สองปรากฏการณ์ "หลวงปู่เณรคำ" มีเมีย 8 คนสู่ "สีกากอล์ฟ" นารีพิฆาตพระชั้นผู้ใหญ่หลายรูป เขย่าศรัทธาพุทธศาสนาไทย
พุทธศาสนาไทยกำลังเผชิญวิกฤตศรัทธาครั้งใหญ่ ท่ามกลางปรากฏการณ์อื้อฉาวที่สั่นคลอนวงการสงฆ์อย่างต่อเนื่อง สองกรณีสำคัญที่สะท้อนปัญหารากลึกและประสิทธิภาพของกลไกการตรวจสอบภายในคณะสงฆ์คือ คดี "หลวงปู่เณรคำ" ในอดีต และบทบาทของ "สีกากอล์ฟ" ในปัจจุบัน แม้เหตุการณ์จะต่างบริบทเวลา แต่กลับชี้ให้เห็นถึงความเสื่อมทรามของพระธรรมวินัยและกลไกการกำกับดูแล
กรณี "หลวงปู่เณรคำ" อวตารแห่งโลกทุนนิยมในคราบผ้าเหลือง
ราวปี พ.ศ. 2556 สังคมไทยตื่นตะลึงกับชื่อ "หลวงปู่เณรคำ" หรือนายวิรพล สุขผล ซึ่งสร้างภาพลักษณ์อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์และอวดอ้างการบรรลุธรรมชั้นสูง เพื่อระดมเงินบริจาคจากศิษยานุศิษย์ได้อย่างมหาศาล
อย่างไรก็ตาม เบื้องหลังภาพลักษณ์นักบุญกลับเต็มไปด้วยพฤติกรรมผิดพระธรรมวินัยร้ายแรง หลักฐานปรากฏสู่สาธารณะเผยชีวิตหรูหราฟุ่มเฟือย ทั้งการครอบครองเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว รถยนต์หรูหลายคัน และการใช้สินค้าแบรนด์เนม ซึ่งล้วนมาจากเงินบริจาค นอกจากนี้ ยังมีข้อกล่าวหาหนักหน่วงเรื่องการเสพเมถุนกับสตรีหลายราย และการล่วงละเมิดทางเพศเด็กหญิง "ตามข่าวมีรายงานว่า หลวงปู่เณรคำมีเมียถึง 8 คน"
คดีนี้ไม่เพียงจบลงที่การตัดสินความผิดทางวินัยสงฆ์ แต่ขยายผลสู่กระบวนการยุติธรรมทางอาญา นายวิรพลถูกดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกงประชาชน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฟอกเงิน และพรากผู้เยาว์ แม้จะหลบหนีไปต่างประเทศ แต่ก็ถูกส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับมารับโทษจำคุกในประเทศไทย ถือเป็นบทอวสานของ "มหาเศรษฐีห่มเหลือง" ที่ตอกย้ำความล้มเหลวในการกำกับดูแลและปล่อยให้ปัจเจกบุคคลใช้ศาสนาเป็นเครื่องมือแสวงหาผลประโยชน์อย่างยาวนาน
กรณี "สีกากอล์ฟ" เสียงจากฆราวาสผู้ท้าทายอำนาจศักดิ์สิทธิ์
หากเณรคำคือ "ผู้กระทำ" ฝ่ายสงฆ์ที่ใช้ศาสนาบังหน้าแสวงหาเงินตราและกามสุข "สีกากอล์ฟ" กลับเป็นภาพของ "ผู้เปิดโปง" ฝ่ายฆราวาส ที่ใช้ข้อมูลเชิงลึกเปิดโปงพฤติกรรมฉาวของพระชั้นผู้ใหญ่ จนสั่นสะเทือนวงการสงฆ์อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เธอกลายเป็นบุคคลที่สังคมจับตาหลังการนำเสนอข้อมูลและหลักฐานกล่าวหาพฤติกรรมไม่เหมาะสมของพระสงฆ์ระดับ "ชั้นผู้ใหญ่" หลายรูป
โดยการเปิดโปงข้อมูลทั้งหมดนี้เกิดขึ้นหลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวและสอบสวน ซึ่งทำให้เธอต้องยอมเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดว่าเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องและมีสัมพันธ์กับพระสงฆ์ระดับใด วัดใดบ้าง
ข้อมูลที่เธอเปิดโปงมีหลากหลายมิติ ทั้งความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับสีกา การยักยอกเงินวัดและทรัพย์สินสงฆ์ ไปจนถึงการรับสินบนเพื่อแลกตำแหน่งทางการปกครองคณะสงฆ์ สิ่งที่แตกต่างจากการร้องเรียนในอดีตคือการใช้โซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือหลักในการเผยแพร่ข้อมูลสู่สาธารณะโดยตรง
ข้อมูลการเปิดโปงของสีกากอล์ฟนำไปสู่พระสงฆ์ที่ถูกกล่าวหาหลายรูปต้องลาสิกขา บางรูปถูกปลดจากตำแหน่งหน้าที่สำคัญ ก่อให้เกิดแรงกระเพื่อมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเข้ามาตรวจสอบอย่างจริงจัง กรณีนี้จึงสะท้อนการเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ทางสังคมที่ฆราวาสและเทคโนโลยีกลายเป็นกลไกตรวจสอบใหม่ที่ท้าทายโครงสร้างอำนาจเดิมขององค์กรศาสนา
ทั้งสองกรณีเป็นมากกว่าข่าวอื้อฉาว แต่คืออาการบ่งชี้ถึง "โรค" ที่กัดกร่อนพุทธศาสนาไทยมาอย่างยาวนาน โดยสามารถวิเคราะห์ผ่านมิติสำคัญได้ดังนี้
1.ความล้มเหลวของระบบตรวจสอบภายใน ทั้งเณรคำและพระชั้นผู้ใหญ่ที่ถูกเปิดโปง เชื่อว่าต่างทำผิดกันมานานโดยที่คณะสงฆ์ไม่สามารถจัดการอะไรได้เลย นี่เป็นการสะท้อนปัญหาการเกื้อหนุนในระบบอุปถัมภ์ และการขาดระบบตรวจสอบถ่วงดุลที่โปร่งใสและเป็นธรรม
2.อิทธิพลของทุนนิยมและวัตถุนิยม เณรคำเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่าศาสนาถูกมองเป็นเหมือน สินค้าที่ซื้อขายได้ ส่วนกรณีสีกากอล์ฟที่เปิดโปงก็มักจะพบเรื่องของ ผลประโยชน์และเงินทอง เข้ามาเกี่ยวข้องเสมอ สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่าแก่นแท้ของพระธรรมวินัยกำลังถูกบิดเบือน เพราะสังคมที่เน้นวัตถุและบริโภคนิยมได้เข้ามามีอิทธิพลในทุกแง่มุม รวมถึงในวงการสงฆ์
3.พลังโซเชียลมีเดีย กรณีเณรคำถูกเปิดโปงผ่านสื่อกระแสหลักและการสืบสวนของภาครัฐเป็นหลัก แต่กรณีสีกากอล์ฟแสดงให้เห็นถึงพลังของภาคประชาชนบนโลกออนไลน์ ที่เทคโนโลยีและโซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบและเปิดโป่งผู้มีอำนาจได้อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
อนาคตของศรัทธาในยุคแห่งความท้าทาย
เหตุการณ์ "หลวงปู่เณรคำ" และ "สีกากอล์ฟ" ได้ทิ้งบาดแผลลึกไว้กับศรัทธาของพุทธศาสนิกชนและทำลายภาพลักษณ์ของพระพุทธศาสนาในประเทศไทยอย่างรุนแรง ความเชื่อมั่นต่อผู้ครองผ้ากาสาวพัสตร์ได้แปรเปลี่ยนเป็นความคลางแคลงใจ
ปรากฏการณ์เหล่านี้คือเสียงเรียกร้องดังกึกก้องให้เกิดการปฏิรูปวงการสงฆ์อย่างจริงจังและเร่งด่วน ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงโครงสร้างการปกครองคณะสงฆ์ให้มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ การสร้างระบบบริหารจัดการการเงินและทรัพย์สินของวัดที่เป็นมาตรฐาน การยกระดับการศึกษาพระปริยัติธรรมที่เน้นย้ำแก่นแท้ของพระธรรมวินัยมากกว่าพิธีกรรมและความเชื่อทางไสยศาสตร์
อนาคตของพระพุทธศาสนาในสังคมไทยขึ้นอยู่กับว่า องค์กรสงฆ์และผู้มีอำนาจที่เกี่ยวข้องจะกล้าเผชิญหน้ากับความจริงและลงมือแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างเหล่านี้อย่างแท้จริงได้หรือไม่ เพราะหากยังปล่อยให้วิกฤตศรัทธาดำเนินต่อไป ความเสื่อมถอยก็อาจมาถึงจุดที่ยากจะเยียวยาได้อีกต่อไป - 001
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี