"ตาเล็ก" ชาวบ้านหนองช้างตายในวัย 73 ปี วอนเยาวชนคนรุ่นใหม่ร่วมกันสืบสานการทำ "ว่าวจากก้านมะพร้าว-ถุงขยะ" ที่ปัจจุบันการเล่นว่าวเริ่มเลือนหายไปตามกาลเวลา
วันนี้ (29 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 75 ม.3 บ้านหนองช้างตาย ต.ท่างาม อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นบ้านพักของคุณตาเล็ก หรือ นายวิบูลย์ อินทร์คล้าย อายุ 73 ปี ที่ทำป้ายไวนิลขนาดใหญ่ติดไว้หน้าบ้านว่า "...อภินิหารก้านมะพร้าว..." เมื่อเข้าไปภายในบ้านก็พบกับว่าวชนิดต่างๆ จำนวนมากจึงทราบว่า "อภินิหารก้านมะพร้าว" ก็คือว่าวเหล่านี้ที่ทำโครงขึ้นมาจากก้านมะพร้าวที่หาได้ง่ายภายในท้องถิ่น
คุณตาเล็ก ได้เล่าให้ฟังว่า ย้อนไปสัก 60 กว่าปีที่แล้ว คุณตาอายุเพียง 13 ปี อยู่ในครอบครัวที่ยากจน สมัยนั้นคนมีเงินเขาเล่นว่าวกันสนุกสนาน เพราะว่าวในสมัยก่อนเป็นของเล่นที่สนุกสนานมากที่สุด จนเป็นที่มาของฤดูเล่นว่าว แต่คุณตาไม่มีเงินซื้อว่าว เพราะสมัยนั้นราคาว่าวตัวละ 50 สตางค์ ก็อาศัยไปนั่งดูเขาทำแล้วจดจำมาเริ่มทำเอง ลองผิดลองถูก จนสุดท้ายมีว่าวเล่นเป็นของตัวเอง จากวันนั้นถึงวันนี้ 60 ปีที่คุณตาเล็ก ยึดเป็นอาชีพทำว่าวขาย
คุณตาเล็ก บอกต่ออีกว่า ช่วงเริ่มทำว่าวใหม่ๆ ก็เห็นปัญหาที่ว่าวเมื่อติดลมบนแล้วไม้หรือปีกว่าวมักจะหัก หรือไม่กระดาษว่าวเมื่อเจอลมบนแรงๆ ก็มักจะขาด ก็มานั่งคิดหาวิธีที่ทำให้ว่าวเล่นได้นานขึ้น ให้คุ้มค่าของคนที่เอาเงินมาซื้อ จึงหันไปเห็นใบมะพร้าวมันโดนลมปลิวไสว เลยคิดว่าถ้าเอาก้านมะพร้าวมาทำว่าวจะเป็นอย่างไร
ส่วนกระดาษว่าวที่บอบบางเมื่อเจอลมแรงก็ขาด ตกน้ำก็เปียก จึงอยากได้อะไรที่เหนียวๆ และเบา ตนก็หันไปเห็นถุงขยะก็เลยเอาถุงมาทำแทนกระดาษว่าว ก็เลยเป็นที่มาของคำว่า อภินิหารก้านมะพร้าว เพราะตนทำได้สำเร็จ ใช้ก้านมะพร้าวมาทำโครงว่าว ประหยัด ไม่ต้องเหลา ไม่ต้องลงทุน แถมเหนียวโต้ลมได้เป็นอย่างดี
ส่วนถุงขยะที่นำมาตัดแปะโครงแทนกระดาษว่าว ก็อุ้มลมได้ดีมาก ยิ่งสมัยนี้ถุงขยะมีหลากสีสัน ทั้งแบบเดิมคือสีดำ ก็มีสีชมพู สีเขียว สีม่วง ทำให้ว่าวของตนก็มีสีสันมากยิ่งขึ้น ทำว่าวขายมาแล้วหลายพันตัว ขายตั้งแต่ราคา 50 สตางค์ ไปจนถึง 200 บาทในปัจจุบัน
ตาเล็ก บอกต่ออีกว่า แต่ในช่วง 4 ปีหลังมานี้ ตนต้องวางมือจากการทำว่าว แล้วไปหาจับปลา เก็บผักขาย หารายได้เลี้ยงครอบครัวแทน เพราะการเล่นว่าวนั้นเริ่มถูกโซเชียลมีเดียกลืนกลิ่นเข้าไป ทำให้เด็กรุ่นใหม่ หันมาเล่นคอมพิวเตอร์ เล่นโทรศัพท์มือถือมากขึ้น และไม่ค่อยสนใจกลับไปเล่นว่าว ทำให้ยอดขายว่าวลดลงอย่างเห็นได้ชัด
"ผมรู้สึกเสียดายความรู้ ที่สั่งสมคิดค้นลองผิดลองถูกมา 60 กว่าปีจนปัจจุบันมีว่าวถึง 10 ประเภท อาทิ ว่าวปักเป้า จุฬา จุฬาแปลง ว่าวนกยูง ว่าวไอพ่น แบทแมน ว่าวนกอินทรี นกฮูก และว่าวที่ผมภูมิใจมาที่สุดคือ ว่าวที่อนุรักษ์ความเป็นไทย อย่างว่าวปักเป้า และว่าวจุฬา ก็เลยอยากจะถ่ายทอดให้กับคนที่อยากจะมีความรู้เก็บไว้ถ่ายทอดต่อให้กับเยาวชนคนรุ่นหลังต่อไป ให้ร่วมกันอนุรักษ์ประเพณีการเล่นว่าวเอาไว้ให้อยู่คู่กับคนไทย ซึ่งหากใครสนใจ หรือทางครูอาจารย์อยากจะเชิญตนไปให้ความรู้หรือเป็นวิทยากรตามโรงเรียนต่างๆ ผมก็ยินดี ติดต่อได้ทางหมายเลขโทรศัพท์ 093-1988980" ตาเล็ก กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี