เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายเฉลิมพนธ์ ใหญ่ หงษ์ยนต์ ประธานประดาน้ำภาค 7 หน่วยปฏิบัติการใต้น้ำภาค 7 ได้โพสต์เล่าเรื่องราวการปฏิบัติหน้าที่ใต้น้ำลงในเฟซบุ๊ก "เฉลิมพนธ์ ใหญ่ หงษ์ยนต์" เกี่ยวกับเรื่อง 'แย่งศพกับผี" มาวันนี้ (2 มิ.ย.) เขาเล่าเกี่ยวกับเรื่อง "ผีทหารตามถึงบ้าน" หลังจากที่เขาได้นำร่างของทหารที่เสียชีวิตขึ้นจากการจมน้ำแล้ว ซึ่งเป็นอีกเรื่องที่หากใครได้อ่านแล้วจะต้องขนลุกแน่นอน

นายเฉลิมพนธ์ ใหญ่ หงษ์ยนต์ ประธานประดาน้ำภาค 7 หน่วยปฏิบัติการใต้น้ำภาค 7 ได้เล่าเรื่อง "ผีทหารตามถึงบ้าน" ไว้ดังนี้ ".....เรื่องมีอยู่ว่ามีอยู่วันนึงได้รับแจ้งจากทหารในค่ายไทรโยค จ.กาญจนบุรี ว่า มีทหารในค่ายตกน้ำจมหายไประหว่างลงไปฃ่อมเครื่องสูบน้ำที่อยู่หลังค่าย ฃึ่งเป็นแม่น้ำ รับแจ้งดังนั้นผมจึงนำกำลังชุดประดาน้ำจำนวน 6 นายพร้อมเรือเร็ว 1 ลำ เดินทางไปที่เกิดเหตุทันที 

ไปถึงที่เกิดเหตุเป็นแม่น้ำลำพาชี ที่อยู่หลังค่าย สอบถามผู้นำหน่วยได้ความว่า ผู้สูญหายเป็นจ่าทหารช่างจาก จ.ราชบุรี มาช่วยราชการที่ค่ายนี้ได้อาทิตย์นึงแล้ว เป็นช่าง พอดีเครื่องปั๊มน้ำที่อยู่ริมแม่น้ำหลังค่ายเกิดเสีย จึงอาสาลงไปฃ่อม แต่ระหว่างที่กำลังฃ่อมเครื่องอยู่ กระแสน้ำที่ไหลมาแรงได้ทำให้เขาลื่นตกลงไปในแม่น้ำกระแสน้ำที่แรงทำให้ร่างเขาจมหายไปต่อหน้าเพื่อนทหารที่อยู่ตรงนั้นหลายคน โดยไม่มีใครสามารถลงไปช่วยทัน เพราะกระแสน้ำไหลแรงมาก 

ได้ข้อมูลแล้วจึงมาวางแผนกับทีมงานว่าน่าจะใช้วิธีค้นหาแบบหน้ากระดานโดยใช้เชือก ตกลงกันเรียบร้อยแล้วผมกับทีมงานก็ลงค้นหาเลยครับ ช่วงนั้นฝนก็ตกแรงมากการค้นหาเป็นไปด้วยความยากลำบาก แต่ก็ค้นหากันแบบต่อเนื่องพวกเราแทบไม่ได้พักกันเลย ค้นหาไปได้ระยะทางเป็น 10 ก.ม. ก็ยังไม่พบ ฝนก็ตกไม่หยุด ผมดูทีมงานเหนื่อยมากแล้วเพราะต้องสู้กับกระแสน้ำที่ไหลแรง และใกล้จะมืดแล้ว จึงแจ้งยกเลิกยุติการค้นหาของวันนี้ พรุ่งนี้ค่อยค้นหาใหม่ 

แล้วเช้าวันรุ่งขึ้นก็นำทีมงานมาค้นหาเหมือนเดิมแต่ก็ไม่พบ วันที่สามก็มาค้นหาอีก ทั้งใต้น้ำและผิวน้ำค้นหากันตั้งแต่เช้าจนถึงบ่าย ก็ประสบความสำเร็จครับ โดยใช้เรือหาบนผิวน้ำก็ไปพบร่างลอยห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 13 ก.ม. โดยพบร่างลอยไปติดกับกิ่งไม้ชายแม่น้ำ ผมกับทีมงานจึงนำร่างใส่เรือไปขึ้นอีกที่หนึ่งเพราะตรงนี้เป็นตลิ่งที่ชันมาก 

เอาขึ้นมาชันสูตรเสร็จ ผมและทีมงานก็ช่วยกันนำร่างมาไว้ที่ศาลาแห่งหนึ่งเพื่อมาชำระล้างร่างกายและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ใหม่ โดยผมลงมือทำเองเลยเปลี่ยนเรียบร้อยก็ทำพิธีรดน้ำศพกันตรงศาลานั้นโดยมีผู้บังคับบัญชาและเพื่อนทหารทั้งในค่ายและที่เดินทางมาจากค่ายทหารที่ จ.ราชบุรี 

วันนั้นกว่าจะเสร็จพิธีก็เกือบเย็นผมถึงได้กับบ้าน พอมาถึงบ้านผมฃึ่งมีลูกน้องเป็นทอมกับแฟน เฝ้าบ้านของผมอยู่ เขาคุยกันอยู่ชั้นสามของบ้านผมตรงบันได ผมก็ได้บอกให้เฝ้าบ้านไว้ ส่วนผมจะไปทำกับข้าวที่บ้านผมอีกหลังหนึ่งไม่ไกลกันมากนัก แต่ก่อนไปทั้งสองคนถามผมว่าไปทำไรมากลิ่นที่ตัวแรงมาก ผมก็ไม่ได้ตอบว่าอะไรไป พอดีผมรีบเลยไม่ได้ตอบมันไป 

แต่ระหว่างทางผมก็สงสัยว่าทำไมผมอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนกลับบ้านทำไมยังมีกลิ่นเหม็นติดอยู่อีก พอผมไปถึงบ้านอีกหลังผมก็ลงมือทำกับข้าวเลยครับทำได้ประมาณครึ่ง ช.ม. ลูกน้องผมสองคนที่ผมให้เฝ้าบ้านก็วิ่งหน้าตาตื่นบอกว่า มีทหารแต่งชุดฝึกเต็มยศ มาหาผมที่บ้าน เขาเข้ามาในบ้านแต่ไม่พูดอารัยได้แต่มองขึ้นมาบนชั้นสาม หน้าตาหน้ากลัวรูปร่างใหญ่ล่ำดำ มองขึ้นมาเสร็จก็เดินหายไป ดูทั้งสองกลัวมาก 

อย่าว่าแต่ทั้งสองเลยผมฃึ่งไม่เคยกลัวผีเลย ได้ฟังลูกน้องมันเล่า ผมยังขนลุกเลย ผมก็เลยเล่าให้ลูกน้องฟังว่าวันนี้ผมไปทำอะไรมา และถามรูปร่างหน้าตามันตรงกับทหารที่ผมไปนำร่างเขาขึ้นมาวันนี้เลย เช้าวันรุ่งขึ้นผมก็เลยไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลที่วัดใกล้บ้านให้กับเขาไป แต่ผมก็คิดในแง่ที่ดีว่าเขาอาจจะตามมาขอบคุณผมก็ได้ใครจะรู้ ส่วนลูกน้องผมสองคนนั้นมันไม่กล้ามาบ้านผมอีกเลยจนถึงทุกวันนี้