อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เปิดศูนย์เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์เต่ามะเฟืองผ่านกล้อง CCTV 24 ชั่วโมงแห่งแรกของประเทศไทย พร้อมออนไลน์ 24 ชั่วโมงรับชมพร้อมกันทั่วโลก
นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง นายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา รองศาสตราจารย์ สัตวแพทย์หญิง ดร.นันทริกา ชันซื่อ ผอ.ศูนย์วิจัยโรคสัตว์น้ำ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมด้วยผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธรณ์ ธํารงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีฝ่ายกิจการพิเศษและประชาสัมพันธ์ คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ตลอดจนคณะผู้บริหารนายประถม รัศมี ผอ.สำนักบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 8 ว่าที่ร้อยเอกพงศ์ศักดิ์ เวทยาวงศ์ นายอำเภอตะกั่วป่า ตลอดจนคณะผู้บริหาร แขกผู้มีเกียรติ สื่อมวลชน ร่วมเปิดศูนย์เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์เต่ามะเฟือง ณ ชายหาดคึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล บรรลุผลสำเร็จ และประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจ รับรู้ รับทราบให้กับประชาชน
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 17 ธ.ค.61 มีเต่ามะเฟืองขึ้นมาวางไข่ชายหาดหน้าโรงแรมเขาหลัก ออคิด บีช รีสอร์ท ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา โดยมิสเตอร์เบรนด์และภริยาเดินจูงสุนัขออกกำลังกาย ได้พบแม่เต่ามะเฟือง กำลังขุดหลุมวางไข่ที่ชายหาด ขนาดวามยาวกระดอง 125 เซนติเมตร กว้าง 70 เซนติเมตร ขึ้นมาวางไข่จำนวน 118 ฟอง จึงได้แจ้งแก่ สบทช.8 โดยมีนักวิชาการจาก ศวทม.ลงพื้นที่พบว่า แม่เต่ามะเฟืองได้วางไข่ในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสม ก่อให้เกิดน้ำทะเลท่วมหลุมวางไข่ได้ อาจส่งผลให้ไข่เน่าเสียได้
ดังนั้น จึงต้องทำการย้ายหลุมวางไข่ไปไว้ในบริเวณที่เหมาะสมต่อการฟักตัวและปลอดภัยจากศัตรูตามธรรมชาติ พร้อมกั้นบริเวณพื้นที่วางไข่เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายแก่กระบวนการฟักออกเป็นตัวของลูกเต่ามะเฟือง โดยอยู่ห่างจากตำแหน่งเดิม 20 เมตร เนื่องจากเป็นบริเวณที่เหมาะสม เป็นลานทรายโล่งพร้อมมีการกั้นคอกเพื่อป้องกันศัตรูทางธรรมชาติและมนุษย์พร้อมติดป้ายประกาศเตือน โดยมีหน่วยงานที่ร่วมกันรับผิดชอบในการดูแล คือ สบทช.8, ศวทม., ศูนย์สารสนเทศทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง, อำเภอตะกั่วป่า, ฐานทัพเรือพังงา ทัพเรือภาคที่ 3, ผู้ประกอบการโรงแรมเขาหลัก ออร์คิด บีช รีสอร์ท, ผู้ประกอบการโรงแรม เดอะ เฮเว่น เขาหลัก, การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดพังงา และบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน)
เพื่อร่วมกันเฝ้าระวัง ป้องกัน และถ่ายทอดองค์ความรู้ทางวิชาการเป็น "ศูนย์เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์เต่ามะเฟือง" บริเวณหาดคึกคัก จ.พังงา เพื่อดำเนินตามมาตรการคือ มาตรการระยะสั้น เฝ้าระวังภัยคุกคามที่จะเกิดกับไข่เต่ามะเฟืองในหลุมฟักใหม่โดยการกั้นบริเวณพื้นที่และมีเวรยามเฝ้าระวังในช่วงเวลากลางคืน พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เดินลาดตระเวนแม่เต่าอาจกลับขึ้นมาวางไข่อีกครั้ง ในช่วงวันที่ 27-31 ธ.ค.61 พร้อมกับติดตั้งระบบกล้อง CCTV ที่สามารถถ่ายทอดสถานภาพการฟักไข่เต่ามะเฟืองตลอดระยะเวลา 24 ชั่วโมงได้ที่เว็ปไซด์ loveturtle.dmcr.co.th จนกว่าจะฟักเป็นตัวแล้วคลานลงสู่ทะเล พร้อมติดป้ายประกาศชนิดของเต่าที่วางไข่ทั้งภาษาไทยและอังกฤษ ข้อพึงปฏิบัติที่เหมาะสมในการเข้าชมหรือถ่ายภาพบริเวณหลุมฟักไข่ ข้อกฏหมายที่เกี่ยวข้องทั้ง/ พรบ. ทช./ พรบ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า 2535 และ พรบ.ประมง 2490 เป็นต้น
ส่วนมาตรการระยะยาว คือ การดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์ของ กรม ทช.ในการสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมและสร้างจิตสำนึกโดยชุมชนทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน และนักท่องเที่ยวในการช่วยกันอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ให้ความรู้เรื่องภัยคุกคามต่างๆ ที่ทำให้เต่าทะเลสูญพันธุ์ได้ เช่น ภัยคุกคามจากขยะทะเลที่ส่งผลให้เต่าทะเลบาดเจ็บและเสียชีวิตจากการอุดตันในระบบทางเดินอาหารและการพันยึดอวัยวะภายนอกอันก่อให้เกิดบาดแผลและตายได้ หรือภัยคุกคามจากการบุกรุกแหล่งที่อยู่อาศัยและแหล่งว่างไข่ของเต่าทะเล หรือการกัดเซาะชายฝั่งที่ทำให้เต่าทะเลไม่สามารถขึ้นมาวางไข่ในบริเวณที่เหมาะสมได้ จึงทำให้ไข่เน่าเสียหมด จัดกิจกรรมการมีส่วนร่วมกันเป็นเครือข่าย กรม ทช. อนุรักษ์ฟื้นฟูเต่าทะเล เป็นต้น ช่วงวันที่ 20 ธ.ค.61 - 14 ก.พ.62 แม่เต่ามะเฟืองตัวเดิมอาจจะกลับขึ้นมาวางไข่อีกครั้ง เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงฤดูวางไข่ของเต่ามะเฟืองตามธรรมชาติอีกด้วย
นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเล กล่าวว่า รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาเป็นประธานในพิธีเปิดศูนย์เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์เต่ามะเฟือง บริเวณหาดคึกคัก จ.พังงา กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้ตระหนักถึงโครงการอนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเลตามแนวพระราชดำริในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 และโครงการอนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล ในพระดำริพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ที่บรรจุสัตว์ทะเลหายากอยู่ภายใต้โครงการฯ
อีกทั้งกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ได้ตราพระราชบัญญัติส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้นำมาเป็นเครื่องมือในการทำงานจึงเป็นโอกาสให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้เป็นผู้นำในการสร้างความร่วมมือของการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล ระหว่างภาคราชการ ทั้งส่วนกลางและท้องถิ่น ภาคเอกชน โรงแรม ภาควิชาการ และองค์กรพัฒนาเอกชน ในพื้นที่หาดคึกคักให้ร่วมกันอนุรักษ์แหล่งวางไข่เต่ามะเฟือง โดยยึดหลักการการใช้ทรัพยากรธรรมชาติเป็นศูนย์กลาง ของความร่วมมือในการอนุรักษ์หมายถึงการที่เราจะอนุรักษ์เต่ามะเฟืองได้ ต้องอนุรักษ์ถิ่นที่อยู่อาศัย แหล่งวางไข่ รวมถึงการพัฒนาในพื้นที่ที่เปราะบางนี้ ต้องไม่รบกวนวงจรชีวิตของเต่าทะเลไปด้วยจึงเป็นที่มาของศูนย์เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์เต่ามะเฟืองฯ
"ทั้งหมดนี้เป็นความร่วมมือทำสำคัญตามนโยบายของรัฐบาล และหวังว่าความพยายามที่เราช่วยกันยกระดับการอนุรักษ์เต่ามะเฟือง ให้เข้มข้นและมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นในวันนี้จะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของจังหวัดพังงาไปสู่สากล และยังส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ทางทะเลระดับโลก บนพื้นฐานการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนสร้างกระบวนการมีจิตสำนึก หวงแหน และก่อให้เกิดกระบวนการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์แหล่งวางไข่และเต่ามะเฟืองแห่งนี้ด้วย ระยะเวลาในการฟักไข่ 60 วัน จึงต้องมีการเฝ้าระวังภัยคุกคามที่จะเกิดกับไข่เต่า"
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี