ชวน หลีกภัย
nn...เข้าโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง ก่อนถึง 24 มี.ค.เข้าคูหากาบัตร บรรดาผู้สมัครพรรคต่างๆ ก็เดินหน้าหาเสียงเต็มสูบ ตื่นเช้าก่อนไก่กลับเข้าบ้านก็มืดค่ำ บรรดาแกนนำพรรคก็ไม่ต่างกันเพราะต้องตะลอนลงพื้นที่หาเสียงช่วยลูกพรรคให้ถ้วนหน้าเหมือนกัน...อย่างวันก่อนอดีตนายกฯ อดีตสส.หลายสมัย นายหัว “ชวน หลีกภัย” ก็ออนทัวร์ช่วยลูกพรรคหาเสียง 3 จังหวัดรวด เริ่มตั้งแต่เช้าออกจาก กทม.ไปช่วยผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ 3 เขต ของสมุทรสาคร เดินหาเสียง เขต 1 อ.เมือง “กุลวัชร หงส์คู” หมายเลข 12 ขึ้นรถแห่ทักทายพี่น้องรอบตลาดมหาชัย ก่อนจะไปต่อที่เขต 2 กระทุ่มแบน“สมชัย ศรีสุทธิยากร” หมายเลข 11 ยาวไปที่ เขต 3 บ้านแพ้ว “นิติรัฐสุนทรวร” หมายเลข 10 เบ็ดเสร็จ 3 เขต ใช้เวลาเกือบครึ่งวันเช้าถึงจบภารกิจ แต่ยังไม่เท่านั้น คณะของนายหัวชวน ต้องรีบเดินทางต่อไปช่วย “อรรถพร พลบุตร” ผู้สมัครของพรรคที่ จ.เพชรบุรี หาเสียงอีก จึงต้องรับประทานข้าวกล่องกันบนรถ ไปถึงปั๊บก็โดดขึ้นรถแห่ปราศรัยหาเสียงรอบตลาดเมืองเพชรฯ จบแล้ว ก็ต้องเร่งเดินทางไปช่วยผู้สมัครของพรรคที่จ.ราชบุรี หาเสียงที่ตลาดปากท่อ ถือว่าเสร็จสิ้นภารกิจในวันนั้น ปิดท้ายด้วยช่วงเย็นเดินทางกลับกรุงเทพฯ เป็นประธานงานแต่งงาน....นี่แหละ วิถีของคนจะอาสามาเป็นผู้แทนประชาชน ต้องอึดมีวินัย ไม่ย่อท้อและทุ่มเท...นายหัวชวนทำแฮททริก วันเดียว 3 จังหวัดแบบไม่มีตกบกพร่อง ไม่เพียงแต่ได้ใจลูกพรรคเท่านั้น ยังได้ทั้งใจทั้งเสียงจากพ่อแม่พี่น้องไปเต็มๆ เคล็ดลับคุณสมบัติความสำเร็จของคนที่จะเป็นผู้แทนอาชีพ ตัวจริงเสียงจริง ต้องมี...nn
nn...ช่วงนี้ยิ่งใกล้วันเลือกตั้งเข้ามาเท่าไหร่ การหาเสียงโจมตียิ่งมีให้เห็นกันหนาหู โดยเฉพาะช่วงโค้งสุดท้ายแบบนี้ นโยบายไหนเด่น ดัง ก็จะมีอีกฝ่ายออกมาโจมตี ขุดคุ้ยข้อมูลกันมาแบไต๋สารพัด อย่างนโยบายเกี่ยวกับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของรัฐบาล และถือเป็นนโยบายสำคัญของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่ส่วนใหญ่ทุกนโยบายจะพ้องกันกับนโยบายของรัฐบาลอยู่แล้ว ก็อาจจะเป็นไปได้ว่า โครงการนี้มันเป็นโครงการที่มีความเป็นไปได้ จับต้องได้ เป็นรูปธรรม และถือเป็นโครงการที่น่าภูมิอก ภูมิใจของรัฐบาล เพราะประชาชนชื่นชอบอย่างมาก จึงไม่แปลกที่จะมีการคัดค้านออกมาจากฝ่ายที่ไม่ต้องการเห็นโครงการนี้เดินหน้าไปได้ โดยเฉพาะจากฝ่ายการเมือง เพราะหลังจากที่ พปชร.นำโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ไปเป็นนโยบายของพรรค ก็ได้รับความสนใจจากประชาชน อยากให้ทำต่อเนื่องจากรัฐบาลนี้......ก็อย่างที่บอกเมื่อเป็นโครงการเด่น เป็นนโยบายดัง ความอิจฉาริษยาย่อมมีตามมา จะเห็นว่าตั้งแต่โครงการสวัสดิการแห่งรัฐออกมา จน พปชร.เอามาเป็นนโยบายของพรรค ก็จะถูกโจมตีมาโดยตลอดผ่านสื่อสังคมออนไลน์...
...ล่าสุด กระแสข่าวลวงเรื่อง บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ยังคงกลับมาวนเวียนในโลกโซเชียลฯอีกครั้ง โดยไปปล่อยข่าวในโซเชียลฯว่า “ผู้ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะไม่สามารถกู้เงิน หรือทำธุรกรรมอย่างอื่นได้”จนภาครัฐเอง ต้องออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงผ่านกลุ่มไลน์ไทยคู่ฟ้าหัวข้อ “อย่าเชื่อ! อย่าแชร์! ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐกู้เงินไม่ได้”เพราะมันไม่เป็นความจริง...และในเพจต่างๆ ที่สนับสนุน“ลุงตู่”อย่าง เพจ“ลุงตู่ตูน”ยังคงออกมายืนยันว่า “ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ”สามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้ตามปกติ ไม่มีนโยบายจำกัดสิทธิทางธุรกรรมผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐแน่นอน ข่าวที่แพร่สะพัด ออกมาเป็นข่าวเก่าแล้ว อย่าไปหลงเชื่อ สิทธิของคนที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ยังคงกู้เงินฉุกเฉินได้5 หมื่นบาทผ่าน ออมสิน-ธ.ก.ส.ใช้ในยามจำเป็นแทนกู้นอกระบบได้และยื่นทำสัญญาได้ถึง 31 มี.ค.2563…
...ก็นะ!...หน่วยงานภาครัฐออกมายืนยันชัดเจนกันขนาดนี้ก็คงสามารถสร้างความมั่นใจให้ประชาชนได้ระดับหนึ่ง แต่อีกส่วนหนึ่งประชาชนเองก็คงต้องตรวจสอบ“เฟคนิวส์”(Fake News) หรือข่าวปลอม กันหน่อย เพราะยิ่งยุคปัจจุบัน ข่าวเกิดขึ้นได้ง่าย เร็วแต่ยังขาดการตรวจสอบ โดยเฉพาะเรื่องสำคัญแบบนี้ ถ้าหน่วยงานภาครัฐไม่รีบชี้แจง ก็คงสู้ความรวดเร็วของ Fake News ในโซเชียลฯไม่ได้...เพราะฉะนั้นประชาชนอย่างเราๆ คงต้องตั้งสติในการรับข้อมูลกันให้มากขึ้นแล้ว ไม่งั้นคงได้ตกเป็นเหยื่อของพวกที่ไม่รับผิดชอบต่อสังคมและลูกหลานของเราได้...แอนตี้กันยาวๆไป
ข่าวปลอม ข่าวขยะ เหล่านี้ ช่วยกันๆๆๆๆๆ...nn
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี