5 ก.พ.62 เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาที่บริเวณป่าดงปู่ตาบ้านไผ่ หมู่ที่ 13 ต.ไผ่ อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ นายธวัชชัย ศิลาขา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 13 พร้อมผู้นำและประชาชนจาก 6 หมู่บ้าน ประมาณ 150 คน ได้ร่วมประกอบพิธีกรรมบวงสรวงศาลปู่ตาในป่าชุมชน ชื่อ "ปู่ขุนศรีวิชัย" และ "ย่าสร้อยศรีสุดา" เป็นศาลปู่ตาที่สร้างอยู่ในบริเวณใจกลางชุมชน เนื้อที่ 16 ไร่ โดยนายธวัชชัย บอกว่า ปู่ขุนศรีวิชัย และย่าสร้อยศรีสุดา เป็นผู้มาสร้างหมู่บ้านแห่งนี้ จึงต้องมีการตั้งศาลและประกอบพิธีกรรมมาตั้งแต่พรรพบุรุษเป็นต้นมา
การประกอบพิธีกรรมบวงสรวงครั้งนี้ผู้ที่เป็น "เฒ่าจ้ำ" จะเป็นผู้ทำหน้าที่กำหนดวันขึ้นมา คือ วันอังคารแรกขึ้นเดือนสาม ซึ่งตรงกับวันที่ 5 ก.พ.62 ขึ้น 1 ค่ำ โดยมีคุณตาไทย พุฒจีบ อายุ 89 ปี และคุณพ่อผึ้ง ภูลี อายุ 79 ปี ทำหน้าที่เป็น "เฒ่าจ้ำ" พาลูกหลานประกอบพิธีกรรม มีหน้าที่สื่อสารระหว่างผีปู่ตากับชาวบ้านซึ่งการเลี้ยงปีนี้คุณตาไท เฒ่าจ้ำ ในวัย 89 ปี กล่าวว่า เป็นการเลี้ยงขึ้นในเดือนสาม เป็นพิธีกรรมที่กระทำหลังจากคนในหมู่บ้านเสร็จสิ้นจากการทำนา ได้ข้าวปลาอาหารอันอุดมสมบูรณ์แล้วก็จะมาทำการเลี้ยงผีปู่ตาเป็นการตอบแทนคุณ ผีปู่ตาผู้ที่คอยปกป้องคุ้มครองชาวบ้านให้อยู่เย็นเป็นสุขตลอดทั้งให้กำลังใจในการทำงานและให้ฝนตกต้องตามฤดูกาลตามมา
พ่อเฒ่าจ้ำ หรือตาไท กล่าวเพิ่มเติมว่า การเลี้ยงขึ้น เฒ่าจ้ำทั้งสองจะเป็นคนหาเต่ามาประกอบทำเป็นอาหารเพราะช่วงฤดูแล้งจะพบเต่าจำนวนมากมายและเต่าจะเริ่มตั้งไข่ หากผีปู่ตาได้กินไข่เต่าจะทำให้ความสมบูรณ์ตามมาด้วย ในส่วนของลูกหลานพี่น้องที่มาร่วมพิธีก็จะใช้นำข้าวสุกน้ำตาลอ้อยใส่พร้อมเล่มเทียน จุดบอกกล่าวให้ผีปู่ตาได้รับรู้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสังเกตพบอีกปรากฏการณ์หนึ่งคือความเชื่อที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน ที่ชาวบ้านจะนำเชือกกล้วยมาจากบ้านแล้วมัดรอบต้นไม้ชนิดต่างๆ ที่อยู่รายรอบศาลปู่ตา ซึ่งเรื่องดังกล่าว คุณตาผึ้ง ภูลี เฒ่าจ้ำได้เล่าให้ฟังว่าเป็นความเชื่อ ศรัทธาของคนตำบลไผ่ ที่ผูกพันกับปู่แพ่งและผีปู่ตาขุนศรีวิชัย และย่าสร้อยศรีสุดา ในป่าตรงนี้ว่าการได้นำเชื่อกกล้วยมาผูกเข้ากับต้นไม้เป็นการให้ท่านช่วยดูแลสัตว์เลี้ยงให้ ซึ่งก่อนนั้นหลังเสร็จสิ้นการทำนานจะปล่อยสัตว์เลี้ยงไว้ในป่าเพราะทุ่งนาเต็มไปด้วยข้าว บางคนก็เป็นอาทิตย์ถึงจะมีเวลาเข้าไปดูสัตว์เลี้ยงของตนในป่า จึงมีพิธีกรรมสืบต่อกันมาคือการฝากสัตว์เลี้ยงไว้กับปู่ตาให้ผีปู่ตาได้ช่วยดูแล
มาถึงปัจจุบันชาวบ้านไผ่ เกิดความเชื่อและสืบทอดกันมาอีกว่า ลูกหลานที่ไปเรียนทำงานที่ไกลๆ ก็นิยมผูกเชือกกล้วยบอกกล่าวผีปู่ตาให้ช่วยคุ้มครองด้วย ที่สำคัญเป็นการช่วยให้ลูกหลานในชุมชนได้เห็นคุณค่าของต้นไม้เพื่อที่จะได้ช่วยกันอนุรักษ์ป่าให้สมบูรณ์ขึ้นด้วย ซึ่งหลังจากร่วมกันประกอบพิธีกรรมเสร็จสิ้นได้มีการรับประทานอาหารร่วมกัน เฒ่าจ้ำก็จะพบปะพูดคุยกับลูกหลานให้รู้ถึงการสร้างความรักสามัคคีเพื่อการพัฒนาชุมชนบ้านเราต่อไป ซึ่งจากกิจกรรมนี้ทำให้ชุมชนตำบลไผ่ หมู่ที่ 13 เป็นหมู่บ้านศูนย์เรียนรู้ต้นแบบ เป็นแหล่งศึกษาดูงานของคนทั่งในประเทศไทยและต่างประเทศหลายๆ เรื่องตามมา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี