12 สิงหาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงวันหยุดติดต่อกันหลายวัน หลายคนเดินทางไปท่องเทียวต่างจังหวัดซึ่งก่อนกลับก็จะแวะสถานที่สำคัญทางศาสนาและกราบนมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์ “คู่บ้านคู่เมือง” ประจำจังหวัดนั้นๆ เพื่อความเป็นสิริมงคล เป็นมงคลชีวิตและเป็นกำลังใจ ในการทำงานต่อไป
อย่างที่ จ.อำนาจเจริญ ช่วงวันหยุดก็ได้มีนักท่องเที่ยว พุทธศาสนิกชนเดินทางไปที่ “วัดสุทธิกาวาส” ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านวินัย ต.นาป่าแซง อ.ปทุมราชวงศา จ.อำนาจเจริญ กันอย่างต่อเนื่อง ถ้าเดินทางโดยรถยนต์ออกจากตัวเมืองอำนาจเจริญ ด้านทิศตะวันออกไปตามถนนอรุณประเสริฐ ประมาณ 27 กม. ถึงบ้านสามแยกชมพู เลี้ยวขวา เข้าถนนสายรองอีก 3 กม. ถึงบ้านวินัย ก็จะพบเห็นพระธาตุลักษณะคล้ายพระธาตุพนม สูงเด่นชัดเจน ความสูง 30 เมตร ตั้งอยู่ภายในวัดสุทธิกาวาส บนเนื้อที่ 30 ไร่ มีพระสงฆ์จำพรรษา 6 รูป มัคนายก 1 คน เป็นวัดเก่าแก่มีเจ้าอาวาสผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไปแล้วหลายรูป
ทว่าที่โดดเด่นและน่าอัศจรรย์พุทธศาสนิกชนนับถือศรัทธามาก ก็คือ ภายในวิหารขนาดเล็ก ด้านทิศใต้ของวัด จะพบเห็น “โลงแก้ว” บรรจุสังขาร พระครูสุทธิ พัฒนาภรณ์ หรือ “หลวงพ่อศรีทา” ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดองค์ก่อน มรณภาพไปแล้วกว่า 10 ปี อยู่ในสภาพห่มจีวร “ไม่เน่าไม่เปื่อย” เส้นผม เล็บมือ เล็บเท้า ยังอยู่ครบ เป็นปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ ที่แปลกยิ่งนัก
ซึ่งโลงแก้วหลวงพ่อศรีทา ยกสูงจากพื้นดินประมาณ 1 เมตร พร้อมรูปถ่ายอยู่ด้านหน้า มีกระถางธูปเทียน สำหรับพุทธศาสกนิชนไว้จุดกราบไหว้บูชา และตู้รับบริจาคตั้งอยู่ข้างๆ ห่างไปประมาณ 2 เมตร ก็จะพบเห็นห้องใต้ดิน ซึ่งเป็นสถานที่สำหรับนั่งสมาธิของหลวงพ่อศรีทา เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ ช่วงระหว่างเข้าพรรษา 3 เดือน และหลวงพ่อศรีทานั่งสมาธิละสังขารที่นี่ ขณะมีอายุ 70 ปี
สำหรับ พระครูสุทธิ พัฒนาภรณ์ หรือ หลวงพ่อศรีทา เป็นลูกศิษย์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ได้เดินธุดงค์ไปทั่วภาคอีสาน และข้ามไปฝั่งประเทศลาว จำพรรษาที่ถ้ำแกลบอยู่ 10 ปี ต่อมา ชาวบ้านวินัยนิมนต์กลับวัดบ้านเกิดจนกระทั่งอายุ 70 ปี ท่านได้ละสังขาร เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2549 ขณะนั่งสมาธิที่ห้องใต้ดิน พุทธศาสนิกชน จึงอัญเชิญเก็บไว้ในโลงแก้ว รวมเวลา 13 ปี สภาพไม่เน่าเปื่อย ผิวหนังแห้ง เส้นผม เล็บมือ เล็บเท้า ยังคงเหมือนเดิมทุกอย่าง เมื่อพุทธศาสนิกชนทราบ จึงเดินทางเข้ามาดูให้เห็นกับตา พร้อมกราบไหว้ด้วยความศรัทธาทุกวัน
ส่วน “พระธาตุปทุมราชวงศา” เกิดจากแรงศรัทธาของประชาชนชาวอำนาจเจริญ ร่วมกันสร้างขึ้น เมื่อปี พ.ศ.2518 ซึ่งเป็นปีเดียวกับองค์พระธาตุพนม จ.นครพนมถล่ม จึงได้นำเอาอิฐหินปูนจากพระธาตุพนมที่ถล่ม มาผสมก่อสร้างเป็นพระธาตุปทุมราชวงศา ลักษณะรูปทรงจึงคล้ายกับพระธาตุพนมองค์จริง และได้มีการต่อเติมอยู่ตลอดเวลา จนเสร็จสมบูรณ์อย่างที่เห็นในปัจจุบัน เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางศาสนาและเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจของชาว จ.อำนาจเจริญและจังหวัดใกล้เคียง ที่สำคัญ ทุกวันพระพุทธศาสนิกชน จะมีการเวียนเทียนรอบองค์พระธาตุปทุมราชวงศา เพื่อความเป็นสิริมงคล เป็นมงคลชีวิต อยู่เย็นเป็นสุขนั่นเอง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี