หนุ่มน้อยวัย 19 ปี ป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้อฝ่อ นอนติดเตียงไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ มีแม่ก็ป่วยปวดหลังกระดูกทับเส้นและโรคซึมเศร้า ยึดอาชีพรับจ้างซักรีด ที่ซอยสายฝนร่วมใจ 7 เขตเทศบาลเมืองราชบุรี เดือดร้อนหนักต้องใช้เครื่องช่วยหาใจราคาแพง วอนผู้ใจบุญช่วยต่อลมหายใจให้ลูก
30 ก.ค. 62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีสองแม่ลูกใช้ชีวิตอยู่อย่างยากลำบาก ลูกพิการเป็นโรคกล้ามเนื้อฝ่อ ส่วนแม่ก็ป่วยปวดหลังกระดูกทับเส้นและโรคซึมเศร้า อยู่บ้านเลขที่ 124/79 ถนนมนตรีสุริยวงศ์ 3 ซอยสายฝนร่วมใจ 7 เขตเทศบาลเมือง ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ราชบุรี ผู้เป็นแม่คือนางอนงค์น้อย ฉายชูวงษ์ อายุ 50 ปี ที่ดูแลนายกิตติธัช ฉายชูวงษ์ อายุ 19 ปี หรือ (น้องนนท์)ลูกชายที่พิการป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้อฝ่อตั้งแต่อายุ 10 ขวบ
นางอนงค์น้อย ผู้เป็นแม่ เล่าว่า หลังจากลูกเรียนหนังสืออยู่ที่โรงเรียนอนุบาลราชบุรีได้อายุประมาณ 9 ปี ก็ได้เริ่มหยุดเดิน ต่อมามือเริ่มหวิกงอ ขาเริ่มอ่อนแรงจึงให้ออกจากโรงเรียน ตนอดีตเป็นครูอัตราจ้างจากวิทยาลัยการอาชีพวังไกลกังวลหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ก็ต้องลาออกมาอยู่ดูแลลูกชายเพียงลำพัง เนื่องจากสามีได้แยกทางกันตั้งแต่ลูกยังเล็ก ช่วงที่ผ่านมาได้พาน้องนนท์ ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลศิริราช แพทย์ตรวจวินิจฉัยระบุป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้อฝ่อ หรือ กล้ามเนื้ออ่อนแรง สามารถมีชีวิตอยู่ได้ถึงอายุ 20 ปีเท่านั้น
ตอนนี้ลูกชายลำบากมาก จำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ เพราะหัวใจโตทำให้หายใจไม่สะดวก และยังปวดตามข้อตามกระดูก อีกทั้งต้องนอนติดเตียงจนมีแผลกดทับ ตอนนี้ได้ให้ยามอฟีนช่วยเหลืออยู่ หมอแนะนำให้กินยาโรคหัวใจ พอกินไปแล้วก็จะมีผลข้างเคียงตามมาอีก อีกทั้งหมอให้ไปพบทุกเดือนทำให้ลำบากเรื่องค่ารักษาพยาบาล ทั้งค่ารถ ค่าดูแลต่าง ๆ จึงตัดสินใจให้ลูกชายหยุดการให้ยามารักษาเป็นปีแล้ว ทำให้ตอนนี้มีอาการแย่ลง
ส่วนเครื่องช่วยหายใจที่มีอยู่นั้นเริ่มมีสภาพไม่ค่อยดีแล้ว จำเป็นต้องพาลูกไปรักษาที่โรงพยาบาลศิริราช เพื่อจะเปลี่ยนเครื่องช่วยหายใจเครื่องนี้มาใหม่ แต่ก็ยังไม่มีโอกาสพาลูกชายไปรักษา โดยลูกชายป่วยเป็นกล้ามเนื้ออ่อนแรง หัวใจโต โรคซึมเศร้า เพราะช่วงนี้ใกล้เวลาที่น้องนนท์จะหมดชีวิตจากไปแล้ว น้องรู้มาตลอดว่าตัวเองจะอยู่กับแม่ได้เพียงอายุ 20 ปี ไม่รู้จะมีหนทางไหนที่จะพาลูกไปหาหมอรักษาได้
นางอนงค์น้อย กล่าวอีกว่า ช่วงที่ผ่านมาทางหน่วยงานราชการได้มาช่วยเหลือเบื้องต้นบ้าง แต่พอถึงลูกใกล้หมดอายุก็มาตัดสิทธิ์ที่พึงได้รับหมดเลย เพราะว่าลูกมีอาการแย่มากแล้ว คงมีแต่เพียงเบี้ยพิการรายเดือน ส่วนโรงพยาบาลราชบุรีจะมีพยาบาลมาดูแล 2-3 เดือนต่อครั้ง ตอนนี้น้องเริ่มไม่มีแรงจากที่เมื่อก่อนใช้มือตักข้าวกินเองได้ แต่เดี๋ยวนี้ต้องป้อนข้าวให้ และยังมีปัญหาเรื่องระบบขับถ่าย ก่อนหน้านี้ยังทำงานได้ แต่ช่วงนี้ต้องคอยเฝ้าดูแลอยู่ใกล้ ๆ จึงหางานรับจ้างซักรีดรายได้ไม่แน่นอน แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่ต้องใช้จ่ายในการจะต้องหาเงินไปใช้หนี้สิน อีกทั้งเครื่องช่วยหายใจเริ่มมีสภาพเสื่อมแล้วเพราะใช้งานมาหลายปี
ทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลศิริราชโทรศัพท์มาแจ้งว่าให้นำเครื่องนี้ไปตรวจเช็คสภาพ พร้อมกับนำลูกชายไปตรวจสภาพร่างกาย และต้องนอนรักษาคืนละ 8,000 บาท เป็นห้องตรวจรักษาที่จะเตรียมให้ลูกตรวจสุขภาพทั้งร่างกายสัมพันธ์กับการใช้เครื่องช่วยหายใจเครื่องที่จะต้องให้ลูกใช้รักษา เวลาเดินทางไปต้องใช้ค่าใช้จ่ายเยอะมากเลยตัดสินใจไม่พาลูกไปรักษา จนลูกมีอาการเริ่มทรุดลงแล้ว
"โดยหมอระบุว่าลูกไม่มีทางรักษาหายได้แต่รอเวลาหมดอายุเท่านั้น ไม่ได้มีหวังว่าลูกจะหาย แต่ขอหวังว่าจะช่วยต่อลมหายใจให้ลูกอยู่กับเราให้นานที่สุดเท่าที่จะนาได้ในช่วงสุดท้ายของชีวิตเท่านั้น ส่วนตัวเองล้มป่วยเป็นโรคหมอนรองกระดูกเคลื่อน หนือกระดูกทับเส้น มาจากการช่วยดูแลยกตัวลูกชายอยู่ตลอด คอยป้อนข้าว น้ำ พาเข้าห้องน้ำ เสร็จแล้วจึงรีบซักผ้านำมารีดส่งลูกค้ามีรายได้ประมาณวันละ 200 - 300 บาท ไม่แน่นอน ลูกชายต้องใช้เงินแต่ละวันละประมาณ 100 บาท ส่วนตัวเองอาศัยกินกับข้าววัดจากที่เพื่อนบ้านเอามาให้ประทังชีวิตไป
สำหรับความสามารถพิเศษของน้องนนท์ จะมีความจำดี คิดเลขเร็ว สามารถจำปี พ.ศ.ได้และปี ค.ศ.ได้อย่างแม่นยำ เช่น เกิด ปี พ.ศ. 2519 เมื่อคิดเป็นปี ค.ศ. จะเป็นปี ค.ศ. 1976 และ พ.ศ. 2511 เมื่อแปลเป็นปี ค.ศ.จะได้ ปี ค.ศ. 1968 ส่วนปี พ.ศ. 2550 แปลเป็นปี ค.ศ.ได้คือ ปี 2007 และยังรู้ปีที่เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งเกิดในสมัยปี พ.ศ. 2482 และยังรอบรู้เรื่องรุ่นอาวุธปืนรุ่นต่าง ๆ ตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบันด้วย" แม่น้องนนท์ ระบุ
ส่วนผู้ที่มีจิตศรัทธาอยากจะช่วยเหลือ 2 แม่ลูก สามารถติดต่อช่วยเหลือได้ที่ เบอร์โทรศัพท์หมายเลข 085-1900853 หรือ ติดต่อบริจาคเงินได้ที่หมายเลขบัญชี 356-0-074983 นางอนงค์น้อย ฉายชูวงษ์ ธนาคารกรุงไทย สาขาถนนไกรเพชร อ.เมือง จ.ราชบุรี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี