"วัดพิกุลทอง" หรือที่ชาวบ้านทั่วไปเรียกว่า “วัดหลวงพ่อแพ” (พระเทพสิงหบุราจารย์ เจ้าคณะจังหวัดสิงห์บุรี) ตั้งอยู่ที่ตำบลพิกุลทอง อำเภอท่าช้าง จังหวัดสิงห์บุรี ภายวัดนี้มีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวจังหวัดสิงห์บุรี ซึ่งพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) ทรงพระราชทานนามว่า "พระพุทธสุวรรณมงคลมหามุนี" หรือหลวงพ่อใหญ่ ประดิษฐาน ณ วัดพิกุลทอง เป็นพระพุทธรูปปางประทานพร ศิลปะสุโขทัย ขนาดหน้าตักกว้าง 11 วา 2 ศอก 7 นิ้ว สูง 21 วา 1 คืบ 3 นิ้ว ประดับด้วยโมเสดทองคำ 24 เคจากประเทศอิตาลี เป็นพระพุทธรูปปางประทานพรที่งามสง่า สวยงาม และใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
ซึ่งวัดแห่งนี้เป็นวัดที่ศรัทธาเลื่อมใสสำหรับชาวบ้านมาก เพราะหลวงพ่อแพ(อดีตเจ้าอาวาส) เป็นพระที่ชาวบ้านเคารพรักท่านได้ทำคุณประโยชน์ แก่พุทธศาสนาไว้มากมาย และมีส่วนช่วยให้วัดพิกุลทองไม่ชำรุดทรุดโทรมสวยงามจนถึงทุกวันนี้ "พระธรรมมุนี" หรือ "หลวงพ่อแพ เขมังกโร" นามเดิม แพ ใจมั่นคง ท่านเป็นชาวสิงห์บุรีโดยกำเนิด เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ 1 มกราคม พ.ศ.2448 ที่บ้านสวนกล้วย ต.พิกุลทอง อ.ท่าช้าง โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายเทียน-นางหน่าย ใจมั่นคง ในปี พ.ศ.2473 อาจารย์หยด เจ้าอาวาสวัดพิกุลทอง ลาสิกขาบท ชาวบ้านจึงร่วมกันนิมนต์หลวงพ่อแพให้รับตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบแทนในปี พ.ศ.2474 โดยขณะนั้นมีอายุเพียง 26 ปีเท่านั้น หลวงพ่อแพ ได้สร้างคุณานุคุณแก่ชาวเมืองสิงห์บุรีอย่างมากจนได้รับการยกย่องให้เป็น “เทพเจ้าแห่งลุ่มแม่น้ำน้อย”
“ภายในวัดก็มีพิพิธภัณฑ์หลวงพ่อแพ จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับ ประวัติและเครื่อง อัฐบริขารของหลวงพ่อแพตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน โดยรอบๆ พระวิหารใหญ่มีวิหารคด 4 ด้าน มีประตูเข้าออกระหว่างกลางแต่ละด้าน ซึ่งประดิษฐานพระพุทธรูปปางประทานโอวาท และพระพุทธรูปปีเกิด ประจำวันเกิด รวมทั้งหมด 56 องค์ และพระสังกัจจายน์องค์ใหญ่ผู้บันดาลโชคลาภ นอกจากนี้บริเวณวัดยังมีสวนธรรมะและสิ่งก่อสร้างที่สวยงามน่าสนใจ มีต้นไม้ใบหญ้าเขียวขจีสบายตา แวดล้อมด้วยธรรมชาติบรรยากาศสงบร่มรื่น เย็นสบาย สะอาด เพราะวัดได้รับการบูรณะดูแลรักษาอย่างดี เหมาะแก่การไปเที่ยวพักผ่อนสงบจิตใจ”
นอกจากนี้ยังมี “เขตอภัยทาน” สำหรับ “การทำทานให้อาหารปลา” ซึ่งเป็นอีกมุมหนึ่งของวัดที่ช่วยลดความเห็นแก่ตัวของตนเองให้น้อยลง ยิ่งไปกว่านั้น ด้านหลัง ของวัดยังมีสิ่งศักดิสิทธิ์ของชาวไทยตามความเชื่อทางพราหม์-ฮินดู คือ “พระพิฆเนศ” เทพแห่งศิลปะวิทยาการ ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่กลางน้ำ ลำตัวสีนวลมีขนาดหน้าตักกว้าง 9 ศอก ทางวัดได้สร้างสะพาน ไว้เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าไปกราบไหว้บูชาได้ ซึ่งเป็นจุดสุดท้ายของทางเดิน
สำหรับการเดินทางไปนั้นให้ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 3032 เมื่อถึงกิโลเมตรที่ 7-8 จะพบป้ายบอกทางมายังวัดพิกุลทอง ขับต่อไปอีกราวๆ 8 กิโลเมตร ตามถนนสาย 3008 จะถึงวัดพิกุลทอง
เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 – 16.30 น.
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. ททท.ลพบุรี 036-770096-7
ขอขอบคุณภาพจาก Thailand Top Vote,ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี บ้านพิกุลทองสามัคคี,น.ส.สหัสศรี พระเนตร, dhammajak.net
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี