17 ม.ค.62 เมื่อเวลา 10.00 น. น.ส.วลัยลักษณ์ ล้านเกตุบุตร อายุ 26 ปี บ้านเลขที่ 3 หมู่ 10 ต.วิสัยใต้ อ.สวี จ.ชุมพร อดีตครูอัตราจ้างโรงเรียนประถมแห่งหนึ่งใน อ.สวี จ.ชุมพร เปิดเผยว่า เมื่อเดือนพฤศภาคม 2560 ตนได้ทำสัญญาจ้างกับโรงเรียนในระดับประถมวัยแห่งหนึ่ง โดยได้รับเงินค่าจ้างงบประมาณของโรงเรียนเดือนละ 6,000 บาท
ต่อมาได้มีครูอัตราจ้างงบประมาณขององค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ชุมพร ได้ลาออกจากโรงเรียนในเดือนมิถุนายน 2561 ผู้อำนวยการโรงเรียนได้เรียกตนเข้าพบและบอกว่าจะจ้างสอนต่อแทนครูที่ลาออกโดยใช้งบของ อบจ.ชุมพร ในอัตรเดือนละ 11,500 บาท แต่มีเงื่อนไขว่าจะจ่ายเงินให้ตนเพียงเดือนละ 6,000 บาท โดยให้เหตุผลว่าเนื่องจากทาง อบจ.ชุมพรเรียกเงินคืน ทางโรงเรียนจะได้มีเงินไว้คืน อบจ. อีกทั้งตนกับครูที่ลาออกไปสอนคนละวิชากัน
เมื่อถึงสิ้นเดือนมิถุนายน 2561 ทางโรงเรียนได้เรียกให้ไปรับเช็คเงินสด 11,500 บาท แล้วฝ่ายการเงินบอกให้โอนเงินเข้าบัญชีส่วนตัวฝ่ายการเงิน 5,500 บาท ตนเกิดความสงสัยจึงไปสอบถามผู้อำนวยการ ก็ได้รับคำตอบให้ปฏิบัติตามนั้น กรณีนี้เกิดขึ้นมาตลอดตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2561 จนถึงเดือนกันยายน 2561 ด้วยความสงสัยจึงไปพบผู้อำนวยการโรงเรียนอีกครั้ง คราวนี้ผู้อำนวยการโรงเรียนอ้างว่าจะเก็บเงินที่หักไว้เป็นเงินอุดหนุนสมทบกับเงินจาก อบจ.ชมพร และให้บอกกับคณะกรรมการสถานศึกษาว่าตนยินยอมให้หักเงินเอง
ด้วยความสงสัยตนจึงไปขอตรวจเอกสารทางการเงินจาก อบจ.ชุมพร จึงพบว่าชื่อของครูที่ลาออกนั้นยังคงมีรายชื่อเป็นครูอัตราจ้างงบประมาณของ อบจ.ชุมพร อีกทั้งยังมีลายเซ็นรับเงินเดือนตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2561 มาโดยตลอด จึงสอบถามไปยังครูที่ลาออกไปทำอาชีพส่วนตัวที่ จ.ตาก ก็ยืนยันว่าไม่เคยได้รับเงินตั้งแต่ลาออก แต่ ก่อนลาออก เจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินได้ขอเอกสารบัตรประชาชนไว้หลายชุด อ้างว่าเพื่อใช้ทำเอกสารกับ อบจ.ชุมพร เจ้าหน้าที่ของ อบจ.ชุมพร ไม่ได้ให้เอกสารที่มีลายเซ็น ของครูที่ลาออกไปแต่ตนเริ่มทราบแล้วว่ามีการโกงเงินด้วยการปลอมลายเซ็น ครูที่ลาออกไป จึงให้เพื่อนครูคนอื่นแอบถ่ายเอกสารใบเสร็จรับเงินออกมาและยังมีข้อขัดแย้งกับผู้อำนวยการโรงเรียนอีกหลายประเด็น ตนจึงตัดสินใจลาออก และเห็นว่าพฤติกรรมของผู้อำนวยการไม่ชอบมาพากล อีกทั้งจะทำให้โรงเรียนแห่งนี้เสียหายจึงตัดสินใจรวบรวมหลักฐานทั้งหมดจากที่ตนเองประสพพบและมีครูคนอื่นที่มีความรักโรงเรียนแอบนำออกมาเปิดเผยกับผุ้สื่อข่าวและประสานกับ ป.ป.ช.ชุมพร
ต่อมา น.ส.วลัยลักษณ์ ได้เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ชุมพร ที่สำนักงาน พร้อมหลักฐานเอกสารการทุจริตทั้งหมดของผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าว เพื่อให้ดำเนการตามขั้นตอนของกฎหมาย
น.ส.วลัยลักษณ์ กล่าวว่า ที่ตนกล้าออกมาเปิดเผยเนื่องจากตนไม่ชอบการกระทำแบบนี้ ทำให้โรงเรียนเสียหาย นักเรียนขาดคุณภาพ ทั้งทางด้านการเรียน และ สุขภาพ แล้วอนาคตของชาติจะเป็นอย่างไร นอกจากเรื่องการทุจริตเงินเดือนครู ปลอมลายเซ็นครูที่ลาออกไปเพื่อรับเงินจาก อบจ.ชุมพร และเบียดบังเงินเดือนที่จ้างตนเองไปอีกมากกว่าครึ่งหนึ่งแล้ว ผู้อำนวยการคนนี้ยังมีพฤติกรรมในการทุจริตอีกหลายเรื่อง อาทิ เรื่องการเก็บเงินอาหารกลางวันเด็กประถมคนละ 50 บาทต่อเดือนจำนวน 50 คน เด็กมัธยมคนละ 100 บาทต่อเดือนจำนวน 90 คน โดยอ้างว่าเป็นค่าอาหารว่าง แต่มีเพียงน้ำแดง 1 แก้ว ขนมปังปีป 1 ชิ้น
"นอกจากนี้ ยังมีการจัดจ้างเจ้าหน้าที่ธุรการที่เอาคนสนิทเช้ามาโดยไม่มีการเปิดรับสมัครตามระเบียบทางราชการ มีการปล่อยให้ครูที่ไม่มีใบประกอบวิชาชีพครูสอนในโรงเรียน อีกทั้งยังสร้างความแตกแยกในกลุ่มครู ถ้าไม่ยอมให้ผู้อำนวยการทำในสิ่งที่ผิดก็จะกลายเป็นฝ่ายตรงข้าม และไมได้รับการเลื่อนขั้น เลื่อนเงินเดือน ยังไม่รวมถึง ความตกต่ำทางด้านผลการเรียนของนักเรียนจำนวน 90 กว่าคน ทำให้ผู้ปกครองย้ายลูกหลานไปเรียนที่อื่นจากจำนวน 100 กว่าคนเนื่องจากเห็นถึงพฤติกรรมผู้อำนวยการคนนี้ และการทุจริตอีกหลายประเด็น เมื่อมีเรื่องร้องเรียนไปยังหน่วยเหนือระดับจังหวัดเรื่องก็เงียบหายไม่มีอะไรเกิดขึ้น" น.ส.วลัยลักษณ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี