มิอาจกล่าวว่า‘เยาว์ความ’! ปม‘ช่อ’ระอุ นิสิตเก่าจุฬาฯโพสต์จม.ถึง‘ปรเมศวร์’
12 มิ.ย.62 น.ส.ศุภมาส เสนะเวส ในฐานะนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก มีเนื้อหาดังนี้
เรียน ท่านรองอธิบดีอัยการ
ในทุกสังคมมีบุคคล มีสัญลักษณ์ มีรูปเคารพ มีอนุสาวรีย์ มีสิ่งสักการะบูชา ไม่ว่าจะโดยคุณงามความดีต่อประเทศชาติ โดยความศรัทธาตามหลักศาสนา ฯลฯ
หากใครมาหมิ่นหยาม ย่อมนำมาซึ่งความขุ่นแค้นโกรธเคือง
ในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
อนุสาวรีย์หรือพระบรมฉายาลักษณ์ ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว , พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
นับเป็นที่เคารพสักการะยิ่งของชาวจุฬาฯ
ที่คณะนิติศาสตร์ จุฬาฯ ยังเพิ่มเติมด้วยรูปของ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ -พระบิดาแห่งนิติศาสตร์ไทย (ซึ่งท่านคงรู้จัก) อีกด้วย
ดังนั้น เมื่อมีผู้แสดงอาการลบหลู่ หมิ่นแคลน เสียดเย้ย ต่อผู้ที่เคารพบูชา เป็นธรรมดาที่ย่อมมีผู้ไม่พอใจและมีปฏิกิริยาจากชาวจุฬาฯ จำนวนมาก
ไม่เพียงแต่เท่านั้น ทุกพระองค์ยังเป็นที่เคารพรักของพสกนิกรชาวไทย #ส่วนใหญ่
ด้วยทรงมีคุณูปการอเนกอนันต์ต่อประเทศไทย
กระแสความไม่พอใจ โกรธแค้น ขุ่นเคือง ตำหนิ ทักท้วง หรือสาปแช่งด่าทอ จึงโหมกระพือโดยธรรมชาติของตัวมันเอง
ลุกลามไปอย่างกว้างขวางและรวดเร็ว
นำมาซึ่งการสืบค้นถึงพฤติการณ์ต่าง ๆที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ของผู้กระทำ และที่สำคัญยิ่ง การกระทำในเรื่องดังกล่าวมีกฎหมายที่เกี่ยวข้อง คุ้มครองพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท และผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน บัญญัติไว้ในมาตรา ๑๑๒ แห่งประมวลกฎหมายอาญา
การเรียกร้องให้ตรวจสอบและดำเนินคดีจึงตามมา และฝ่ายบ้านเมืองจึงดำเนินการ
ทั้งหมดนี้ เป็นไปตามหลัก #อิทัปปัจจยตา –ผลย่อมมาแต่เหตุ ผู้กระทำเป็นผู้สร้างทำ มิใช่ผู้อื่นจองล้างกลั่นแกล้งแต่ประกาศใด จึงขอความกรุณาท่านโปรดเข้าใจ #ข้อเท็จจริง
บุคลากรที่มีหน้าที่เกี่ยวกับการอำนวยความยุติธรรม #โดยเฉพาะระดับสูง พึงดำรงความเที่ยงธรรมไว้ในจิตใจ มองทุกอย่างด้วยหลักเหตุผล
ใช้อารมณ์ความรู้สึกให้น้อย --น้อยกว่าบุคคลทั่วไป ดังที่กล่าวกันว่า พึงปราศจากอคติ ๔ อันได้แก่ ฉันทาคติ โทสาคติ โมหาคติ และภยาคติ และระมัดระวังการแสดงความเห็นอันกอปรด้วยอคติ ออกสู่สาธารณะ
อนึ่ง ตามหลักกฎหมายอาญา ผู้ที่ถือว่าเป็นเด็กและเยาวชน จะต้องมีอายุไม่เกิน ๑๘ ปีบริบูรณ์ การพิจารณาคดีจึงจะทำในศาลคดีเด็ก เยาวชนฯ และการลงโทษจะใช้กระบวนการฝึกอบรมในสถานพินิจต่าง ๆ แทนการจำคุกในเรือนจำ แต่กระนั้นก็ยังมีข้อยกเว้นสำหรับพฤติการณ์ที่โหดร้ายรุนแรงกว่าปกติ
ส่วนในหลักกฎหมายแพ่งฯ นั้น อายุ ๒๐ ปีบริบูรณ์ถือว่า #บรรลุนิติภาวะ มีความรู้ความเข้าใจเพียงพอที่จะทำนิติกรรมสัญญาต่าง ๆ ได้ โดยรับรู้ผลของการกระทำนั้น (ทบทวนมา เผื่อท่านจะหลงลืมด้วยวัยชรา)
ผู้กระทำการดังกล่าว มีอายุราว ๒๑-๒๒ ปีในขณะนั้น จึงไม่ใช่ #เด็ก ในสถานะใด ๆ ทั้งสิ้น
นอกจากนั้น ผู้กระทำ ยังกระทำในขณะที่กำลังจะเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร อันเป็นเครื่องประกาศความเป็นบัณฑิต
บัณฑิต แปลว่า ผู้มีปัญญา ผู้ทรงความรู้ นักปราชญ์ ฯ
จึงมิอาจกล่าวได้ว่ากระทำไปด้วยความ #เบาเต็ง หรือ #เยาว์ความ
จึงน้อมเรียนมาเพื่อทราบ
#การให้ธรรมเป็นทานชนะการให้ทั้งปวง
สัพพทานัง ธรรมทานัง ชิเนติ
ศุภมาส เสนะเวส
นิสิตเก่านิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รุ่นที่ ๒๑
(ผู้มีความรู้ไม่มากนัก)
๑๒ มิถุนายน ๒๕๖๒
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี