เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2562 ชาวบ้านหมื่นศรีกลาง ร่วมกับชาวตำบลหมี่นศรีกว่า 200 คน ได้พากันไปแห่เจ้าปู่ตาหรือผีปู่ตา “พญาตะกวดยักษ์” ตามความเชื่อของ ชาวกูย ชนพื้นเมืองสุรินทร์ มีความเชื่อเรื่องผีบรรพบุรุษ เรียกว่า ยะจั๊วะเพรียม ( ผีปู่ตา ) ซึ่งถือปฏิบัติมาอย่างยาวนานตั้งแต่โบราณจวบจนปัจจุบันนี้ เพื่อประกอบพิธีกรรมโบราณศักดิ์ตามความเชื่อ เพื่อฝนฟ้าให้ตกต้องฤดูการ หลังฝนทิ้งช่วงมานานกว่า 2 เดือน ทำให้ชาวนาในพื้นที่ตำบลหมื่นศรี อำเภอสำโรงทาบ จังหวัดสุรินทร์ ได้รับความเดือดร้อน ต้นข้าวแห้งตายหลายหมื่นไร่
ชาวบ้านตำบลหมื่นศรี ได้พากันแห่บั้งไฟ และ ยะจั๊วะเพรียม ( ผีปู่ตา ) “พญาตะกวดยักษ์” รอบปราสาทปรางค์กู่ และร่วมกันประกอบพิธีเซ่นสรวง เรียกว่า แซนยะจั๊วะ เพื่อให้ฝนตกลงมา เพื่อที่จะให้ได้ให้ผลผลิตจากการทำนาทำไร่และให้ข้าวแก่ยุ้งฉาง โดยชาวบ้านตำบลหมื่นศรีถือว่าตะกวดมีอิทธิพลมาก บางทีก็ทำให้ฝนไม่ตก หากชาวบ้านประพฤติตนไม่ดีงาม หรือมีเหตุการณ์ไม่ดีเกิดขึ้นในหมู่บ้าน ตอนเช้าตะกวดจะออกจากโพรงเดินเพ่นพ่านหากินกบ เขียด คางคก ลูกไก่ หรือ ไข่ไก่ ตามหมู่บ้าน บางทีก็ขึ้นบนบ้าน ช่วงเที่ยงก็กลับมานอน ครั้นบ่ายก็ออกไปอีก ตกกลางคืนจะนอนนิ่งเงียบภายในโพรงไม้ ต้นไม้ที่มีตะกวดอาศัยอยู่จะมีนกกระสาฝูงใหญ่มาอยู่พึ่งพากัน และต้นไม้อื่นๆ ก็ปรากฏมีกระรอกกระแตมาอาศัยอยู่ในต้นไม้ภายในหมู่บ้าน
ชาวบ้านรักสัตว์เหล่านี้ จะไม่แตะต้องสัตว์ที่เป็นเพื่อนของปู่ตา (ตะกวด) สรรพนามที่เรียกตะกวด คือ “เขา” หรือพ่อ “พ่อเฒ่า” แม้เวลาที่เห็นและจับได้ว่าตะกวดกินลูกไก่ ก็จะไม่ตี จะไล่ให้ไปที่อื่นและไม่กล่าวคำหยาบต่อตะกวดเหล่านั้น การเซ่นยะจั๊วะเพรียม โดยที่จุดหมายอยู่ที่ความอุดมสมบูรณ์ เนื่องจากฝนฟ้าช่วยเสริมการเกษตร สำหรับชาวไทยกูยที่มิได้เลี้ยงช้างแต่ยึดอาชีพทำนาเป็นหลัก ซึ่งการประกอบพิธีจะกระทำในเวลาเช้ามืด ณ บริเวณยะจั๊วะตั้งอยู่ เครื่องเซ่นประกอบด้วยข้าว 1 จาน ไก่ต้ม 1 ตัว น้ำ 1 แก้ว เหล้า 1 ขวด หมาก-พลู 2 คำ บุหรี่ 2 มวน ข้าวเปลือก 1 ถ้วย และเงิน 12 บาท ในตอนเช้ามืดของวันที่จะประกอบพิธี ชาวบ้านจะนำเครื่องเซ่นดังกล่าวออกไปที่ยะจั๊วะเพรียม ซึ่งอยู่นอกหมู่บ้าน (มักใช้บริเวณสถานที่ตั้งหมู่บ้านนั้น ๆ ครั้งแรก) ผู้ทำพิธีเรียกว่า “เฒ่าจำ” หลังจากบนบานบอกกล่าวแล้ว ก็จะวางเครื่องเซ่นไว้ที่ศาล แล้วทำพิธีเสี่ยงทายโดยถอดกระดูกคางไก่ตัวที่เป็นเครื่องเซ่นออกมาดู
เพื่อทำนายฝนฟ้าและน้ำท่าในปีนั้น ถ้าคางไก่เหยียดตรง ทำนายว่าปีนั้นฝนจะตกน้อย น้ำน้อยคือฝนแล้ง แห้งแล้งมาก เนื่องจากไก่แหงนคอดูฟ้า คอยดูว่าเมื่อใดฝนจะตก จึงทำให้กระดูกคางไก่ตั้งตรง ถ้าคางไก่โค้งลง ทำนายว่าฝนจะตกอุดมสมบูรณ์ เพราะไก่ก้มลงกินน้ำและหากินตามปกติ จึงทำให้กระดูกไก่โค้งงอลง เมื่อการทำนายเสร็จสิ้นชาวบ้านจะยึดถือเป็นเกณฑ์ในการพิจารณาปรับปรุงการทำนาเก็บสะสมพืชพันธุ์ธัญญาหาร เพื่อให้เหมาะสมกับเหตุการณ์ต่อไป ซึ่งกูยช้าง-กูยตะกวด เป็นแบบอย่าง ที่น่าศึกษาด้านการรักษาระบบนิเวศวิทยาและการปลูกฝังความเชื่อ-ค่านิยมเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ที่น่าทึ่งและเหมาะสมในสภาวการณ์โลกในปัจจุบัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี