ห่มเหลืองอยู่วัด แต่คุณธรรมต่ำกว่าชาวบ้าน อับอายไปถึงนรกอเวจี
ภาพของสงฆ์ในผ้าเหลือง เป็นสัญลักษณ์แห่งความสงบ ความเมตตา และการละทิ้งทางโลก ผู้คนต่างเคารพศรัทธา หวังพึ่งพิงทางจิตใจ และมองว่าเป็นผู้ที่ดำเนินชีวิตตามรอยพระพุทธองค์ มุ่งสู่การหลุดพ้น แต่เมื่อใดก็ตามที่ภาพลักษณ์อันศักดิ์สิทธิ์นี้ถูกบดบังด้วยพฤติกรรมที่ต่ำทราม ไร้ซึ่งคุณธรรม แม้กระทั่งต่ำกว่าชาวบ้านทั่วไป ความรู้สึกผิดหวังและสั่นคลอนในศรัทธาจึงเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
การสละโลกียสุข การโกนผม ห่มผ้าเหลือง เข้ามาอยู่ในวัด ถือเป็นการประกาศเจตนารมณ์อันแรงกล้าที่จะมุ่งมั่นในการปฏิบัติธรรม ละกิเลส และแสวงหาความสงบภายในจิตใจ พระสงฆ์จึงมีสถานะที่แตกต่างจากฆราวาส มีข้อปฏิบัติและวินัยที่เคร่งครัดกว่า เพื่อเป็นเครื่องมือในการขัดเกลาจิตใจ และเป็นแบบอย่างที่ดีงามแก่ผู้คนในสังคม
แต่หากผู้ที่อยู่ในผ้าเหลือง กลับประพฤติตนผิดศีลธรรม ละเลยพระธรรมวินัย หมกมุ่นในกามคุณ เห็นแก่ลาภยศสรรเสริญ หรือแม้กระทั่งเบียดเบียนผู้อื่น การกระทำเช่นนั้นย่อมเป็นที่น่าอับอายยิ่งกว่าฆราวาสที่ไม่ได้มีพันธะสัญญาทางศีลธรรมที่หนักแน่นเท่า
เพราะเหตุใดการกระทำผิดของสงฆ์จึงน่าอับอายยิ่งกว่า?
ประการแรก คือ การทรยศต่อศรัทธา ญาติโยมถวายปัจจัย ทำนุบำรุงวัด และให้ความเคารพศรัทธาด้วยใจบริสุทธิ์ หวังว่าสิ่งที่ตนทำนั้นจะเป็นการสนับสนุนผู้ที่ประพฤติธรรม แต่เมื่อพบว่าพระสงฆ์บางรูปกลับประพฤติตนในทางที่เสื่อมเสีย มันคือการทำลายความเชื่อมั่น และสร้างบาดแผลในจิตใจของผู้มีศรัทธาอย่างลึกซึ้ง
ประการที่สอง คือ การทำลายพระศาสนา พระสงฆ์เป็นตัวแทนของพระพุทธศาสนา การประพฤติชั่วของสงฆ์เพียงรูปเดียว สามารถสร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของศาสนาโดยรวม ทำให้ผู้คนเสื่อมศรัทธา และมองพระศาสนาในแง่ลบ
ประการที่สาม คือ การขาดแบบอย่างที่ดี พระสงฆ์ควรเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณ เป็นครูบาอาจารย์ที่ชี้นำแนวทางในการดำเนินชีวิตที่ถูกต้องตามหลักธรรม หากพระสงฆ์เองยังไม่สามารถรักษาศีลและคุณธรรมได้ แล้วจะสามารถสั่งสอนผู้อื่นได้อย่างไร
ประการสุดท้าย คือ ความรับผิดชอบที่หนักอึ้ง การเข้ามาบวชเรียนนั้น มิใช่เพียงแค่การเปลี่ยนสถานะ แต่เป็นการแบกรับความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ต่อพระธรรมวินัย ต่อหมู่สงฆ์ และต่อสังคม การละเมิดศีลและจรรยาบรรณของสงฆ์ จึงเป็นการกระทำที่น่าละอายและมีผลกระทบที่รุนแรงกว่าฆราวาส
โบราณท่านว่า "นรกอเวจี" เป็นขุมนรกที่ลึกที่สุดและทรมานที่สุด สำหรับผู้ที่ทำกรรมหนักอย่างยิ่ง การที่ผู้ห่มผ้าเหลืองแต่ประพฤติชั่ว ย่อมเป็นการสร้างกรรมที่หนักหนาสาหัส เพราะเป็นการกระทำที่ขัดต่อเจตนารมณ์ของการบวช และเป็นการทำลายศรัทธาของผู้อื่น ความละอายใจต่อบาปกรรมที่ตนก่อ จะประทับอยู่ในจิตวิญญาณ แม้กระทั่งเมื่อละจากโลกนี้ไปแล้ว
ดังนั้น ผู้ที่อยู่ในร่มกาสาวพัสตร์ ควรตระหนักถึงความสำคัญของศีลาจารวัตร และหมั่นเจริญภาวนาเพื่อขัดเกลากิเลสอยู่เสมอ การประพฤติตนให้สมกับความเป็นสงฆ์ มีคุณธรรมสูงกว่าฆราวาส จึงเป็นสิ่งที่พึงกระทำ เพื่อรักษาศรัทธาของญาติโยม ธำรงไว้ซึ่งพระพุทธศาสนา และเป็นการดำเนินชีวิตที่ไม่ต้องอับอายไปจนถึงนรกอเวจี - 001
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี