สะพรึง!! ความศักดิ์สิทธิ์ พระพิรุณทรงนาค 2 องค์  ไขปมนำองค์เก่าประดิษฐานไว้ภายในห้องพิพิธภัณฑ์กระทรวงเกษตร ใต้ห้องรมว.เกษตรฯ เผยเรื่องราวเร้นลับ พระพิรุณฯองค์เก่า เข้าฝันภรรยาอดีตปลัดกระทรวง ไม่อยากไปอยู่ที่อื่น 

เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2562 แหล่งข่าวระดับสูงกระทรวงเกษตรฯ เปิดเผยว่า หลายอดีตรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรฯจนถึงปัจจุบัน มีข้อสงสัย ทำไมกระทรวงเกษตรฯจึงมีรูปหล่อ พระพิรุณทรงนาค ถึง 2 องค์  โดยองค์ปัจจุบัน ประดิษฐานไว้หน้ากระทรวงฯ ส่วนองค์เก่า ตั้งอยู่ในห้องพิพิธภัณฑ์ของกระทรวง ภายในห้องชั้น 1 ซี่งอยู่ด้านล่างของห้องทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯที่อยู่บนชั้น2 รวมทั้งบรรดาข้าราชการ ยังวิพากษ์วิจารณ์ว่าตลอด 5-6ปีที่ผ่านมามีปัญหาภัยแล้ง น้ำในเขื่อนน้อยต่อเนื่อง นับจากย้ายพระพิรุณทรงนาค องค์เก่ามาไว้ในห้องพิพิธภัณฑ์ เพราะพระพิรุณ ท่านทรงเป็นองค์เทพล่อฟ้าล่อฝน  อยู่โล่งแจ้งดีกว่ามาไว้ในห้อง และเกิดเสียงเล่าลือด้วยว่าการปรับครม.ทุกครั้งจะมีรมต.เกษตรฯอยู่ในข่ายโดนปรับเปลี่ยนมาตลอด มาจากห้องที่นั่งทำงาน รมว.เกษตรฯทับพระพิรุณ หรือไม่  ทั้งยังมีอดีตรมว.เกษตรฯบางรายถึงกับไปหาหมอดูให้ช่วยหาทางแก้ไข เพราะสั่งอะไรไปข้าราชการไม่ทำตามคำสั่ง จะมีส่วนมาจากองค์พระพิรุณทรงนาค อยู่ใต้ห้องทำงานนั้นหรือไม่ 

แหล่งข่าว กล่าวว่า การทำพิรุณทรงนาค องค์ปัจจุบันได้ทำเมื่อปี 57 เพราะมีผู้รู้หลายคนทักว่าพระพิรุณองค์เก่า ทำผิดแบบหรือไม่ โดยถือพระขรรค์ด้านซ้าย ไม่ใส่รองเท้าแก้ว ซึ่งพระพิรุณทรงนาค ตามแบบสัญลักษณ์ของกระทรวง ถือพระขรรค์ ด้านขวา และซึ่งพระพิรุณเป็นสมมุติเทพ จะต้องใส่รองเท้าแก้ว  จึงได้ดำเนินการเปลี่ยนให้ถูกหลัก ทำองค์ใหม่ยึดแบบตราสัญลักษณ์ของกระทรวง และในช่วงนั้นก็มีเหตุความขัดแย้งภายในกระทรวงสูง มีข้าราชการจำนวนมากโดนคดี สอบวินัยร้ายแรง หลายรายติดคุกในโครงการทุจริต จนทำให้แทบจะไม่มีคนทำงาน จึงมีคำสั่งให้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาศึกษาอย่างละเอียดจนพบว่า พระพิรุณมีหลายปางมาก มีถึงถือพระขรรค์ด้านซ้ายและขวาซึ่งด้านซ้ายเท่าที่ข้อมูลปรากฏเป็นหลักฐานคือปรางลงโทษจึงอาจทำให้ข้าราชการถูกลงโทษจำนวนมาก ในสมัยที่นายยุคล ลิ้มแหลมทอง เป็นรมว เกษตรจึงตั้งคณะทำงานขึ้นมาศึกษาและหล่อองค์ใหม่ขึ้นมาในปี 2557 ใช้เวลา 3 เดือนและมีการทำพิธีจากพราหมณ์หลวง โดยช่างที่หล่อๆตามแบบกรมศิลปากรจากนั้นก็ทำพิธีประดิษฐานองค์ใหม่ไว้ที่หน้ากระทรวงแทนองค์เก่าที่เก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์กระทรวงเกษตรมาถึงปัจจุบัน 

“ขณะนั้นหลังจากที่ทำองค์ใหม่ แล้วเสร็จได้นำมาประดิษฐานหน้ากระทรวง และได้จัดเตรียมพื้นที่ไว้รองรับที่จะนำองค์เก่า ไปประดิษฐานไว้ที่พิพิธภัณฑ์การเกษตร ที่ จ.ปทุมธานี แต่กลับมีเหตุอาเพศ ระหว่างที่นำองค์เก่าออกจากฐาน ปรากฏว่า มีน้ำไหลออกจากองค์จำนวนมาก และมีเรื่องเล่าว่า พระพิรุณ มาเข้าฝันภรรยาอดีตปลัดกระทรวงเกษตรฯ ว่า ไม่อยากไปอยู่ที่อื่น จึงได้ยุติการขนย้าย ทางกระทรวงฯได้ทำพิพิธภัณฑ์ขึ้นเพื่อประดิษฐานองค์พระพิรุณทรงนาคองค์เก่า และรวบรวมของดีๆสิ่งสำคัญของโบราณของกระทรวงที่กระจัดกระจายตามที่ต่างๆมาจัดวางอย่างสวยงามเก็บรักษาไว้ด้วยกันเพื่อให้คนกราบไหว้สักการะ” 

ทั้งนี้ในการออกแบบพระพิรุณทรงนาค องค์ปัจจุบัน มีนายชูชาติ ฉุยกลม อดีตผู้ทรงวุฒิกรมชลประทาน เป็นคณะทำงานออกแบบพระพิรุณ ขึ้นเพื่อแทนองค์เก่าที่ทำในสมัยนายปองพล อดิเรกสาร เป็นรมว.เกษตรฯได้ให้สร้างหล่อองค์ พระพิรุณทรงนาค เพื่อเป็นเครื่องสักการะยึดเหนี่ยวทางใจของข้าราชการกระทรวงเกษตรฯและ หารือร่วมกับปลัดกระทรวง สมัยนั้น ซึ่งพระพิรุณ มีหลายปาง แต่ได้เลือก ถือพระขรรค์ด้านซ้าย และไม่ใส่รองเท้า โดยนายปองพล เลือกปางนี้ 

ภายหลังจากตั้งพระพิรุณทรงนาค องค์แรก ข้าราชการระดับสูง รัฐมนตรีกระทรวง โดนตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง ติดคุก กันไป จำนวนมาก พอมาปี57 สมัยนายสัตวแพทย์ ยุคล ลิ้มแหลมทอง เป็นรมว.เกษตรฯและ นายชวลิต ชูขจร เป็นปลัดกระทรวงฯ ได้ให้นายชูชาติ ศึกษาประวัติ พระพิรุณ อย่างท่องแท้ และนายชูชาติ เป็นผู้ที่เคารพเสื่อมใส พระพิรุณ อย่างมาก พบว่าพระพิรุณ ถือดาบด้านซ้าย เป็นปางประหาร  ทำให้ข้าราชการกระทรวงเกษตร โดนลงโทษหนัก จนไม่มีคนทำงาน ให้ไปหาปางใหม่ เพื่อมาให้ขวัญกำลังใจคนทำงาน แต่ในเวลาต่อมา นายชวลิต ก็ถูกคำสั่งย้ายไปประจำสำนักนายกรัฐมนตรี 

“นับจากมีการตั้งพระพิรุณทรงนาค องค์ปัจจุบัน ยังไม่มีข้าราชการ กรมไหน ถูกสอบวินัยร้ายแรง แม้แต่คนเดียว  แต่อยู่ๆมามีระดับผู้ใหญ่ไปสืบค้นเรื่องราวในการจะนำพิรุณทรงนาค องค์เก่าไปตั้งที่สระน้ำที่พิพิธภัณฑ์เกษตร ปทุมธานี เพราะสั่งลูกน้องสั่งใครไม่ได้ อาจมาจากพระพิรุณ ถูกนั่งทับหรือไม่ แต่ก็พ้นจากตำแหน่งไป โดยยังไม่ได้ดำเนินการอย่างไร” แหล่งข่าว กล่าว