ดราม่านักร้องเพลงกันตรึมสุรินทร์ พูดภาษาเขมร โซเชียลว่าคนสุรินทร์เป็นเผาพันธุ์ให้ท้ายเขมร ชี้แจงไม่ควรบูลลี่คนไทยด้วยกัน
8 มิถุนายน 2568 เวลา10.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีข้อพิพาทพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา และนำไปสู่ความตึงเครียดระหว่างชายแดน ล่าสุดได้มีกระแสดราม่า ศิลปินชาวสุรินทร์พูดภาษาพื้นถิ่นเป็นภาษาเขมร หรือ ขเมร (สะกด ขะ-แมร์) หรือภาษาประจำถิ่นของจังหวัดสุรินทร์ มี 3 ภาษา เขมร ส่วย ลาว
ผู้สื่อข่าวได้มีโอกาส เดินทางลงพื้นที่ไปพบกับราชินีกันตรึมคนดัง ซึ่งเป็นทั้งคนจัดรายวิทยุ ฉายาว่า มณีรัตนา อายุ 49 ปี เป็นคนอำเภอปราสาทสุรินทร์ และนางสาวโอ่งอาเจาแยย (สะกด โอ่ง-อา-เจา-แยย) ถ้าแปลความหมายชื่อเป็นภาษาไทย มีความหมายแปลว่า (หลานของยาย) โดยศิลปินทั้ง 2 คนได้มีโอกาสพูดคุย และเปิดใจกับผู้สื่อข่าว ถึงกรณีเป็นดราม่าคนสุรินทร์พูดภาษาเขมร ทำให้ชาวเน็ตมาวิพากษ์วิจารณ์ 'บ้างก็ว่าเพราะพูดภาษาเขมรนี่แหละ คนกัมพูชาถึงได้ใจคิดว่าเป็นเผ่าพันธุ์เขมร'
โดยนางสาว โอ่งอาเจาแยย เป็นศิลปินคนดังจังหวัดสุรินทร์ ไม่มีใครที่จะไม่รู้จัก ได้พูดคุยถึงเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น และได้ตั้งข้อสงสัยว่า คนสุรินทร์ส่วนใหญ่แล้วมีกจะใช้ภาษาประจำพื้นถิ่น คือภาษาเขมรสุรินทร์ (ภาษาขะแมร์) ทำไมต้องมาบูลลี่คนไทยด้วยกัน ส่วนศิลปินอีกคนคือนางมณีรัตนา อายุ 49 ปี เป็นนักจัดรายการวิทยุและเป็นเจ้าของสถานีวิทยุอยู่ฝั่งประเทศกัมพูชา หลังจากที่มีข้อพิพาทและอาจนำไปสู่การปิดพรมแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ และอีกหลายที่ในตะเข็บชายแดนไทย-กัมพูชา ได้พูดถึงสถานการณ์ไม่อยากให้มีการสู้รบ จึงได้ฝากเป็นคำพูดภาษากัมพูชาไปถึงผู้นำกัมพูชาและผู้นำประเทศไทย
นางสาวมณีรัตนา อายุ 49 ปี เล่าว่า ตนอยากเผยแพร่ศิลปะวัฒนธรรมเพลงกันตรึมให้คนได้รู้จักกันทั่วโลก และที่สำคัญอยากให้ประชาชนชาวกัมพูชาได้รู้จักเพลงกันตรึมไปด้วย ตนได้แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทยไปโปรโมทในประเทศกัมพูชา ผ่านคลื่นวิทยุทำมานับ10ปี จึงอยากให้รัฐบาลฝั่งไทยพิจารณานิดหนึ่ง เพราะฝั่งประเทศกัมพูชานั้นรักสินค้าเรามาก จะไม่ใช้สินค้าของประเทศอื่นนอกจากของประเทศไทย ทั้งสินค้าอุปโภคบริโภคประมาณ 99% ถ้าหากเกิดว่ารัฐบาลไทยตัดสินใจปิดพรมแดน และขับไล่กรรมกรแรงงานชาวกัมพูชาออกจากประเทศไทย ผลที่ตามมานั้นอาจบานปลายถึงที่สุด และมีผลกระทบกับเศรษฐกิจอย่างรุนแรง อยากให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาเรื่องตรงนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน มันอาจจะกลายเป็นปัญหาเชือกฟางเส้นสุดท้ายก็เป็นได้ ตนจึงได้พูดเป็นภาษากัมพูชา เพื่ออ้อนวอนไปถึงสมเด็จฮุนเซนต์ ไม่อยากให้มีสงคราม อยากให้อยู่กันอย่างสันติสุขเหมือนเมื่อก่อน
ด้านนางสาวโอ่งอาเจาแยย (โอ่ง อา-เจา-แยย) อายุ 58 ปี ศิลปินกันตรึม คนดังจังหวัดสุรินทร์ เล่าว่าเมื่อประมาณวันที่ 10 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งตอนนั้นยังไม่เกิดข้อพิพาทระหว่างไทย-เขมร ร้ายแรงขนาดนนี้ ตนเองได้ลงไปทำการแสดงร้องเพลงกันตรึม ที่งานขึ้นบ้านใหม่ ที่จังหวัดบันเตียเมียนจัย ประเทศกัมพูชา ซึ่งตอนนั้นเหตุการณ์ก็ปกติดีไม่มีอะไรเกิดขึ้นตนได้เข้าไปร้องเพลงและทำการทักทายเป็นภาษาเขมรสุรินทร์ กับชาวบ้านประเทศกัมพูชา และได้นำคลิปดังกล่าวมาลงโซเชียล
หลังจากที่มีข้อพิพาทพื้นที่ทับซ้อนกันปัจจุบัน ได้มีชาวเนตหลายคนตามมาคอมเม้น ต่างพูดว่า “นี่หรือเปล่าคุณสุรินทร์พูดขะแม แล้วคนเขมรเหิมเกริมไม่หยุด มันว่าคนสุรินทร์เป็นเขมรเผาพันธุ์มัน“ ตนจึงอยากชี้แจงว่า ศิลปะพื้นบ้านของจังหวัดสุรินทร์นั้น เป็นเพลงกันตรึมร้องภาษาเขมร ซึ่งเป็นภาษาพูดพื้นถิ่นจังหวัดสุรินทร์ หรือเป็นภาษาชาติติพันธ์มาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย ตนไม่รู้สึกอับอายที่ได้พูดภาษาพื้นถิ่นของจังหวัดตัวเอง จึงอยากให้แยกแยะนิดหนึ่งว่า การพูดภาษาพื้นถิ่นของจังหวัดสุรินทร์เป็นภาษาเขมร (ขะแม) ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นคนเขมรกัมพูชา และก็ไม่เกี่ยวข้องกับคนประเทศกัมพูชา
.012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี