อำเภอชานุมาน จังหวัดอำนาจเจริญ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ตรงข้ามกับประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตย ประชาชนลาว (สปป.ลาว) ประชาชนส่วนใหญ่ ประกอบอาชีพทางการเกษตร ด้วยการทำนาปลูกข้าวปีละ 1 ครั้ง เรียกว่า นาปี ทว่า บางคน มีที่นาติดแหล่งน้ำ ซึ่งมีน้ำตลอดปี จะทำนาปีละ 2 ครั้ง ที่สำคัญ เมื่อเสร็จสิ้นการทำนาปลูกข้าว จะมีการจัดงานบุญประเพณี เป็นประจำทุกปี เพื่อเป็นการพักผ่อนหย่อนใจ หลังเหน็ดเหนื่อยจากการทำนาปลูกข้าวมาหลายเดือน
สำหรับ เทศกาลแห่ยักษ์คุ ชานุมาน หนึ่งในงานบุญประเพณี ซึ่ง ชาวชานุมาน จัดขึ้นทุกปี โดยความร่วมมือหลายภาคส่วน ทั้งหน่วยงานราชการ พ่อค้า ประชาชน ห้างร้าน บริษัท ในปีนี้ กำหนดจัดงานแห่ยักษ์คุ ชานุมาน ระหว่างวันที่ 9 – 11 เมษายน พ.ศ.2562 ณ.บริเวณสนามหน้าที่ว่าการอำเภอชานุมาน อ.ชานุมาน จ.อำนาจเจริญ เพื่ออนุรักษ์ประเพณีโบราณ ที่มีมากว่า 100 ปี รวมถึงส่งเสริมาการท่องเที่ยว สร้างความสามัคคีปรองดองในชุมชนและสร้างรายได้แก่ชุมชนอีกด้วย
นายสกนธ์ บุญวิทย์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดอำนาจเจริญกล่าวว่า เทศกาลแห่ยักษ์คุ ชานุมาน ครั้งที่ 7 กำหนดขึ้น ระหว่างวันที่ 9 – 11 เมษายน พ.ศ.2562 ณ สนามหน้าที่ว่าการอำเภอชานุมาน อ.ชานุมาน จ.อำนาจเจริญ กิจกรรมในงานประกอบด้วย การปั่นจักรยานชมเมืองยักษ์คุ เล่าเรื่องราว ชานุมาน การแข่งขันตกปลา ที่แก่งหินขัน ริมแม่น้ำโขง การออกร้าน จัดนิทรรศการ การประกวดผลผลิตของเกษตรกร ที่มีความใหญ่ยักษ์ และการแสดงอีกมากมาย
ส่วน ไฮไลท์ ของงานอยู่ที่ วันที่ 11 เมษายน พ.ศ.2562 จะตะลึง ตื่นตา ตื่นใจ กับ ขบวนแห่ยักษ์คุของแต่ละหน่วยงาน ขบวนแห่ฟ้อนรำ ซึ่งนางรำทุกคน เพ้นท์หน้าแต่งตัวเป็นยักษ์คุ อย่างสวยงาม และน่าทึ่ง เห็นแล้วประทับใจ ไม่มีที่ไหนมาก่อน แห่งเดียวในประเทศไทย ขบวนแห่อัตลักษ์ 5 ตำบลของชาวขานุมาน โดยขบวนแห่ยักษ์คุ จุดเริ่มต้นที่ตลาดเทศบาลตำบลชานุมาน แห่ไปตามถนนสายหลัก เขตเทศบาลตำบลชานุมาน และไปสิ้นสุดที่บริเวณสนามหน้าที่ว่าการอำเภอชานุมาน ซึ่งเป็นสถานที่จัดงาน ตลอด 3 วัน นอกจากนี้ ยังจะได้ชม การเดินแบบชุดพื้นเมือง การประกวดธิดายักษ์ชานุมาน การประกวดธิดาชานุมาน การประกวดร้องเพลงลูกทุ่ง “ YAKKHU SINGING CONTEST 2019 “
นายสกนธ์ บุญวิทย์ ประธานภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวถึงที่มาของคำว่า “ยักษ์คุ" ว่า จากคำบอกเล่าของคนเฒ่าคนแก่มาหลายชั่วอายุคน นับเป็นเวลากว่า 100 ปี เรื่อง ยักษ์คุ หรือ ยักษ์คุกเข่า นั้น เป็นสิ่งที่น่าสนใจ ในความสอดคล้องของเรื่องราว ที่ท่าสีดา บ้านนาสีดา (ปัจจุบัน เป็นท่าเรือข้ามแม่น้ำโขงไป สปป.ลาว ) ซึ่งนางสีดา แต่ตัวรอ พระลักษณ์ พระราม เพื่อจะเดินทางไปด้วยกัน และมียักษ์คุกเข่ารออยู่ด้วย โดยมีหลักฐาน ซากสลัก หักพัง ของปราสาทโบราณ “เฮือนหิน" เป็นสิ่งยืนยัน หลงเหลือไว้เป็นตำนาน สิ่งเหล่านี้ เป็นความเชื่อของคนท้องถิ่น มีวิถีชีวิตอย่างเรียบง่าย ตามแบบของคนลุ่มน้ำโขง
นางธนภร พลูเพิ่ม ผู้อำนวยการ ท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานอุบลราชธานี กล่าวว่า ปีนี้ทาง ททท.สนับสนุนงานเทศกาลแห่ยักษ์คุ เต็มที่ โดยความร่วมมือกับ สภาคมท่องเที่ยว, สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว กลุ่ม โขง ชี มูล (อุบลราชธานี ยโสธร อำนาจเจริญ) รวมทั้ง จ..ศรีสะเกษ จัดคาราวาน แต่งยักษ์ทั้ง 4 จังหวัด และจังหวัดละไม่ต่ำกว่า 10 คัน มาร่วมขบวนแห่ จึงเป็นเรื่องแปลกและสร้างความสนุกสนานแก่นักท่องเที่ยวทุกคน ที่มาร่วมคาราวาน ซึ่งจะต้องแต่งกายเป็นยักษ์ โดย ททท.สนับสนุน ช่างเพ้นท์หน้ายักษ์ และที่สำคัญยักษ์ทุกคน มีแต่คนสวยๆงามๆ น่ารัก น่าใกล้ชิด ยิ่งนัก
สำหรับ นักท่องเที่ยวที่สนใจ ร่วมคาราวาน ติดต่อ ได้ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอุบลราชธานี ,สมาคมท่องเที่ยวและสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั้ง 4 จังหวัด ซึ่งจะทำให้ท่านสนุกสนานและประทับใจไปอีกนาน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี