จังหวัดราชบุรีเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าเป็นเมืองของโอ่งมังกร และเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อในเรื่องอาหารการกิน อย่างเช่น อาหารตามสั่ง ข้าวแกง หรือจะเป็น ก๋วยเตี๋ยว ที่หลายๆคนมักจะคุ้นเคยกับข้าวแกงริมทาง ก๋วยเตี๋ยวไข่ ที่เรื่องชื่อของบรรดานักท่องเที่ยวและนักชิมทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่เดินทางมารับประทานกันจำนวนมาก 

ล่าสุดสังคมออนไลน์เมืองราชบุรี ได้มีการกล่าวถึงร้านข้าวแกงโอ่งมังกร ด้วยความอร่อยสุดคุ้มกับปริมาณของข้าวและกับที่ใส่ในภาชนะที่ทำจากไม้ตาล ที่มีราคาถูกที่เริ่มต้นเพียงจานละ 30-50 บาท แถมบริการผักน้ำพริกฟรีกินผักแบบไม่อั้น และบรรยากาศในการได้สัมผัสกับไอเดียเก๋ๆ ที่นำโอ่งมังกรทั้งใบเล็กใบใหญ่มาตกแต่งร้าน ที่ให้บรรดานักเซลฟี่ที่ก่อนจะรับประทานต้องนำกล้องโทรศัพท์มือถือมาถ่ายภาพและนำไปแชร์ในเฟซบุ๊กหรือ ig สร้างความฮือฮาในสังคมออนไลน์ในกลุ่มเมืองราชบุรี รวมไปถึงลูกค้าขาจรและขาประจำเป็นอย่างมาก ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปยังร้านข้าวแกงโอ่งมังกรดังกล่าว

พบว่าร้านตั้งอยู่ติดริมถนนเพชรเกษมฝั่งขาเข้าเมืองราชบุรี ตำบลอ่างทอง อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี ห่างจากทางแยกห้วยชินสีห์ ถนนเพชรเกษมฝั่งขาเข้าราชบุรี-กรุงเทพมหานคร ประมาณ 1 กม.ซึ่งภายในร้านมีการนำโอ่งมังกรใส่น้ำขนานใหญ่มาประดับตกแต่งภายในร้าน อาทิ เคาน์เตอร์เครื่องตั้งตู้โชว์กับข้าว โอ่งสำหรับตั้งหม้อแกง 4 ใบ ส่วนถ้วยจาน ชาม ช้อน ตะเกรียบ ทำมาจากไม้ตาล รวมไปถึงโต๊ะที่นั่งรับประทานอาหารมีการนำโอ่งมาตกแต่งวางเป็นที่นั่งสำหรับลูกค้า ส่วนตู้เคาน์เตอร์อาหารอีสานได้นำโอ่งเล็กโอ่งน้อยมาประดับเพื่อให้เข้ากับเมนูส้มตำโอ่งรสแซบ นอกจากนี้แก้วน้ำเครื่องดื่มต่างๆ ก็ยังมีการนำโอ่งมังกรขนาดเล็กมาเป็นภาชนะใส่อีกด้วย

นางวราภรณ์ สิริชมภู อายุ 42 ปี ชาวจังหวัดร้อยเอ็ด เจ้าของร้านข้าวแกงโอ่งมังกรเล่าให้ฟังว่า เดิมทีตนมีอาชีพเป็นแม่ค้าจำหน่ายสิ่งของใช้ได้รับคนงานในฟาร์มหมูแห่งหนึ่งในอำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี หลังย้ายตามสามีมาอยู่ที่จังหวัดราชบุรี รวมแล้วกว่า 20 ปี ด้วยความที่ตนเองเป็นคนชอบทำอาหาร ทั้งอาหารไทยและอาหารอีกสาน และฝันอยากเป็นเจ้าของร้านและเปิดร้านขาย ข้าวแกง-อาหารอีสาน เป็นของตัวเองที่เป็นร้านข้าวแกง-อาหารอีสานในฉบับเมืองราชบุรี 

โดยเฉพาะราชบุรีเป็นจังหวัดที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองของโอ่งมังกร ตนจึงนำโอ่งมังกรขนาดที่ใช้กันตามบ้านของคนทั่วไป ทั้งขนาดเล็ก ขนาดกลาง และ ขนาดใหญ่ มาตกแต่งร้าน ด้วยแนวคิดของตนในการวาดและออกแบบเอง โดยให้ช่างมาทำตามแบบที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นโซนตู้โชว์กับข้าว โอ่งตั้งหม้อน้ำแกง ต้มจืด หรือ ต้มแซบ ต่างๆ และโต๊ะที่นั่งทานอาหารที่จัดรูปแบบโอ่งมังกรมีทั้งโต๊ะชุดเดี่ยว และ โต๊ะชุดยาว เพื่อลูกค้าได้นั่งรับประทาน

นางราภรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากที่ทางร้านได้นำโอ่งใบเล็กมาใช้เป็นแก้วน้ำ ชุดเครื่องปรุง เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ เรียกได้ว่าเข้ามาทานข้าวแกง-อาหารอีสานที่ร้านเสมือนได้มาถึงเมืองโอ่งมังกรราชบุรีอย่างแท้จริง สำหรับเมนูอาหารจะมีหลากหลายเมนู โดยที่วันหนึ่งจะทำออกมาจำหน่ายวันละ 20 อย่างสลับหมุนเวียนกันตลอดทั้งวัน ทั้งประเภทแบบผัด ทอด ต้ม และ แกง พร้อมทั้งอุ่นให้มีความร้อนตลอดวัน เพื่ออรรถรสในการรับประทานของลูกค้า

ส่วนเมนูยอดฮิตของทางร้าน อาทิ ผัดกะเพรา ผัดกะเพรานก แกงเขียวหวาน ไชโป๊วผัดไข่ แกงพะแนงหมู แกงเทโพ ปลาทูทอด หรือ ต้มแซบกระดูกอ่อน หมูสามชั้นทอดกรอบ รับประทานควบคู่กับชุดผักน้ำพริกฟรี ซึ่งเป็นเมนูที่ลูกค้าจะสั่งรับประทานเป็นส่วนมาก ด้านเมนูอาหารอีสาน อาทิ ส้มตำ ปูเค็ม น้ำปลาร้า หอยดอง ไข่เค็ม ส้มตำไทย ลาภ ก้อย น้ำตก และยังมีส้มตำทะเลถาด ส้มตำรวมมิตร ตำซั่ว ซึ่งเป็นเมนูเด็ดของทางร้านที่ได้ทั้งรสชาติแซบ รสจัดจ้าน ที่ราคาไม่สูงมากนัก เริ่มต้นด้วยราคา 30 บาทไปจนถึง 120 บาท

ในสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ที่ผู้ใช้แรงงานและคนที่มีรายได้น้อย หรือจะเป็นนักท่องเที่ยว สามารถเข้ามานั่งรับประทานได้อย่างเต็มอิ่ม ควบคู่ไปกับการประดับตกแต่งร้านที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองโอ่งมังกรราชบุรี ถือเป็นอีก 1 ทางเลือกของคนที่ชอบทานข้าวแกง อาหารตามสั่ง หรือจะเป็นอาหารอีสาน และยังได้สัมผัสบรรยากาศในสไตล์โอ่งมังกรที่เป็นสัญญาลักษณ์ของจังหวัดราชบุรี ที่เรียกได้ว่ามาราชบุรีต้องแวะมากินข้าวแกงเมืองโอ่งมังกรราชบุรีที่นี่ ทั้งอิ่มอร่อยและยังสนุกกับกิจกรรมเซลฟี่ เช็คอินบอกให้รู้มาถึงเมืองราชบุรี แถมยังเลือกซื้อของฝากผลิตภัณฑ์จากต้นตาลที่ทำเป็นภาชนะ จาน ชาม ช้อน ซ่อมตระเกรียบ และแก้วน้ำ นำไปของฝากของที่ระลึกจากเมืองราชบุรีด้วย 

ส่วนผู้ที่จะเดินทางมารับประทานข้าวแกงเมืองโอ่งมังกรราชบุรี เดินทางจากกรุงเทพมหานคร เข้าสู่ตัวเมืองราชบุรี จากนั้นเดินทางเข้าสู่ถนนเพชรเกษม ราชบุรี – ปากท่อ และไปกลับรถที่สี่แยกห้วยชินสีห์ ตำบลอ่างทอง อำเภอเมือง ราชบุรี มาจนถึงร้านระยะทาง  1 กม. สอบถามได้ที่หมาเลข 093 – 0168819 ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 06.30 – 19.00 น. ของทุกวัน หรือติดตามได้ที่ แฟนเพจ FB ร้านข้าวแกงโอ่ง