ขุดพบ‘ใบเสมา’โบราณที่บุรีรัมย์ คาดเป็นศิลปะ‘สมัยทวารวดี’ ชาวบ้านเชื่อศักดิ์สิทธิ์

ขุดพบ‘ใบเสมา’โบราณที่บุรีรัมย์ คาดเป็นศิลปะ‘สมัยทวารวดี’ ชาวบ้านเชื่อศักดิ์สิทธิ์

วันศุกร์ ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2567, 16.03 น.

ขุดพบ‘ใบเสมา’โบราณที่บุรีรัมย์ คาดเป็นศิลปะ‘สมัยทวารวดี’ ชาวบ้านเชื่อศักดิ์สิทธิ์

15 มีนาคม 2567 เจ้าหน้าที่กลุ่มโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา ทำการขุดค้นศึกษาแหล่งโบราณคดีโนนสำโรง บ้านปะเคียบ ต.ปะเคียบ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ในโครงการศึกษาและกำหนดอายุแหล่งโบราณคดี ประเภทใบเสมาในวัฒนธรรมทวารวดี  


ทั้งนี้ การขุดค้นมีขึ้นเมื่อวันที่ 14 มี.ค.67 เจ้าหน้าที่พบใบเสมาสมัยทวารวดีสภาพสมบูรณ์ และยังอยู่ในตำแหน่งเดิมไม่มีการเคลื่อนย้าย 8 ใบ พบชิ้นส่วนภาชนะดินเผาที่ใช้ในการดำรงชีวิต รวมถึงอุปกรณ์ที่ใช้ประกอบพิธีกรรมความเชื่อของคนสมัยก่อนด้วย จากหลักฐานที่พบจึงสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นชุมชนโบราณที่มีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 12 - 16

จากข้อมูลพบว่าในหมู่บ้านปะเคียบ หมู่ 1 และบ้านหลักเมือง หมู่ 16 ต.ปะเคียบ มีการค้นพบใบเสมาโบราณกระจายอยู่ตามจุดต่างๆ 80 - 90 ใบ ซึ่งมากที่สุดเท่าที่เคยค้นพบ แต่บางส่วนได้ถูกเคลื่อนย้ายไปไว้ตามวัดบ้าง ศาลากลางบ้าง แต่ยังคงมีพื้นที่โนนสำโรงแห่งนี้ที่ใบเสมายังคงอยู่ในตำแหน่งเดิม ไม่มีการเคลื่อนย้ายออก ทางสำนักศิลปากรที่ 10  จึงได้ทำโครงการขุดค้นครั้งนี้ เพื่อศึกษาและกำหนดอายุแหล่งโบราณคดีโนนสำโรงแห่งนี้ โดยเจ้าหน้าที่จะเก็บตัวอย่างดินและภาชนะดินเผาที่ขุดพบบางส่วนไปตรวจหาค่าทางวิทยาศาสตร์ เพื่อกำหนดอายุสมัยแหล่งโบราณคดีให้มีความชัดเจนมากขึ้น ส่วนที่เหลือก็จะเก็บไว้ที่เดิม แล้วทำการปิดหลุม ให้ชุมชนร่วมกันดูแลอนุรักษ์

ขณะที่ชาวบ้านผู้สูงอายุที่ทราบข่าวก็ได้มาจุดธูปเทียนกราบไหว้ขอโชคลาภ และนำภาชนะใส่น้ำจากหลุมที่ขุดค้น เพื่อนำไปบูชา และทาตามร่างกาย เพราะเชื่อว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์  

นายกิตติพงษ์ สนเล็ก ผอ.กลุ่มโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา กล่าวว่า ที่ผ่านมากรมศิลปากรเคยมาสำรวจพื้นที่โนนสำโรง บ้านปะเคียบ หมู่  1 และบ้านหลักเมือง หมู่ 16 ต.ปะเคียบ เมื่อปี 2532 และเคยมีรายงานที่บันทึกไว้ว่าพบคูเมืองโบราณ และใบเสมามากถึง 80 - 90 ใบ ถือว่าเยอะมากหากเทียบกับแหล่งโบราณคดีอื่นๆจะค้นพบเพียง 30 - 40 ใบเท่านั้น และที่อื่นมีการเคลื่อนย้ายไปไว้ตามสถานที่ต่างๆ แต่ที่โนนสำโรงแห่งนี้ยังอยู่ตำแหน่งเดิม และสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ จึงเชื่อว่าเป็นชุมชนโบราณสมัยทวารวดี ซึ่งการขุดค้นครั้งนี้เพื่อกำหนดค่าอายุแหล่งโบราณคดีให้เกิดความชัดเจน และยังได้ศึกษาเรียนรู้วัฒนธรรมของคนสมัยโบราณด้วย  

ด้านนายอำนาจ ควินรัมย์ ผู้ใหญ่บ้าน (ผญบ.) หมู่ 1 บ้านปะเคียบ กล่าวว่า จุดที่ทำการขุดค้นเป็นพื้นที่ของนางสอน พอกแก้ว อายุ 67 ปี แต่ที่ผ่านมาจะมีสภาพรกร้าง ไม่มีใครกล้าเข้ามา เพราะจากคำบอกเล่าแม้กระทั่งเจ้าหน้าที่ที่เข้ามาสำรวจในพื้นที่แห่งนี้ ก็จะเจอกับเรื่องลี้ลับที่มองไม่เห็นต้องทำพิธีขอขมา ซึ่งชาวบ้านในหมู่บ้านก็เชื่อว่าพื้นที่ตรงนี้ศักดิ์สิทธิ์ ในส่วนของผู้นำชุมชนก็จะขอความร่วมมือให้ชาวบ้านร่วมกับดูแลอนุรักษ์ 

ขณะที่นางสะอาด แดงศรีบัว หนึ่งในชาวบ้านที่มากราบไหว้และนำภาชนะมาใส่น้ำจากหลุมที่มีการขุดค้นโบราณคดี กล่าวว่า หลังจากทราบข่าวว่ามีชาวบ้านนำน้ำจากหลุมที่ขุดค้นไปทาแล้วอาการปวดขัดที่ขาดีขึ้น จึงนำภาชนะมาใส่ไปบูชาและทาตามร่างกาย  เพราะเชื่อว่าเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ จากที่ผ่านมาไม่กล้าเข้ามาในพื้นที่นี้เลย เพราะมีเด็กเคยเข้ามาเอารังต่อในที่แห่งนี้ แล้วไปปัสสาวะ จนโดนเหมือนมีใครตบศีรษะอย่างแรงจนล้ม จึงเชื่อว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในที่แห่งนี้   ////-005

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top