วันนี้ (4 มิ.ย.62) ที่บ้านเลขที่ 32 หมู่บ้านสมานมิตร หมู่ 1 ต.ดอนศิลา อ.เวียงชัย จ.เชียงราย นายคำคง แก้วพิลา หรือเยาวชนเรียกกันว่า "ครูคง" ได้จัดพื้นที่ภายในบ้านให้เป็นค่ายมวยเล็กๆ เพื่อเยาวชนชื่อค่าย "ส.คงกระพัน" โดยเป็นที่รับรู้ของคนในชุมชน และในแต่ละวันจะมีเด็กๆ เยาวชนอายุตั้งแต่ 15-18 ปี พากันไปซ้อมมวยไทย โดยมีครูคง เป็นผู้สอนเชิงมวยให้
โดยเริ่มต้นด้วยการออกกำลังกายวิ่งไปตามถนนรอบๆ หมู่บ้าน ทดสอบร่างกายด้วยการกระโดดเชือกและซ้อมศิลปะมวยด้วยอุปกรณ์ต่างๆ ที่จัดเตรียมเอาไว้ เช่น กระสอบทราย นวม ฯลฯ โดยมีเวทีไว้คอยซ้อมเป็นคู่ๆ ซึ่งด้วยค่ายมวยเล็กๆ นี้ได้ทำให้ น.ส.มนธิชา แก้วพิลา หรือน้องน้ำหวาน อายุ 17 ปี หรือ"น้ำหวาน ส.คงกระพัน" ซึ่งเป็นลูกสาวของครูคง พึ่งคว้าแชมป์โลกในการแข่งขันชกมวยชิงแชมป์มวยหญิงโลกของสถาบันมวยไทยไอพีซีซี รุ่นน้ำหนัก 100 ปอนด์ ในศึกช้างมวยไทยเกียรติเพชร โกโก้แลนด์ สัญจรการกุศล เมื่อวันที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา ที่สนามมวยชั่วคราว ลานไร่โกโก้แลนด์ อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย
โดยน้องน้ำหวาน นอกจากจะได้แชมป์มวยไทยโลกหญิงดังกล่าวแล้วยังเคยได้แชมป์มวยไทยหญิงของนิตยสารมวยตู้ล้านนาเมื่อปี 2559 และได้แชม์กีฬาปันจักสีรัตในการแข่งขนกีฬาเยาวชนแห่งชาติภาค 5 ทั้งยังติดเยาวชนทีมชาติไทยกีฬาปันจักสีรัตเมื่อปี 2561 ทำให้ได้เข้าร่วมการแข่งขันระดับนานาชาติแล้วหลายครั้ง แต่ด้วยใจรักในกีฬามวยไทยทำให้ในปี 2562 นี้กำลังจะพร้อมด้วยเพื่อนๆ ในค่ายเดียวกันอีก 2 คน รวมทั้งหมดเป็น 3 คน ได้เป็นตัวแทนสมาคมกีฬาแห่ง จ.เชียงราย เดินทางไปแข่งขันเยาวชนมวยไทยที่สนามกีฬาแห่งชาติหัวหมาก กรุงเทพฯ เพื่อคัดตัวเป็นทีมชาติในเดือน ก.ค.นี้ต่อไปอีกด้วย
ค่ายมวยค่าย "ส.คงกระพัน" ยังมี น.ส.ณิศรา นามโคตร หรือน้องแพนเค้ก อายุ 18 ปีติดเยาวชนทีมชาติในปีที่ผ่านมาเช่นกัน และเคยได้แชมป์โลกการแข่งขันชกมวยไทยสมัครเล่นรุ่นอายุ 42 กิโลกรัม เมื่อปี 2560 ได้เหรียญเงินกีฬาเยาวชนแห่งชาติ น.ส.ทัศนีย์ สมฤทธิ์ หรือน้องเอิร์น อายุ 15 ปี ที่ได้เหรียญทองแดงกีฬาปันจักสีรัตในกีฬาเยาวชนแห่งชาติภาค 5
ขณะที่ยังมีนักมวยไทยทั้งชายหญิงที่เป็นเยาวชนอีกหลายคนที่ล้วนมีอนาคตไกลซักซ้อมอยู่ภายในค่ายเป็นประจำทุกวัน ตั้งแต่เวลา 18.00-20.00 น.ของวันจันทร์-วันศุกร์ และวันเสาร์-อาทิตย์ จะในเวลาเช้าและเย็น เพราะแต่ละคนล้วนกำลังเรียนหนังสืออยู่ในระดับมัธยมศึกษาทั้งสิ้น
โดยนายคำคง กล่าวว่า ตนสืบทอดการตั้งค่ายมวยมาตั้งแต่รุ่นบิดาที่ จ.ชัยภูมิ เมื่อย้ายถิ่นฐานไปอยู่ที่ จ.เชียงราย ก็จึงตั้งค่ายมวยเพื่อเยาวชนเล็กๆ แห่งนี้ขึ้นเพื่อฝึกสอนเยาวชนในชุมชนฟรีโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายมาตั้งแต่ปี 2520 ปรากฎว่ามีเยาวชนในหมู่บ้านสนใจฝึกซ้อมกันจนปัจจุบันมีจำนวน 24 คน และลูกสาวของตนที่สนใจเรื่องหมัดมวยตั้งแต่ยังเด็กเล็กๆ กระทั่งในช่วงหลายปีทีผ่านมาปรากฎว่าเยาวชนแต่ละคนไปเข้าร่วมแข่งขันตามรายการต่างๆ ทั่ว จ.เชียงราย และพาไปแข่งขันรายการสำคัญทั่วภาคเหนือ เมื่อมีโอกาสก็ไปแข่งขันระดับประเทศด้วยจนมีติดทีมชาติและได้แชมป์โลก ทั้งนี้คิดว่าการที่เด็กๆ มีความสามารถด้านกีฬาปันจักสีรัตด้วยนั้นอาจเพราะมีพื้นฐานจากการฝึกมวยไทยนั่นเอง
นายคำคง กล่าวอีกว่า ยอมรับว่าที่ผ่านมาต้องลงทุนในเรื่องต่างๆ เอง โดยเฉพาะการเดินทางไปแข่งขันหรือแม้แต่เยาวชนทั้ง 3 คนที่จะไปแข่งขันที่สนามกีฬาหัวหมากในเดือน ก.ค.นี้ก็ต้องใช้ค่าใช้จ่ายส่วนตัว หรือในรายการต่างๆ ก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายเองส่วนการสนับสนุนของภาครัฐและเอกชนต่างๆ นั้นมีน้อย แม้แต่เงินรางวัลหลายรายการที่ชนะเลิศมาก็จ่ายกันข้ามปี กระนั้นตนก็ยังตั้งใจมั่นว่าจะสานต่อการสอนเชิงมวยไทยให้กับเด็กๆ เยาวชนฟรีกันต่อไป เพื่อให้มีสุขภาพดีและใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์รวมทั้งมีศิลปะในการป้องกันตัว และก็น่าภาคภูมิใจที่เด็กๆ ที่เข้าร่วมต่างเรียนดีกันทั้งนั้น
"ผมมีอาชีพทำนาจำนวน 17 ปีเพื่อหาเลี้ยงครอบครัวโดยนอกจากน้องน้ำผึ้งแล้วเขาก็ยังมีพี่สาวอีก 2 คนโดยคนโตเรียนจบทำงานไปแล้วและคนกลางกำลังเรียนอยู่ระดับอุดมศึกษาแต่ข้อแตกต่างคือทั้ง 2 คนไม่สนใจเรื่องหมัดมวยโดยมีเพียงลูกคนสุดท้องคนนี้เท่านั้น ผมจึงคาดหวังว่าเขาจะติดทีมชาติในปีนี้อีกครั้งและเรียนหนังสือควบคู่ไปกับความก้าวหน้าด้านการกีฬาด้วย ส่วนเยาวชนคนอื่นๆ ก็พร้อมจะสอนให้เป็นประจำทุกวันต่อไปจนกว่าจะหมดแรง" นายคำคง กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เด็กส่วนใหญ่ที่อยู่ค่ายนั้นจะเรียนหนังสืออยู่ที่โรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงราย ซึ่งน่าแปลกใจที่แตกต่างล้วนมีผลการเรียนดี เช่น น้องน้ำผึ้งอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ (ม.) 5 ได้เกรดเฉลี่ย 3.5 น้องแพนเค้กอยู่ชั้น ม.6 ได้เกรดเฉลี่ย 3.8 น้องเอิร์น ชั้น ม.3 ได้เกรดเฉลี่ย 3.8 เป็นต้น ทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองต่างพาบุตรหลานมาเรียนกีฬากับครูคงและมีผู้คนแวะเวียนไปชมการซักด้วยความเอ็นดูและให้กำลังใจอย่างต่อเนื่อง
ทางด้าน น้องน้ำหวาน กล่าวว่า ตนเริ่มสนใจกีฬามวยตั้งแต่ยังเด็กเพราะเห็นพ่อสอนเยาวชนคนอื่นๆ เมื่ออยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ (ป.) 2 ก็ขอพ่อออกชกมวยที่งานบุญแห่งหนึ่งที่ อ.เชียงของ จากนั้นก็ขึ้นชกมวยไทยหญิงตามรายการต่างๆ อย่างต่อเนื่องจนปัจจุบันชกในรายการต่างๆ รวมกันได้กว่า 200 ครั้ง บางครั้งไม่มีคู่ชกหญิงจะขึ้นชกด้วยก็ชกกับผู้ชายและยังชนะได้อีกด้วย ซึ่งตนก็เห็นว่าแม้เราจะเป็นผู้หญิงก็สามารถชกมวยให้ประสบความสำเร็จได้และหลังเวลาฝึกซ้อมก็หันมาตั้งใจเรียนได้ด้วยเช่นกัน ส่วนในอนาคตนั้นอยากจะตั้งใจให้ผ่านการคัดตัวเป็นทีมชาติในเดือน ก.ค.นี้อีกครั้ง เพื่อแข่งขันระดับนานาชาติให้ได้ก่อนต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี