บก.ปอท.เตือนสติภัยเงินกู้ด่วนนอกระบบในโซเชียล ไม่มีจริง ล้วนมิจฉาชีพเปิดมาหลอกลวงเหยื่อที่ร้อนเงินทั้งสิ้น แนะใช้บริการสถาบันการเงินดีกว่า แม้ขั้นตอนตรวจสอบมากหน่อยแต่ปลอดภัยกว่าเยอะ ขู่โจรแสบอย่าคิดรอด โอนผ่าน‘กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์’ตำรวจตามจับได้ โดนมาหลายรายแล้ว
14 มี.ค.62 ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท. ในฐานะโฆษก บก.ปอท.กล่าวว่า ปัจจุบันมีการหลอกลวงผ่านโลกออนไลน์ที่กำลังระบาดหนัก คือ การเปิดเพจหลอกลวงให้กู้เงินนอกระบบด่วน ซึ่งจะมีรูปแบบที่สามารถกู้ได้โดยง่าย เช่น คนที่ติดแบล็คลิสต์ก็สามารถกู้ได้ ไม่ต้องใช้หรือมีหลักค้ำประกันแต่อย่างใด การพิจารณาอนุมัติเสร็จภายใน 1 ชั่วโมง จะรู้เรื่องเลยว่าจะได้เงินหรือไม่ จากนั้นเมื่อมีประชาชนอยากใช้เงินด่วนก็จะให้ติดต่อแล้วพูดคุยผ่านทางโปรแกรม Facebook Messenger ก่อนให้เหยื่อส่งหลักฐานต่างๆไปประกอบการพิจารณาอนุมัติเงินกู้ เช่น ภาพถ่ายบัตรประชาชน , สมุดบัญชีเงินฝาก เป็นต้น จากนั้นไม่นานก็จะแจ้งผลกลับมาว่าพิจารณาอนุมัติแล้วผ่าน
ทั้งนี้ มิจฉาชีพจะพิมพ์เอกสารผลการพิจารณาอนุมัติทำให้ดูน่าเชื่อถือ เช่น มีบาร์โค้ด หรือ คิวอาร์โค้ด เพื่อทำให้ดูน่าเชื่อถือให้เหยื่อตายใจมากขึ้น จากนั้นคนร้ายจะขอค่าธรรมเนียม , ค่าดำเนินการหรือดอกเบี้ยก่อนเป็นจำนวนประมาณ 10% ของวงเงินที่จะกู้ เช่น กู้ 10,000 บาท ก็ต้องโอนดอกเบี้ยไปก่อน 1,000 บาท เมื่อได้โอนไปแล้วคนร้ายก็จะบล็อค Facebook หนีไป ติดต่ออะไรไม่ได้อีกเลย
โฆษก บก.ปอท. กล่าวอีกว่า หากคนร้ายแชทพูดคุยกับเหยื่อ แล้วเห็นว่าเหยื่อยังไม่รู้ตัวว่าถูกหลอกอีก ก็อาจจะหลอกลวงเพิ่มอีกได้ เช่น สอบถามว่าจะเพิ่มวงเงินกู้หรือไม่ ถ้าต้องการก็จะประสานขอกับหัวหน้าให้ แต่ขอเงินค่าธรรมเนียม หรือดอกเบี้ยเพิ่ม หากเหยื่อหลงเชื่อก็จะโอนให้ตามที่คนร้ายร้องขอมา จากนั้นเมื่อเห็นว่าหลอกต่อไม่ได้ก็จะบล็อค Facebook หลบหนีไป นอกจากเงินที่ถูกหลอกให้ไปแล้ว การที่ผู้เสียหายส่งภาพถ่ายบัตรประชาชนที่ถ่ายส่งไปให้ทางออนไลน์ ก็อาจจะโดนเอาไปใช้หลอกลวงบุคคลอื่นต่อไปอีก จากที่ตกเป็นเหยื่อถูกหลอกโอนเงินแล้ว อาจจะตกเป็นผู้ต้องหาในคดีอื่นในโอกาสต่อไปได้อีก
“คนที่ต้องการใช้เงินเร่งด่วนขอเตือนว่าเพจเงินกู้นอกระบบด่วนเหล่านี้ ไม่ใช่เรื่องจริง เจตนาที่มิจฉาชีพเปิดเพจออนไลน์ขึ้นมา เพื่อต้องการหลอกให้โอนเงินมัดจำหรือเงินดอกเบี้ยก่อนเท่านั้น โดยพบว่ามีมิจฉาชีพนิยมใช้วิธีการเปิด Page เหล่านี้ขึ้นมาจำนวนมากใน Facebook บก.ปอท.ขอเตือนให้ประชาชนทราบเลยว่าอย่าไปหลงเชื่อยืมเงินอย่างเด็ดขาด ถ้าเดือดร้อนจริงๆ ขอให้ไปใช้บริการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินที่มีมาตรฐานจะดีที่สุดและปลอดภัยกว่า แม้ขั้นตอนการกู้ยืมจะต้องมีการตรวจสอบมากหน่อยแต่ก็จะไม่โดนถูกหลอกแบบนี้อย่างแน่นอน” พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าว
พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าวด้วยว่า สำหรับสถิติการมาแจ้งความ บก.ปอท.ในกรณีที่ถูกฉ้อโกงทางโลกโซเชียลนั้นมีเพิ่มมากขึ้นทุกๆปี สำหรับการสืบสวนจับกุมก็มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ในทุกๆ คดีจะมีร่องรอยไว้ให้ติดตามสืบสวนได้อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะให้โอนไปทางใด จากการจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาฉ้อโกงลักษณะนี้หลายราย เขามักจะมีความเชื่อว่าถ้าใช้วิธีการให้เหยื่อโอนผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์แล้วตำรวจจะติดตามจับกุมไม่ได้นั้น อันนี้ขอบอกเลยว่าตำรวจเราสามารถสืบสวนติดตามได้อย่างแน่นอน ขออย่าคิดที่จะกระทำแบบนั้นเลย ซึ่งในเรื่องนี้ พล.ต.ต.ไพบูลย์ น้อยหุ่น ผบก.ปอท. กำชับให้ฝ่ายสืบสวนขยายผล จับกุมเพจอื่นต่อไป เนื่องจากเป็นการหากินบนความเดือดร้อนของผู้อื่น
สำหรับอัตราโทษของคดีฉ้อโกงประชาชนนั้นสูง คือ จำคุกไม่เกินห้า ปีปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ และอาจจะมีความผิดในเรื่อง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 มาตรา 14 (1) มีอัตราโทษเท่ากันกับข้อหาฉ้อโกง คือ จำคุกไม่เกินห้าปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี