เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ยักยอกเงินวัด 300 ล้านแทงบาคาร่าออนไลน์ต้องอาบัติ 'ปาราชิก' ขาดจากความเป็นพระหรือไม่?

กรณีข่าวฉาวของเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงที่ถูกกล่าวหายักยอกเงินวัดจำนวนมหาศาลถึง 300 ล้านบาท เพื่อนำไปเล่นบาคาร่าออนไลน์ ได้จุดประเด็นสำคัญในหมู่พุทธศาสนิกชนถึงสถานะความเป็นพระของบุคคลดังกล่าว ตามพระวินัยปิฎก อาบัติปาราชิกถือเป็นความผิดร้ายแรงที่สุดสำหรับพระภิกษุ ซึ่งมี 4 สิกขาบท ได้แก่ การเสพเมถุน การลักทรัพย์ตั้งแต่ 5 มาสกขึ้นไป การปลงชีวิตมนุษย์ และการอวดอุตตริมนุสธรรม ผู้ที่ต้องอาบัติปาราชิกจะขาดจากความเป็นพระสงฆ์โดยสิ้นเชิงและไม่สามารถกลับมาบวชใหม่ได้

เมื่อพิจารณาถึงการยักยอกเงินวัด ซึ่งเป็นทรัพย์สินส่วนกลางที่ประชาชนบริจาคเพื่อการทำนุบำรุงศาสนา หากการสอบสวนพบว่าเจ้าอาวาสมีเจตนาถือเอาทรัพย์นั้นไปเป็นของตนเองโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีมูลค่าตั้งแต่ 5 มาสกขึ้นไป การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายอาบัติปาราชิก สิกขาบทที่ 2 คือ "ถือเอาทรัพย์ที่เจ้าของไม่ได้ให้" (ลักทรัพย์) แม้ว่าการแทงบาคาร่าออนไลน์โดยตรงจะไม่ใช่อาบัติปาราชิก แต่เป็นอาบัติปาจิตตีย์ ซึ่งเป็นการประพฤติไม่เหมาะสม การนำเงินวัดจำนวนมากไปใช้ในอบายมุขเช่นนี้ ยิ่งเป็นมูลเหตุสำคัญที่นำไปสู่การยักยอกเงิน

หากเจ้าอาวาสรูปดังกล่าวต้องอาบัติปาราชิกจริงตามพระวินัยสงฆ์ จะถือว่าขาดจากความเป็นพระสงฆ์โดยสิ้นเชิง โดยสถานะความเป็นพระได้สิ้นสุดลงแล้วโดยอัตโนมัติ การตัดสินว่าพระภิกษุต้องอาบัติปาราชิกหรือไม่ เป็นอำนาจของคณะสงฆ์ที่จะต้องมีการสอบสวนและวินิจฉัยตามพระธรรมวินัยอย่างละเอียด หากพบว่ามีความผิดจริง ก็จะดำเนินการตามขั้นตอนทางพระวินัยต่อไป กรณีนี้จึงเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องรอการสอบสวนและพิจารณาตามพระธรรมวินัยสงฆ์อย่างถี่ถ้วน เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายและรักษาความบริสุทธิ์แห่งพระธรรมวินัย - 001