความคิดที่จะที่อุดรธานี”
พ.ท.วรายุส์ เปิดเผยต่อไปว่า เราได้นำเสนอไอเดีย ความคิดนี้ให้เทศบาลนครอุดรธานี ซึ่งเป็นเจ้าของสถานที่ และรับความร่วมมืออย่างดี และวันนี้จะเป็นวันเปิดทดลองใช้ วัตถุประสงค์ของการทดลองใช้คือ “ความปลอดภัยบนท้องถนน” เป็นถนนแห่งการเดิน ผู้คนต้องเดินได้ เมื่อคนมาเดินต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นเรื่องแรก เรื่องที่ 2 คือพื้นที่สาธารณะริมถนน ที่ระบายสีเป็นเกณฑ์มาตรฐานสากล ทั่วโลกยอมรับจากสมาคมการผังเมือง เรื่องที่ 3 คือความสวยงาม น่าสนใจ ดึงดูดให้คนมา เป็นเมืองที่มีจุดสนใจให้คนทั่วประเทศ
“นอกจากนี้ยังจะมีทีมงานสอบถามความคิดเห็น มีกระดานให้ประชาชนได้แสดงความคิดเห็น ความพอใจ ติ ชม บางที่อาจไม่เหมาะสม ประชาชนสามารถให้คำแนะนำมาได้ จากนั้นก็จะประมวลคำติชม ตำแนะนำ ส่งผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เทศบาลนครอุดรธานี จะได้ปรับปรุง เพื่อเมืองอุดรธานีของเรา จะได้น่าอยู่น่าสนใจ และจะมีพิธีเปิดทดลองใช้อย่างเป็นทางการในเวลา 17.00 น. วันที่ 27 พฤศจิกายน”
นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์อุดรธานี กล่าวอีกว่า ผู้ใช้รถใช้ถนนและประชาชนไม่ต้องงงในการใช้ถนน โดยจะมีไฟแดง 3 จังหวะ จังหวะที่ 1 ไฟเขียวถนนประจักษ์ศิลปาคม จังหวะที่ 2 ไฟเขียวถนนทองใหญ่ จังหวะ 3 ไฟแดงสี่ทิศทาง 30 วินาที เพราะถนนไม่กว้างมาก เพื่อให้คนเดินข้ามไปมาอย่างปลอดภัย คล้ายกับต่างประเทศ ต้องมาทดลองใช้สถานที่จริง เป็นครั้งแรกของประเทศไทย ในโซเซียลมีคนตั้งชื่อให้แล้วว่าเป็นถนน “ชิบูย่าอุดร”
ด้าน นางเอมอร เจราศิลป อายุ 32 ปี ชาวเทศบาลนครอุดรธานี ที่มาเดินข้ามชิบูย่าอุดร เปิดเผยว่า ตนมีแฟนชาวต่างชาติ เดินทางไปเที่ยวต่างประเทศบ่อย เห็นการทำทางข้ามแบบนี้ รู้สึกว่าดี เพราะทำให้เซฟเวลาการข้ามถนน มันมีจังหวะเวลาให้เราเดินข้ามถนน เมื่อเราเดินข้ามรู้สึกเหมือนเป็นซุปเปอร์โมเดลเลย เมืองไทยเราถนนส่วนมากเป็นเวลาของรถยนต์ รถจะขับแบบสะดวกสบาย แต่เมื่อมาเห็นถนนเส้นนี้แล้วรู้สึกดี ไม่วุ่นวาย คล้ายถนนต่างประเทศ รู้สึกปลอดภัย ป้องกันชีวิต แต่ถ้ามีประชาชนมารอมาก อยากปรับปรุงให้มีสัญญาณไฟให้คนข้ามได้ กดสีแดง สีเขียว ให้ได้รู้ว่า รถหยุด และคนเดินข้ามได้แล้ว เพราะปกติส่วนใหญ่บนถนนจะเป็นเวลาของรถยนต์ไม่มีเวลาของคนข้ามถนน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี