คณะสงฆ์วัดไร่ขิง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวชี้ปมพระลูกวัดขัดแย้งเรื่อง "รับกิจนิมนต์" และ "การเจิมรถ" ผู้ช่วยเจ้าอาวาสเผยตอนนี้ทุกอ่ย่างยุติแล้วเนื่องจากเกิดความเข้าใจผิดของพระเพียง 2 รูป โดยได้นำหลักพระธรรมวินัยและหลักกกหมายสงฆ์มาดำเนินการ ขณะที่พระคู่กรณียอมยุติความขัดแย้ง พร้อมเตรียมถอนแจ้งความกันแล้ว
12 ธ.ค.61 ที่ห้องประชุมสำนักรองเจ้าคณะจังหวัดนครปฐม วัดไร่ขิง พระอารามหลวง ต.ไร้ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ได้มีการเปิดแถลงข่าวกรณีความขัดแย้งภายในวัดเรื่องการรับกิจนิมนต์และการรับเจิมรถ ของพระลูกวัด หลังเป็นประเด็นที่อยู่ในความสนใจของโลกเชียลเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยในการแถลงข่าวได้มีพระครูปฐมธรรมวงศ์ และพระครูปฐมธีรวัฒน์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง พร้อมเจ้าหน้าที่วัดและตำรวจ สภ.โพธิ์แก้ว อ.สามพราน ร่วมในการแถลงข่าวดังกล่าวด้วย
โดยพระครูปฐมธีรวัฒน์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาส เผยว่า หลังการเกิดปัญหาความขัดแย้งและปรากกฎข่าวความขัดแย้งขึ้นระหว่างพระกิตติ (นามสมมติ) พระพรรษา บวช 3 ปีได้เข้าแจ้งความและนำเรื่องราวโพสต์ลงในโซเชียลว่า ถูกพระปลัดวุฒิพงษ์ พระเลขาหัวหน้าสำนักงานวัดไร่ขิง ที่มีพรรษา 23 พรรษากลั่นแกล้งใช้อานาจไม่ชอบเรื่องการเจิมรถ และรับกิจนิมนต์ที่ไม่เป็นธรรม โดยหลังเกิดปัญหาพระเทพศาสนาภิบาล เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง รองเจ้าคณะจังหวัดนครปฐม ได้สั่งการให้มีการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวขึ้นทันที
ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง กล่าวอีกว่า เมื่อได้รับบัญชามาก็ได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาในการสอบสวนเรื่องดังกล่าว ประกอบด้วยผู้ช่วยเจ้าอาวาส 5 รูป พระเลขานุการเจ้าคณะจังหวัด 1 รูป ไวยวัจกร 1 คน เพื่อเรียกพระทั้ง 2 รูปที่ขัดแย้งกันมาให้ปากคำต่อหน้าคณะกรรมการ โดยอาศัยตามหลักกระธรรมวินัยที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงให้แนวทางไว้เป็นหลัก และเป็นไปด้วยหลักพระอธิกรณ์ 7 ประการ (วิธีระงับพระอธิกรณ์) และนำหลักกฎหมายขอพุทธที่เรียกว่า พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ.2505 เพิ่มเติมแก้ไข ฉบับที่ 4 พ.ศ. 2561 อาศัย อำนาจเจ้าอาวาส ตามมาตรา 37 และ 38 มาเป็นหลักในการสอบสวน
ในส่วนผลการสอบสวนของคณะกรรมการนั้นไม่ขอลงลายละเอียดซึ่งได้ผลที่ออกมา 8 ข้อ แต่โดยสรุปคือ มูลเหตุดังกล่าวเกิดจากความขัดแย้งด้วยความไม่เข้าใจกันมาก่อน ซึ่งมี 2 ประเด็นคือเรื่องการรับกิจนิมนต์และเรื่องการเจิมรถ ซึ่งหลังจากที่ทั้งคู่ได้วิวาทะ ทำให้อีกฝ่ายบันดาลโทสะ ขว้างกระป๋องกาแฟและขวดน้ำเข้าใส่ โดยมีพยาน 3 รูป กระป๋องกาแฟมีการโดนตัว
ต่อมาพระกิตติ ได้ไปแจ้งความที่ สภ.โพธิ์แก้ว และไปตรวจร่างกายเพื่อขอใบรับรองแพทย์ จากนั้นได้มีการนำคลิปเสียงที่บันทึกไว้ไปเผยแพร่ในโลกโซเชียล กระทั่งมีผู้สื่อข่าวทั้งทีวีและหนังสือพิมพ์เข้ามาทำข่าวโดยไม่ได้สอบถามเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง และพระปลัดวุฒิพงษ์ พระเลขาหัวหน้าสำนักงานวัดไร่ขิง ได้แจ้งว่าเป็นการบันดาลโทสะ โดยพระกิตติ ได้ชี้แจงว่าข่าวที่ออกไปมีความจริงไม่ถึงครึ่งหรือแค่ 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง กล่าวปิดท้ายว่า ตอนนี้ทางวัดไร่ขิงได้วางแนวทางเอาไว้แล้ว คือการให้เป็นไปตามพระธรรมวินัย และ พ.ร.บ.คณะสงฆ์ และต้องสร้างความสามัคคีให้กับคณะสงฆ์ในวัดไร่ขิง ซึ่งหากผู้ใดขัดขืนหรือไม่ปฏิบัติตามเจ้าอาวาสก็มีอำนาจถอดถอนหรือให้พ้นจากวัดและให้พ้นสภาพพระภิกษุสงฆ์ เป็นการอาบัติได้และทั้ง 2 ฝ่ายได้เข้าใจกันและตกลงยอมรับในเรื่องดังกล่าวแล้ว
ในส่วน พ.ต.อ.ชัยรินทร์ แก้วสุวรรณ ผกก.สภ.โพธิ์แก้ว กล่าวว่า สำหรับเรื่องดังกล่าวเป็นคดีอาญาที่สามารถถอนแจ้งความกันได้ ซึ่งจะมีการรับดำเนินการต่อไป ขอให้ประชาชนได้เข้าใจว่าจริง แล้ววัดไร่ขิงทำประโยชน์เพื่อสังคมมาเยอะมาก เรื่องนี้เป็นเรื่องเล็กน้อย ซึ่งอีกไม่นานก็จะมีการจัดงานประจำปีแล้ว เมื่อเรื่องนี้จบทุกอย่างก็จะเข้าสู่เหตุการณ์ปกติ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี