วันศุกร์ ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
เปิดตำนานสุสานช้างสุรินทร์! ชมอารยธรรมชาวกูยดั้งเดิมที่วัดป่าอาเจียง

เปิดตำนานสุสานช้างสุรินทร์! ชมอารยธรรมชาวกูยดั้งเดิมที่วัดป่าอาเจียง

วันพฤหัสบดี ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2562, 21.06 น.
Tag : ตำนานสุสานช้าง ชาวกูย สุรินทร์
  •  

เมืองช้างหรือจังหวัดสุรินทร์ ที่คนทั่วไปรู้จักกันในนาม เมืองที่มีช้างเลี้ยงมากที่สุดในโลก นับตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นถิ่นฐานของชนชาวกูยในจังหวัดสุรินทร์ คือที่บ้านตากลาง ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ซึ่งในปัจจุบันเรียกกันติดปากว่า “หมู่บ้านช้าง” ซึ่งที่นี่นอกจากจะเป็นหมู่บ้านที่มีการเลี้ยงช้างมากที่สุดแห่งหนึ่งในจังหวัดสุรินทร์แล้ว  ยังเป็นแหล่งเรียนรู้อารยะธรรมโบราณชองชาติพันธุ์ชาวกวยในจังหวัดสุรินทร์อีกด้วย 

โดยชาวบ้านที่นี่ได้ร่วมกันอนุรักษ์ไว้ ไม่ว่าจะเป็นการแต่งกายในชุดพื้นเมือง ตลอดจนเครื่องใช้ต่างๆที่ยังมีหลงเหลืออยู่ และที่นี่ยังเป็น “สุสานช้าง” ซึ่งนับว่าเป็นหนึ่งเดียวในโลกที่มีการนำช้างมาฝังไว้ที่นี่มากที่สุดแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ที่ “วัดป่าอาเจียง” บ้านหนองบัว ต.กระโพ

 


สำหรับเส้นทางที่จะมา “สุสานช้าง” วัดป่าอาเจียง บ้านหนองบัว ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ หากเดินทางมาจากตัวเมืองสุรินทร์ มาตามเส้นทางสายสุรินทร์-ร้อยเอ็ด ซึ่งจะมีระยะทางประมาณ 52 กม. โดยเลี้ยวซ้ายไปบ้านตากลาง ต.กระโพ เลยศูนย์คชศึกษา หมู่บ้านช้างบ้านตากลางไปประมาณ 1 กม. ก็จะพบซุ้มประตูทางเข้าวัดป่าอาเจียง ซึ่งปั้นเป็นรูปช้างขนาดใหญ่(กำลังก่อสร้าง) โดยสองข้างทางจะเป็นป่าทึบ บนเนื้อที่ 80 ไร่ ที่ยังคงมีไม้ป่านาๆพรรณที่ชาวบ้านและวัดได้ร่วมกันอนุรักษ์ไว้ 

ส่วนลึกเข้าไปภายในก็จะเป็นบริเวณของวัดป่าอาเจียง ซึ่งมีพิพิธภัณฑ์ศาลาเอราวัณซึ่งเป็นที่เก็บรวบรวมเรื่องราวต่างๆของพระพุทธศาสนาและพราหมณ์ ศาลประกำซึ่งเป็นที่เก็บเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆเกี่ยวกับการจับช้างคล้องช้าง พิพิธภัณฑ์ชาวกูยซึ่งเป็นที่เก็บรวบรวมเรื่องราวความเป็นมาต่างๆ และเครื่องมือเครื่องใช้ของชนชาติพันธุ์ชาวกูย และที่นี่ยังเป็น “สุสานช้าง” ขนาดใหญ่หนึ่งเดียวในโลก ที่มีการนำเอากระดูกช้างที่เสียชีวิตแล้วมาฝังไว้  โดยทำเป็นเจดีย์รูปหมวกครอบเอาไว้บนหลุมฝัง เนื่องจากหมวกเป็นสัญลักษณ์ของนักรบ และเพื่อให้รู้ว่าเป็นช้างเชือกใด ชื่ออะไร 

โดยผู้ที่จะให้รายละเอียดในเรื่องราวต่างๆของวัดป่าอาเจียงแห่งนี้ ก็คือ ดร.พระครูสมุห์หาญ ปัญญาธโร เจ้าอาวาสวัดป่าอาเจียง ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มก่อตั้งวัดป่าแห่งนี้ขึ้นมาจากนิมิตของท่าน เมื่อปี พ.ศ.2550  โดยดร.พระครูสมุห์หาญ ได้เปิดเผยเรื่องราวประวัติความเป็นมาของวัดป่าอาเจียงแห่งนี้ว่า

ความเดิมอาตมาได้ทำโครงการช้างคืนถิ่นมาก่อน แต่พอช้างคืนถิ่นมา ช้างต่างบ้านต่างเมืองก็มาอยู่ร่วมกันจนแทบไม่มีที่อยู่ ก็เลยมาอยู่ใกล้ๆกับบริเวณนี้ซึ่งเดิมเป็นป่าช้าคนและช้าง ก็เลยกลัว ก็เลยคิดว่าเมื่อเราชวนเขามาแล้ว ก็เลยต้องมาอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนเขา เขาจะได้มีพระอยู่ใกล้ๆ จะได้อบอุ่น เพราะเขามาอยู่กันทั้งครอบครัว ซึ่งต่อมาก็ขออนุญาตสร้างเป็นวัด เดิมทีอยู่ข้างล่างซึ่งเป็นป่าช้ามาก่อนถึง 16 ปี จนมาถึงปี พ.ศ.2550 จึงได้ขึ้นมาขออนุญาตสร้างวัดตรงนี้ ก็มาอยู่ใกล้กับพวกช้างขึ้น ซึ่งก็จะมีวัดอยู่ตรงนี้ สวนสัตว์อยู่ตรงนี้ ศูนย์คชอยู่ตรงนี้ใกล้กัน

'ก่อนที่จะมาสร้างวัดก็ได้นิมิตมาก่อนว่า ช้างที่อาตมาเคยเลี้ยงเคยดูแลซึ่งอาตมาบวชก็เลย ขายไปไม่ได้ดูแล แต่ว่าก่อนเขาเสียชีวิต อาตมาก็ฝันมาเรื่องๆ  ก็เลยนึกว่าทำไมหนอถึงได้ฝัน เห็นช้างอยู่เรื่อยๆ และทุกครั้งที่ฝันเห็นเขาก็จะร้องไห้อยากจะมาอยู่กับเรา อยากจะมาอยู่กับ หลวงพ่อ อยากจะมาอยู่ด้วย เอาเขากลับมาคืนเถอะๆ พอเห็นนิมิตบ่อยๆก็เลยไปถามเจ้าของ ถึงได้รู่ว่าช้างเกิดอุบัติเหตุและเสียชีวิตไปแล้ว อาตมาเลยขอซื้อกระดูกมา เพื่อมาฝังไว้  แล้วก็จะหาเพื่อนช้างทั้งหมดที่ใครเขาศรัทธาบริจาค ก็จะมาเก็บไว้ที่สุสานร่วมกัน จนกลายมาเป็นสุสานช้างในปัจจุบัน'

ต่อมาก็ได้มีเจ้าของช้างที่ช้างเสียชีวิตแล้ว ได้นำเอากระดูกมาฝั่งไว้ที่นี่ ซึ่งในปัจจุบันมีอยู่จำนวน 133 เชือก โดยชาวบ้านที่นี่มีความเชื่อและผูกพันว่า เมื่อช้างของคนในหมู่บ้านนี้ไปเสียชีวิตอยู่ที่อื่น ก็จะต้องนำเอากระดูกกลับมาฝังไว้ที่นี่ แต่ก่อนจะนำเอากระดูกมาฝัง จะต้องฝังร่างช้างเอาไว้อย่างน้อย 5 ปี เพื่อที่จะให้เนื้อหนังย่อยสลายไปก่อน จึงจะนำเอากระดูกกลับมาฝังไว้ที่นี่ได้ เพื่อที่จะได้ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ในทุกๆปีในวันช้างไทย เสมือนสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัว ทั้งหมดนี้จึงเป็นที่มาของสุสานช้างแห่งนี้

“และที่วัดป่าอาเจียงแห่งนี้  ยังเป็นที่รวมรวบเครื่องใช้ต่างๆที่ใช้ในการคล้องช้าง  ซึ่งได้นำมาเก็บรวบรวมเอาไว้ที่พิพิธภัณฑ์ศาลประกำ  และยังมีพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมอารยะธรรมของชาติพันธุ์ของชาวกูยมาไว้ที่นี่   ให้ทุกคนได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้อีกด้วย  ซึ่งที่นี่เปิดให้เข้าชมฟรีทุกวันโดยไม่มีค่าใช้จ่าย  และยังสามารถเข้ามาศึกษาธรรมมะได้จากพิพิธภัณฑ์เอราวัณที่กำลังก่อสร้างใกล้จะแล้วเสร็จเร็วๆนี้อีกด้วย”  เจ้าอาวาสวัดป่าอาเจียง กล่าวในตอนท้าย

สำหรับสุสานช้างที่วัดป่าอาเจียงแห่งนี้  นับเป็นความภูมิใจของชาวสุรินทร์อีกแห่งหนึ่ง ที่ยังคงมีการอนุรักษ์สิ่งของต่างๆ รวมถึงอารยะธรรมโบราณของชาติพันธุ์ชาวกูยพื้นเมืองที่นี่ไว้ได้อย่างสมบูรณ์ นอกเหนือจากจะมีหมู่บ้านช้างที่เลื่องชื่อในระดับโลกแล้ว ที่นี่ยังเป็นอีกแห่งที่นับว่าเป็นหนึ่งเดียวของโลกเช่นกัน ที่น่ามาเยี่ยมชมและศึกษาของจังหวัดสุรินทร์

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ขนหัวลุก!เจอแสงไฟปริศนาลอยเหนือป่าช้า บุกตรวจพบซากเจดีย์บรรจุอัฐิกลางป่าเพียบ ขนหัวลุก!เจอแสงไฟปริศนาลอยเหนือป่าช้า บุกตรวจพบซากเจดีย์บรรจุอัฐิกลางป่าเพียบ
  • ฉายหนังกลางแปลงสูงเท่าตึก 4 ชั้น แก้บนถูกรางวัลใหญ่ ขนลุกธูปแตก 3 ตัว ฉายหนังกลางแปลงสูงเท่าตึก 4 ชั้น แก้บนถูกรางวัลใหญ่ ขนลุกธูปแตก 3 ตัว
  • ชาวบ้านผงะ!เข้าไปหาของป่าพบลูกกระสุนปืนใหญ่ปักคาต้นไม้ในป่าพนมดงรัก ชาวบ้านผงะ!เข้าไปหาของป่าพบลูกกระสุนปืนใหญ่ปักคาต้นไม้ในป่าพนมดงรัก
  • เฮฮากลางทุ่งหลังปิดเทอม! เด็กเมืองช้างพากันส่องไฟจับจิ้งหรีดไปปรุงเมนูแซ่บแบบอีสาน เฮฮากลางทุ่งหลังปิดเทอม! เด็กเมืองช้างพากันส่องไฟจับจิ้งหรีดไปปรุงเมนูแซ่บแบบอีสาน
  • \'โคตรมะไฟ\'ติดลูกดกจนขนลุก ถามหน่อยจะกินยังไงไหว 'โคตรมะไฟ'ติดลูกดกจนขนลุก ถามหน่อยจะกินยังไงไหว
  • แห่นาคบนหลังช้างโปรยทานนับแสน คึกครื้นคนร่วมงานทั้งตำบล ยาย 81 โชว์แดนซ์หน้ารถแห่ แห่นาคบนหลังช้างโปรยทานนับแสน คึกครื้นคนร่วมงานทั้งตำบล ยาย 81 โชว์แดนซ์หน้ารถแห่
  •  

Breaking News

(คลิป) หลอกหลอน 'โฆษกพรรคเพื่อไทย' ไปตลอดชีวิต

'ดร.เสรี' ถาม 'รมว.สธ.'ตัดสินใจอย่างไร จะยึดความถูกต้องหรือจะยึดการรับใช้?

แคชเมียร์ระอุ! 'ปากีสถาน'ยกระดับโจมตี ยิงถล่มเสียชีวิต 1 ราย

ละเมิดสิทธิเด็ก! ‘ยูเอ็น’ประณาม‘อิสราเอล’สั่งปิดโรงเรียนในเยรูซาเล็มตะวันออก อ้าง‘ฮามาส’แฝงตัว

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved