วันนี้...เมื่อย้อนกลับไปปีที่แล้ว 23 มิ.ย.61 ได้เกิดเหตุการณ์ “13 ทีมหมูป่าอะคาเดมี” ประสบภัยติดภายใน “ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน” ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย นานถึง 17 วัน ซึ่งหลายคนคงจำเหตุการณ์วันนั้นได้ดีเพราะทุกคนต่างรวมใจเป็นหนึ่งเดียวในการเฝ้ารอการกลับมาของทั้ง 13 คนอย่างปลอดภัย แต่ก็มีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น เมื่อหนึ่งในทีมช่วยเหลือหมูป่า...นาวาตรีสมาน กุนัน หรือ “จ่าแซม” ได้เสียชีวิตขณะปฏิบัติภารกิจรับอาสาวางขวดอากาศร่วมกับทีมดำน้ำต่างชาติ (ชมคลิปสุดท้ายของจ่าแซม : ย้อนความทรงจำปรากฏการณ์แห่งชีวิต! ดูคลิปสุดท้าย 'จ่าแซม-วีรบุรุษถ้ำหลวง')
ซึ่ง น.อ.อนันต์ สุราวรรณ ผู้บังคับการกรมรบพิเศษที่ 1 หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ ได้เคยกล่าวในตอนหนึ่งของการแถลงข่าวปิดศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหายในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย (ศอร.) ถึงช่วงเวลาที่ จ.อ.สมาน กุนัน หรือจ่าแซม อดีตนักทำลายใต้น้ำจู่โจม (หน่วยซีล) นอกราชการ ที่อาสาลงมาช่วยเหลือทีมนักฟุตบอลเยาวชนหมูป่า อะคาเดมี 13 คน และเสียชีวิตขณะปฏิบัติภารกิจดำน้ำเพื่อวางขวดอากาศเมื่อวันที่ 11 ก.ค.61 ว่า.....
จ.อ.สมาน รับอาสาวางขวดอากาศร่วมกับทีมดำน้ำต่างชาติ 4 คน และคนไทย 1 คน เข้าไปวางขวดอากาศตามที่กำหนดไว้และกลับมา ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง พบว่า จ.อ.สมาน กับเพื่อนอีกคนยังไม่กลับ คำนวณเวลาว่าน่าจะไม่เกิน 5 ชั่วโมง แต่ 7 ชั่วโมงผ่านไปก็ยังไม่กลับทั้งสองคน ดูจากสถานการณ์ก็ยังคิดเข้าข้างตัวเอง เพราะดำจากโถงสามไปแล้วประมาณ 400 เมตร จะมีช่วงน้ำตื้นที่เดินได้ มีดำน้ำเป็นช่วงๆ ก็ยังมั่นใจว่าเหนื่อยและพัก
“จนเวลาประมาณ 01.00 น. คู่บัดดี้ของ จ.อ.สมาน ก็ดำมาที่โถงสามคนเดียว แจ้งว่าเกิดเหตุไม่ดีขึ้น ก็เป็นคืนที่เราสูญเสีย แต่สูญเสียหนึ่งชีวิต กับอีก 13 ชีวิตที่รอเราอยู่เราต้องเดินหน้าต่อ ทุกคนยอมรับในความเสี่ยง เพราะหน่วยเราฝึกให้รับภารกิจเสี่ยงอยู่แล้ว เรื่องของความสูญเสียเราต้องเตรียมใจอยู่แล้ว
สุดท้ายก็ถือว่างานนี้เป็นโอกาสดีของหน่วยงานของผมเองที่มีโอกาสร่วมมือกับนักดำน้ำระดับโลก ทำให้เห็นแนวทาง วิธีการ เทคนิคในการดำน้ำในถ้ำเพื่อพัฒนาขีดความสามารถ เพื่อรองรับอุบัติภัยของเราในอนาคต” ผบ.กรมรบพิเศษที่ 1 ระบุ
โดยประวัติส่วนตัวของ น.ต.สมาน กุนัน หรือจ่าแซม อดีตทหารประจำหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือกองเรือยุทธการ เกิดวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ.2523ที่อำเภอจตุรพักตรพิมาน จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นบุตรของนายวิชัย กับนางสำราญ กุนัน สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนชุมพลทหารเรือ และสำเร็จหลักสูตรนักเรียนทำลายใต้น้ำจู่โจม รุ่น 30 เข้ารับราชการที่หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการจนได้ครองชั้นยศ “จ่าเอก” ก่อนจะลาออกจากราชการมาปฏิบัติงานเป็นเจ้าหน้าที่ตระเวนระงับเหตุฝ่ายรักษาความปลอดภัย (รปภ.) ท่าอากาศสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เมื่อปี พ.ศ. 2549
ด้านชีวิตส่วนตัว สมรสกับ นางวลีพร กุนัน นอกจากนี้ เขายังเปิดฟาร์มไก่งวง ที่อำเภอจตุรพักตรพิมาน จังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อจำหน่ายลูกไก่งวง และพันธุ์ไก่งวง นอกจากนี้ น.ต.สมาน กุนัน ยังเป็นนักไตรกีฬา นักวิ่งเทรลที่รู้จักกันดี และนักจักรยานสังกัดทีม Nich-100Plus ทีมจักรยานสมัครเล่นที่มีชื่อเสียงของประเทศไทย ผู้เข้าแข่งขันในหลายรายการ ซึ่งถือเป็นนักกีฬาที่มีความสามารถสูง
โดยได้รับเหรียญรางวัลต่างๆ เป็นจำนวนมาก และยังเคยคว้าแชมป์โอเวอร์วอล หรือการแข่งขันกีฬาผจญภัย รายการ "ดิไอบิสเกาะสมุย โทรฟี่ 2010 " ครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นการแข่งขันวิ่ง ว่ายน้ำ พายเรือคายัค ระยะทาง 43.45 กิโลเมตร และปั่นจักรยาน จากผู้เข้าร่วมการแข่งขัน 103 ทีม ไม่เพียงเท่านี้ “วีรบุรุษถ้ำหลวง” ยังเป็นผู้ฝึกสอนการปั่นจักรยาน กิจกรรมค่ายเสือปั่น 01 ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยรวมถึงเคยสอนเทคนิคการใช้อุปกรณ์เทรลรันนิงผ่านรายการเสน่ห์กีฬา ที่ดำเนินรายการโดยเซลีน่า วีสมันน์
ซึ่งก่อนที่ “จ่าแซม” จะเสียชีวิตในปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยถ้ำหลวง สมาน กุนัน รับภารกิจเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 ให้ลำเลียงขวดอากาศจากโถงสามไปวางตามจุดต่าง ๆ ณ บริเวณสามแยกในถ้ำ โดยเริ่มดำน้ำในถ้ำตั้งแต่เวลา 20:37 น. วันที่ 5 กรกฎาคม หลังเสร็จภารกิจได้ดำน้ำกลับแต่หมดสติในน้ำ
ระหว่างนั้นคู่ดำน้ำที่ไปด้วยกันได้ปฐมพยาบาล (CPR) แต่เขาไม่ได้สติ จึงนำกลับมายังโถงสาม เพื่อปฐมพยาบาลอีกครั้ง แต่ไม่ได้ผล สมาน กุนัน เสียชีวิต ณ เวลาประมาณ 01:00 น. วันที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 มีผู้คนยกย่องสมาน กุนัน เป็นจำนวนมาก และให้สมญานามเขาว่า "จ่าแซม วีรบุรุษถ้ำหลวง"
ในวันที่ไม่มี “จ่าแซม”
นายวิชัย กุนัน “พ่อจ่าแซม” บอกกับ “ทีมข่าวเฉพาะกิจแนวหน้าออนไลน์” ว่า ก่อนที่เค้าจะเสีย เค้าได้ทำ “ฟาร์มไก่งวง” เนื่องจากเป็นความฝันของจ่าแซมที่หวังจะมาอยู่ในบั้นปลายชีวิต ในวันที่จ่าแซมเสียพ่อยังไม่เชื่อด้วยซ้ำ เพราะเพิ่งจะคุยกันไม่นาน แต่ถึงอย่างไรฟาร์มไก่งวงก็ต้องดูแลต่อเพื่อสานต่อเจตนารมณ์และเอาไว้ดูต่างหน้ายามที่คิดถึงลูก นี่ก็ไก่รุ่นที่ 3 แล้ว
“ไก่งวงชุดแรกลูกชายลงไว้ประมาณ 370 ตัว ขายออกไปแล้ว 2 รุ่น พอรุ่นที่ 3 ลูกไม่มีโอกาสได้กลับมาดูแลพวกมันอีก เพราะบอกพ่อว่าจะไปช่วยทีมหมูป่าที่ จ.เชียงราย ทั้งที่เพิ่งคุยกันไปไม่นาน ต่อมาหลานได้โทมาถามว่าจ่าแซมชื่อ “อั๋น” ใช่ไหม ก็ตอบว่าใช่ หลานก็พูดประโยคที่ช็อคที่สุดออกมาว่า จ่าแซมตายแล้ว ตอนที่หลานบอกก็ยังไม่เชื่อ แต่ก็ต้องยอมรับความจริงเมื่อมีคนมาบอกบวกกับข่าวที่ออกมา ถึงจะทำใจยากแต่ก็ต้องทำใจให้ได้”
นายวิชัย กุนัน กล่าวอีกว่า ทุกวันจะไปที่อนุสรณ์สถานจ่าแซม หรือ “อุทยานวีรบุรุษ” ที่ตั้งอยู่กลางสวนสาธารณะหมู่บ้าน โดยจะไปทำความสะอาดลดน้ำต้นไม้รอบๆทุกวัน หากวันไหนไม่ได้ไปจะรู้สึกไม่สบายใจ ตนเชื่อเสมอว่าลูกยังอยู่รอบๆตัวเราไม่ไปไหน และพ่อกับแม่ก็ยังคิดถึงลูกเสมอ
“หลังจากสูญเสียลูกชายไปเกือบ1 ปี พ่อยังคงคิดถึงจ่าแซมทุกวัน และยังเก็บภาพถ่าย เสื้อผ้า ถ้วยรางวัลของจ่าแซมไว้ทุกมุมของบ้าน นี่ก็ใกล้จะครบ 1 ปีที่ลูกเสียชีวิต ก็ยังรู้สึกเสียใจอยู่แต่ก็ภูมิใจในเวลาเดียวกัน ซึ่งในวันครบรอบการจากไปของลูกนั้น ครอบครัวก็ได้เตรียมจัดทำบุญเล็กๆที่วัดหนองคู เป็นวัดใกล้บ้านและเป็นสถานที่พระราชทานเพลิงศพจ่าแซม ซึ่งภายในวัดบริเวณศาลาปฏิบัติธรรมรัตนมงคลยังมีนิทรรศการภาพถ่ายชีวิตของจ่าแซม ตั้งแต่ตอนแต่งงาน จนถึงวันที่ได้ปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือหมูป่า
จึงอยากให้ทุกคนระลึกถึงสิ่งที่จ่าแซมได้ทำ พร้อมฝากถึงน้องๆ ทีมหมูป่าอะคาเดมี ให้นำจ่าแซมเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิต ที่เสียสละเพื่อคนส่วนรวม” พ่อจ่าแซม ฝากทิ้งท้าย
ขอบคุณภาพจากเพจ "จ่าแซม วีรบุรุษถ้ําหลวงฯ sam the hero"
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี