ถือเป็นเรื่องราวดีๆ ที่น่าชื่นชมเป็นอย่างมาก สำหรับครูสาวบนดอยที่เป็นนางฟ้าของเด็กๆ และเมื่อ “น.ส.สุทธิลักษณ์ กันธิพันธ์” หรือ “ครูอุ้ม” ได้นำเสนอเรื่องราวการเป็นครูบนดอย ผ่านเฟซบุ๊กของเธอ “Suthiluck Kanthipan” โดยเธอได้เล่าเรื่องราวผ่านภาพ และทำคลิปวีดีโอถึงเรื่องราวการไปปฏิบัติหน้าที่ “ครูอาสา” ในถิ่นทุรกันดาร ที่โรงเรียนป่าเมี่ยงแม่พริก อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ซึ่งระยะทางที่เธอจะไปถึงโรงเรียนนั้น บอกได้เลยว่ายากลำบากอย่างมาก แต่ถึงแม้จะยากลำบากแค่ไหนเธอก็ไปสอนเด็กๆ บนดอยได้สำเร็จ จะเห็นว่าเธอละทิ้งความสบายของตัวเอง ไม่แปลกเลยที่เธอจะกลายเป้นครูอันเป็นที่รักของเด็กและชาวบ้านบนดอย
สำหรับครูอุ้มเธอมีดีกรีถึงนักศึกษาปริญญาเอก เธอสามารถเลือกไปสอนในโรงเรียนที่มีความสะดวกสบาย และมีสิ่งคอยอำนวยความสะดวก แต่เธอกลับทิ้งสิ่งเหล่านี้ไป และออกเผชิญหน้ากับสิ่งที่เธอเลือก นั้นคือ การมาเป็นครูบนดอยที่อยู่ห่างไกลความเจริญ และสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่าง
ทีมข่าวแนวหน้าออนไลน์ ได้เปิดอ่านบทความที่ครูอุ้มเขียน ตอนหนึ่งว่า ถ้าวันหนึ่งต้อง "เลือก" อย่ากลัวที่ต้องตัดสินใจเลือก ความสุขในวันนี้ถ้าเราไม่ชื่นชมไม่ตระหนักว่ามันเป็นความสุข พอถึงพรุ่งนี้มันก็กลายเป็นอดีตไปเสียแล้ว.... ดีแค่ไหนแล้วที่เรายังมีโอกาสได้เลือก มีอีกหลายคนที่เขาเลือกไม่ได้ ชีวิตต้องเป็นไปตามที่คนอื่นเลือกให้ ดังนั้นถ้าเรามีสิทธิ์เลือกสิ่งใดด้วยตัวเอง สับสนได้ แต่อย่ากลัว จงใช้สติและประสบการณ์พิจารณา เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเอง สำหรับใครที่รู้สึกว่าวันนี้เป็นวันที่เลวร้ายและประสพปัญหาหรือเจอกับความทุกข์มากมายนั้น ลองมองไปรอบๆ ด้านดูซิ ทุกคนต่างมีปัญหาและความทุกข์ด้วยกันทั้งนั้น.... อยู่ที่ว่าเค้าจัดการกับความทุกข์นั้นอย่างไรต่างหาก....
อยากแนะนำว่าให้ลองมองดูในกระจกว่า ตอนที่เรามีความสุข หน้าตาเราสวยขนาดไหน? สดชื่นขนาดไหน? ถึงไม่ได้แต่งหน้าหน้าตาเราก็เอิบอิ่มเต็มไปด้วยความสบายใจ แล้วลองมาเปรียบเทียบกับตอนที่เรารู้สึกผิดหวัง เวลาที่คุณร้องไห้ คุณลองมองหน้าตัวเองในกระจกดูสิ!!! มองดูแล้วมันน่าสมเพชมาก ขนาดเราเองยังรู้ว่าน่าสมเพช แล้วคนอื่นจะมองเราน่าสมเพชแค่ไหน..เกิดปัญหาก็ร้องไห้
ภาพที่ออกมาเป็นตัวตลก คนที่เขาทำให้เรามีปัญหา เขาทำให้เราทุกข์ เขารู้สึกสบายใจ เขาสมน้ำหน้าเรา เค้ากลับสะใจ ที่ได้เห็นเราอ่อนแอ นั่นคงเป็นเหตุผลเพียงพอแล้วว่าทำไมเราถึงต้องเลือกเหยียบความรู้สึกหม่นหมองนั้นไว้ ไม่แสดงออกให้ใครใครเห็นว่าเราอ่อนแอ ไม่ใช่ว่าเราหลอกตัวเอง แต่ #เรากำลังเลือกที่จะสร้างตัวเองให้เข้มแข็งและเติบโต เพราะสภาพจิตใจเรานั้นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด งานที่กำลังทำอยู่ก็เป็นงานที่สำคัญที่สุดเช่นกันอย่าลืมที่จะชื่นชมวันนี้ที่เรามีและสิ่งที่เราพบเจอให้เต็มที ความสุขในวันนี้ถ้าเราไม่ชื่นชมไม่ตระหนักว่ามันเป็นความสุข พอถึงพรุ่งนี้มันก็กลายเป็นอดีตไปเสียแล้ว... จงทำทุกวันของเราให้ดีที่สุด ชีวิตของคุณ คุณเลือกได้... #กาลครั้งหนึ่ง #ทางเดินชีวิต #ครูอุ้ม
และล่าสุดครูอุ้มได้โพสต์บนเฟซบุ๊กว่า บนดอยมีสัญญาณมือถือแล้ว และคนบนดอยรอคอยมานานจะได้ใช้กัน ทั้งนี้ ใครที่ติดตามชีวิตของครูอุ้มจะได้เห็นคุณครูสาวและเด็กๆ ผ่านเฟซบุ๊กมากขึ้น และที่สำคัญถนนได้รับการซ่อมแซมและปูซีเมนต์.. หลายๆอย่างเริ่มเจริญขึ้น ใครที่กำลังหาแรงบันดาลใจแวะเข้าไปอ่านเรื่องราวดีๆ ของครูอุ้มกันได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี