ทุกวันนี้หากใครไปเดินเที่ยวตลาดไนท์พลาซ่า หน้าเทศบาลเมืองสุรินทร์ ช่วงตั้งแต่เวลา 15.00-21.00 น.ของแต่ละวันจะพบกับนางสาวภันทิรา แสงแก้ว อายุ 44 ปี แม่ค้าขายข้าวจี่ ที่กำลังยืนปิ้งข้าวจี่พลิกไปพลิกมา พร้อมตะโกนเชิญชวนให้ผู้คนที่ผ่านไป-มาให้เข้ามาช่วยซื้อข้าวจี่ในราคาแสนถูกเพียงไม้ละ 10 บาท โดยมี 2 แบบด้วยกันคือ ข้าวจี่โบราณ และข้าวจี่สมัยใหม่ ประยุกต์มาจากข้าวจี่โบราณ ซึ่งมีรสชาติไม่แตกต่างกันมากนัก จึงมีผู้คนหาซื้อข้าวจี่ทานแทนข้าวกันมาก และรับประทานเล่น เปิดขายทุกวันตั้งแต่เวลา 15.00 น.-21.00 น.
ข้าวจี่มีการปั้นข้าวเหนียว 2 แบบ คือ แบบโบราณ ลักษณะกลมๆ เท่าไข่ไก่หรือไม่ก็ใหญ่กว่าไข่ไก่ และปั้นข้าวเหนียวกดในพิมพ์รูปหัวใจ แล้วทาเกลือ หรือ ทาไข่ไก่ แล้วนำมาปิ้งที่เตาไฟอ่อนๆ การปิ้งข้าวจี่ต้องพลิกไป-มาจนมีสีเหลือง รสชาติหอมมันเค็มนิดๆ กินจนอิ่มท้อง โดยไม่ต้องกินอาหารอะไรเลย
นางสาวภันทิรา แสงแก้ว อายุ 44 ปี แม่ค้าขายข้าวจี่ เปิดเผยว่า ตนนำเอาความรู้จากการทำข้าวจี่ ปิ้งข้าวจี่ จากปู่ย่า ตายยาย พาทำกินมาตั้งแต่เด็กๆ ทำขายทุกวันโยใช้ข้าวเหนียววันละ 10 กิโลกรัม สร้างรายได้เป็นอย่างดีวันละกว่า 1,000 บาท สำหรับวิธีทำข้าวจี่ ไม่ได้ยุ่งยากอะไร เริ่มแรกให้แช่ (หม่า) ข้าวเหนียว จนได้ที่แล้วนำไปนึ่งให้สุก ต่อมานำข้าวเหนียวสุกมาปั้นเท่าฝ่ามือโรยด้วยเกลือ แล้วเอาไปวางที่เหล็กปิ้งบนเตาไฟ พลิกไปมา จนข้าวเหนียวออกสีเหลืองอมส้มก็สามารถรับประทานได้ จำหน่ายก้อนละ 10 บาท ข้าวจี่โบราณ จะมีรสชาติอร่อยแซ่บถึงใจ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี